ปี 1952 นายจอห์น ไรกัส ซึ่งมีโรงละครเล็กๆ ทางชนบทตอนเหนือของรัฐเพนซิลวาเนีย
ด้านใต้ของนิวยอร์ก ซื้อสัมปทานเคเบิลทีวีตาม คำแนะนำของเพื่อน ตอนนั้นมีระบบเคเบิลเล็กๆ
เพียง 60 รายในอเมริกา
ไรกัส และน้องชาย นายกัส สร้างระบบเสาอากาศในชุมชน เชื่อมกับผู้ผลิตเคเบิลรายใหญ่
ซื้อสัมปทานเคเบิลชานเมืองเล็กๆ แทนที่
การเป็นสัมปทานในเมืองใหญ่ ตั้งชื่อว่า อเดลเฟีย (Adelphia) ภาษากรีกแปลว่า
"พี่ชายน้องชาย"
ปี 1983 จอห์นซื้อหุ้นของน้องชาย และต่อมาลูกชายของจอห์น คือ ไมเคิล ทิโมธี่
และเจมส์ เข้าดำรงตำแหน่งรองประธานฝ่ายบริหาร ผู้อำนวยการ และผู้ถือหุ้นใหญ่
ปี 1994 จอห์น ไรกัส กลายเป็นเจ้าของใหญ่ของทีมฮอกกี้ Buffalo Sabres ด้วยเงินลงทุน
15 ล้าน
ปี 1998 Worldcom มีลูกค้าถึง 2 ล้านคน
ปี 1999 บริษัทขยายตัวขึ้นกว่าเท่าตัว เมื่อทิโมธี่ ไรกัส หัวหน้าสำนักงานการเงิน
และหัวหน้าสำนักงานบัญชี เป็นผู้จัดการในการรวม
บริษัทกับฟรอนเทียร์วิชั่น, เซ็นจูรี่ คอมมิวนิเคชั่น และฮาร์ร่อน คอมมิวนิเคชั่น
ปี 2000 นายจอห์น ไรกัส กลายเป็นเจ้าของแต่ผู้เดียวของทีมฮอกกี้ เมื่อซื้อหุ้นเล็กๆ
ทั้งหมด
ปี 2002 บริษัทประกาศพบหนี้สิน 2-3,000 ล้านที่ครอบครัวนี้ยืมโดนผ่านทางธุรกิจอื่นของครอบครัว
และกันยอดหนี้ออกจากสมุดบัญชี งบประมาณของบริษัท ทางครอบครัวได้ลาออกจากตำแหน่งทั้งหมด
โดยส่งมอบสินทรัพย์และเงินสดกว่า 1.6 พันล้านดอลลาร์ให้ แต่ก็ยังไม่เพียง
พอกับหนี้สินที่ก่อไว้ ขณะเดียวกัน พบว่าครอบครัวนี้มีสินทรัพย์และธุรกิจส่วนตัวจำนวนมาก
ที่เชื่อว่า ดึงไปจากเงินมหาชนของบริษัท
เพียงเวลา 3 เดือนเท่านั้น หุ้นอเดลเฟียตกจาก 20.39 ดอลลาร์ เหลือต่ำกว่า
75 เซ็นต์ และถูกสั่งห้ามซื้อขายในตลาด
สัญญาณล้มละลาย 3 เดือนสุดท้าย
26 มีนาคม หุ้นของอเดลเฟียยังขายกันที่ 20.39 ดอลลาร์ โดยนับถึงวันนี้อเดลเฟียมีสมาชิก
5.7 ล้านคน ใน 32 รัฐ และเปอร์โตริโก อาณานิคมของสหรัฐฯ
27 มีนาคม บริษัทเปิดเผยว่า ครอบครัวไรกัส ผู้ก่อตั้งบริษัทได้กู้ยืมเงินไป
2.3 พันล้าน ผ่านทางธุรกิจหลายอย่างที่ครอบครัวนี้เป็นหุ้นส่วน หนี้สินถูกกันออกจากสมุดบัญชีของบริษัท
และบริษัทอาจต้องรับผิดชอบหนี้บางส่วน
บริษัทอเดลเฟีย บิสซิเนส โซลูชั่น ให้บริการด้านโทรคมนาคมและอินเทอร์เน็ต
ยื่นขอศาลคุ้มครองล้มละลาย หุ้นอเดลเฟียตก 18%
28 มีนาคม อเดลเฟียบอกว่า บริษัทอาจต้องรับผิดชอบหนี้สินประมาณ 500 ล้านที่บริษัทรับประกันให้อเดลเฟีย
บิสซิเนส โซลูชั่น
1 เมษายน อเดลเฟียบอกตลาดหลักทรัพย์ว่า บริษัทไม่สามารถส่งรายงานการเงินประจำปีได้ทันเวลา
หุ้นตกเหลือ 13.12 ดอลลาร์
2 เมษายน กลุ่มผู้ซื้อหุ้นฟ้องร้องยกแรก ถึงการที่บริษัทปกปิดยอดหนี้นอกบัญชี
และกล่าวหาว่าราคาหุ้นตกตอบรับคำประกาศในเชิงลบ เหล่านั้น
4 เมษายน อเดลเฟียประกาศจ้างสามธนาคารเพื่อการลงทุนเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
หาลู่ทางขายสินทรัพย์ด้านเคเบิลทีวี และหนทางอื่นเพื่อลดหนี้
17 เมษายน อเดลเฟียเปิดเผยว่า ก.ล.ต. เปิดการสอบบัญชีบริษัท
2 พฤษภาคม บริษัทประกาศว่าจะทบทวนบัญชีปี 1999, 2000 และ 2001 ใหม่ เพื่อบรรจุหนี้สินที่เคยหมกไว้นอกบัญชี
8 พฤษภาคม อเดลเฟียประกาศจูงใจให้ประมูลระบบเคเบิล ในลอสแองเจลิส ฟลอริดา
เวอร์จิเนีย และพื้นที่อื่นๆ แถบตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีสมาชิกเกือบครึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิก
5.7 ล้านคน เพื่อลดหนี้สิน
15 พฤษภาคม ไรกัสผู้พ่อ อายุ 77 ปี ประกาศลงจากเก้าอี้ประธานกรรมการ ประธานบริหาร
และหัวหน้าฝ่ายบริหาร บอกว่า บริษัท ต้องการผู้นำใหม่ที่สดและไม่ขึ้นกับใคร
เออร์แลนด์ อี เคลเบิร์น อดีตประธานและหัวหน้าฝ่ายบริหาร ธนาคารฟลีท เนชั่นแนล
ภาคพื้นนิวยอร์ก และประธานคณะกรรมการตรวจบัญชีอเดลเฟียที่เข้ามารับตำแหน่งได้
8 เดือน ขึ้นรับตำแหน่งประธานกรรมการ และรักษาการหัวหน้า ฝ่ายบริหาร
ตลาดหุ้นแนสแดค แขวนการซื้อขายหุ้น อเดลเฟียบอกว่ากำลังตรวจสอบข้อมูลเพิ่ม
16 พฤษภาคม อเดลเฟียประกาศว่าหัวหน้าฝ่ายการเงิน ทิโมธี่ เจ.ไรกัส ผู้ลูก
ลาออกจากตำแหน่ง
17 พฤษภาคม อเดลเฟียเปิดเผยว่า ลูกขุนรัฐบาลในนิวยอร์กและเพนซิลวาเนียกำลังตรวจสอบการเงินของบริษัท
ซึ่งไม่ได้จ่ายดอกเบี้ยพันธบัตรถึง 44.7 พันล้าน
23 พฤษภาคม ครอบครัวไรกัสวางมือทั้งหมด โดยจอห์นผู้พ่อ ทิโมธี่ ไมเคิล
และเจมส์ ลูกชาย ลาออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการ
ทางครอบครัวตกลงมอบสินทรัพย์พันล้านดอลลาร์ให้บริษัทเพื่อชำระหนี้สิน และผันเงินอีก
567 ล้านดอลลาร์ จากบริษัทเคเบิลอื่นที่บริษัทเป็นหุ้นส่วน รวมถึงใช้หุ้นที่ครอบครัวถือไว้ทั้งหมดค้ำประกันเพิ่มเติม
อเดลเฟียประมาณว่า บริษัทต้องรับผิดชอบหนี้ที่ครอบครัวนี้สร้างไว้ถึง 3.1
พันล้านดอลลาร์
24 พฤษภาคม อเดลเฟียเปิดเผยข้อมูลว่า ครอบครัว ไรกัส ใช้เงินสดหรือสินทรัพย์ของบริษัท
ซื้อกิจการทีมฮอกกี้ Sabres เอาไปเพิ่ม วงเงินซื้อหุ้นบริษัทเคเบิลของครอบครัว
เข้าครอบครองธุรกิจบริษัท ทิมเบอร์แลนด์ และลงทุนสนามกอล์ฟ และกิจการเหล่านั้นส่วนมากไม่ได้รับการอนุมัติโดยคณะกรรมการบริษัท
บริษัทกล่าวว่า กำลังสอบสวนการที่ครอบครัวใช้เหล่าเครื่องบินเจ็ตของบริษัท
เหล่าคอนโดมิเนียม และเหล่าอพาร์ตเมนต์ ของบริษัท ไปในกิจกรรมส่วนตัวหรือไม่
30 พฤษภาคม ตลาดหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี (แนสแดค) บอกว่าจะลบหุ้นอเดลเฟียในวันที่
3 มิถุนายน
3 มิถุนายน หุ้นของอเดลเฟียถูกปลดจากแนสแดค และค้าขายกันในวงนอกที่ราคา
75 เซ็นต์ต่อหุ้น
10 มิถุนายน อเดลเฟียประกาศปลด บริษัท Deloitt & Touche บริษัทผู้ทำบัญชีออก
และบอกว่ากำลังหาบริษัทใหม่
14 มิถุนายน อเดลเฟียบอกว่า จ้างบริษัทบัญชี ไพร้ซ์วอเตอร์เฮ้าส์คูเปอร์
และไล่ 7 ลูกจ้างที่ทำงานรับใช้ครอบครัวไรกัสออก รวมถึง ปลดลูกจ้าง 11 คน
ที่เคยทำงานที่สนามกอล์ฟที่ยังสร้างไม่เสร็จ
บริษัทบอกว่า กำลังสอบสวนการซื้อตำแหน่งสมาชิกราคา 700,000 เหรียญ ที่สนามกอล์ฟชั้นสูง
ไบรอาร์ครีค ในเซาต์คาโรไลนา เมื่อหลายปีก่อน ว่าเพื่อประโยชน์ทางธุรกิจหรือเพื่อใช้ส่วนตัวของครอบครัวไรกัส
17 มิถุนายน อเดลเฟียไม่สามารถจ่ายดอกเบี้ยพันธบัตร 96 ล้านดอลลาร์ และขอจ่ายเป็นหุ้นส่วนขยายเพิ่มแทน
21 มิถุนายน แหล่งข่าวบอกว่า อเดลเฟียตกลงกับธนาคารสองแห่งได้กู้เงิน 1.5
พันล้าน เพื่อดำเนินงานต่อ ขณะปรับโครงสร้างภายใต้ การคุ้มครองล้มละลายมาตรา
11
25 มิถุนายน อเดลเฟียยื่นร้องล้มละลายต่อศาล