|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ซึทาญ่าปรับตัวรับสถานการณ์เศรษฐกิจไทยผันผวน หวังกระจายสาขาเข้าถึงชุมชน ปรับกลยุทธ์แฟรนไชส์ใหม่ 4 รูปแบบ ให้คล่องตัว ลงทุนขั้นต่ำ 1.7 ล้านบาท ตั้งเป้าปีนี้เปิดสาขาครบ 260 แห่ง ชี้กรุงเทพฯยังมีช่องว่างเปิดได้ถึง 300 แห่ง คาดรายได้ปีนี้เติบโต 25%
นายวันดี พละพงค์พานิช ประธานบริษัท ซึทาญ่า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากกรณีที่สภาพเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทยมีความผันผวน อีกทั้งซึทาญ่าต้องการที่จะขยายธุรกิจให้เข้าไปถึงกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้นในระดับชุมชน ดังนั้นในช่วงจากนี้ทางซึทาญ่าได้ปรับรูปแบบการลงทุนขายแฟรนไชส์ใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์และเป้าหมายดังกล่าว
ก่อนหน้านี้สาขาของซึทาญ่าส่วนใหญ่จะเป็นขนาดใหญ่พื้นที่ 100 ตร.ม.ขึ้นไป ใช้เงินลงทุนกว่า 3.6-4 ล้านบาทต่อสาขา ซึ่งซึทาญ่ามีแผนที่จะขยายสาขาอย่างต่อเนื่องทั้งในกรุงเทพฯ ซึ่งคาดว่ายังสามารถที่จะเปิดได้ถึง 300 แห่ง จากปัจจุบันที่บริษัทฯ มีเพียง 100 แห่ง และในต่างจังหวัดก็ยังมีศักยภาพที่จะเปิดได้อีกมาก คาดว่าภายใน 3-5 ปีจากนี้ ด้วยกลยุทธ์ที่ใช้คือรูปแบบใหม่ของร้านจะทำให้การขยายสาขาครอบคลุมทั่วประเทศได้แน่นอน และเชื่อมั่นว่าเมื่อสาขากระจายไปเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้นและง่ายขึ้นจะส่งผลดีทางอ้อมคือทำให้สินค้าหนังแผ่นเถื่อนลดน้อยลงได้ด้วย
ปัจจุบันซึทาญ่าคาดว่าจะมีสาขา 220 แห่งเมื่อสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ แบ่งเป็นสาขาของบริษัท 10% และสาขาของแฟรนไชส์ซี 90% คาดปีนี้จะมีสาขาครบ 260 แห่ง โดยมีรายได้เมื่อปีที่แล้ว 1,200 ล้านบาท คาดว่าในปีนี้ด้วยสาขาที่เพิ่มมากขึ้นและบริการต่างๆ ที่เพิ่มมากขึ้นจะทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 1,500 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 25% ซึ่งสัดส่วนรายได้มาจากการเช่ามากถึง 70% โดยมูลค่าตลาดรวมของธุรกิจโฮมเอนเตอร์เทนเมนท์คาดว่ามีสูงถึง 8,000 ล้านบาท
ทั้งนี้รูปแบบแฟรนไชส์ใหม่นี้จะลงทุนขั้นต่ำประมาณ 1.7 ล้านบาท ประกอบด้วย 4 รูปแบบคือ 1. สตูดิโอ 50 พื้นที่ 50 ตรม. ลงทุน 1.7 - 1.8 ล้านบาท 2. วิลล่า พื้นที่ 70-100 ตรม. ลงทุน 2.6 – 2.7 ล้านบาท 3.คลาสสิค พื้นที่ 100 ตรม. ลงทุน 3.1 – 3.2 ล้านบาท 4.โซไซตี้ พื้นที่ 100 ตรม. ลงทุน 3.6 – 4.2 ล้านบาท ซึ่งรวมค่ารอยัลตี้ฟี 7% และค่ามาร์เก็ตติ้งฟี 1% แล้ว เจาะกลุ่มเป้าหมายที่เป็นเจ้าของพื้นที่ที่ต้องการสร้างรายได้จากพื้นที่ที่มีอยู่ นักลงทุนที่มีงานประจำและต้องการเป็นเจ้าของกิจการหรือเป็นลูกจ้างตนเอง นักลงทุนที่ต้องการลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์ที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน นักลงทุนที่มีเงินออมและต้องการกระจายความเสี่ยงในการลงทุน
โดยคาดว่าภายในเดือนกรกฏาคมนี้จะสามารถเริ่มเปิดบริการทดลองในรูปแบบสตูดิโอ 50 ได้เป็นสาขาแรกที่ถนนเจริญนคร และมีเป้าหมายที่จะเปิดให้ได้ประมาณ 50 แห่ง ภายในปีแรกนี้ ซึ่งซึทาญ่ามีศักยภาพที่จะเปิดสาขาได้ประมาณเดือนละ 15 สาขา ขณะนี้เปิดได้ 7-8 สาขาต่อเดือน เพิ่มจากเมื่อก่อนที่เปิดได้ 3-4 สาขาต่อเดือน ซึ่งนอกจากรูปแบบร้านขนาด 4 แบบนี้ แล้วยังมีการขยายสาขาแบบคีออสด้วยที่เป็นจุดขายสินค้าอย่างเดียว เช่น ที่บีทีเอสอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เป็นต้น คาดว่าปีนี้จะมีครบ 20 จุด
“เราให้ความสำคัญกับทุกรูปแบบไม่ได้เน้นแบบใดเป็นพิเศษ แต่ทั้งนี้การที่จะตัดสินใจให้แฟรนไชส์รูปแบบใดกับใครนั้น ต้องดูหลายองค์ประกอบไม่ว่าจะเป็นทำเล ซึ่งเป็นปัจจัยหลักถึง 50% นอกนั้นก็ดูพฤติกรรมของผู้บริโภคและความต้องการของตลาดย่านนั้น เพราะแต่ละที่ก็จะไม่เหมือนกัน” นายวันดีกล่าว
ทั้งนี้การลงทุนแต่ละรูปแบบก็จะมีลักษณะแตกต่างกันไป อาทิ สตูดิโอ 50, วิลล่าและคลาสสิค เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีเงินทุนไม่สูงมากนักแต่สามารถเป็นเจ้าของกิจการซึทาญ่าได้ง่ายมากขึ้น ทำเลที่ตั้งจะเป็นแบบสแตนด์อโลนในย่านชุมชน ในขณะที่โซไซตี้จะเหมาะสำหรับเปิดแบบสแตนด์อโลนหรือเปิดตามโมเดิร์นเทรดต่าง ๆ ซึ่งโซไซตี้จะเป็นลักษณะรูปแบบและขนาดการลงทุนของร้านซึทาญ่าสาขาต่าง ๆ ในปัจจุบันที่เปิดในช่วงที่ผ่านมาคือมีสินค้าวีซีดี ดีวีดีทั้งเช่าและจำหน่าย โดยมุ่งเน้นขยายเครือข่ายในกรุงเทพฯ เป็นอัตราส่วน 40% และต่างจังหวัด 60 % เน้นการคืนทุนในระยะเวลา 3 - 4 ปี ทั้งนี้อัตราผลตอบแทนจะขึ้นอยู่กับเงินทุนที่ลงทุน
“ซึทาญ่าได้ปรับองค์กรและระบบการบริหารจัดการทั้งหมดเช่น การบริหารงานหน้าร้าน การปรับแผนการตลาด การนำเอาเทคโนโลยีและโนว์ฮาวเฉพาะด้านเข้ามาช่วยในการบริหารงานแฟรนไชส์ การออนไลน์ร้านซึทาญ่าทุกสาขาซึ่งทำให้สามารถเชื่อมโยงข้อมูลและตรวจสอบยอดขายได้ทันที
และขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเชื่อมโยงเครือข่ายสาขาทุกสาขาและคาดว่าจะสามารถออนไลน์ได้ครบทุกสาขาในเดือนตุลาคม 48 นี้ นอกจากนั้นยังมีการใช้ระบบไคเทนริสึในการบริหารการหมุนเวียนสินค้าให้มีประสิทธิภาพ โดยปีนี้ใช้งบตลาดทั้งหมดรวม 60 ล้านบาท จากปีที่แล้วที่ใช้ 20 ล้านบาท” นายวันดีกล่าว
|
|
|
|
|