Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน22 มิถุนายน 2548
ปตท.ดันหุ้นทะยาน 10 จุด 'โต้ง' ขอแรงช่วยจับหุ้นปั่น             
 


   
search resources

Stock Exchange




ตลาดหุ้นไทยขึ้นต่อ 10 จุด วอลุ่ม 1.8 หมื่นล้าน ต่างชาติซื้อสุทธิ 906 ล้านบาท รวมตลอดเดือนซื้อ 1.1 หมื่นล้าน "พัฒนสิน" ชี้นักลงทุนมองปัจจัยในประเทศมากขึ้น เชื่อวันนี้ไปต่อหลังได้สื่อสาร-พลังงานดัน "ทีเอสอีซี" ชี้นักลงทุนเล่นหุ้นชิ้นส่วน ได้ประโยชน์เงินบาทอ่อน ไม่กระทบน้ำมันแพง บล.เอเพกซ์ เผยตัวเลขฝรั่งซื้อเดือน มิ.ย.กว่า 1.1 หมื่นล้าน "กิตติรัตน์" ฝากบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินช่วยคัดเลือกบริษัทที่มีคุณภาพเข้า ตลท. วอนนักลงทุนหยุดเล่นหุ้นหวือหวา 4 วัน แล้วอาจขอข้อมูลโบรกเกอร์ดูรายชื่อคนที่ติดยอดดอย ใครเป็นใคร

ภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์วานนี้ (21 มิ.ย.) ดัชนีปรับลดลงในช่วงเปิดตลาดก่อนจะเริ่มปรับขึ้น ส่งผลให้ดัชนีปิดที่ 689.64 จุด เพิ่มขึ้น 9.96 จุด หรือ 1.47% โดยจุดสูงสุดของวันอยู่ที่ 689.93 จุด มูลค่าการซื้อขาย 18,190.07 ล้านบาท ซึ่งนอกจากหุ้นกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะหุ้นปตท. (PTT) ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 3% มาปิดที่ 222 บาท เพิ่มขึ้น 8 บาท ยังปรากฎว่า หุ้นเก็งกำไรตลอดจนหุ้นที่เกี่ยวข้องกับนักการเมืองต่างปรับตัวเพิ่มขึ้น อาทิ หุ้นอีสเทิร์นไวร์ (EWC) หุ้นโซลาร์ตรอน (SOLAR) หุ้นอกริเพียวโฮลดิ้ง (APURE) หุ้นอุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย (TPI) หุ้นทีพีไอโพลีน (TPIPL)

นักลงทุนต่างประเทศยังซื้อสุทธิ 906.96 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 189.48 ล้านบาท นักลงทุยรายย่อยขายสุทธิ 717.48 ล้านบาท

นายเจริญ เอี่ยมพัฒนธรรม หัวหน้าฝ่ายกลยทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทีเอสอีซี จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดปรับตัวขึ้นเนื่องจากมีแรงซื้อเข้ามาของนักลงทุนต่างประเทศในหุ้นกลุ่มพลังงาน สื่อสาร ซึ่งนักลงทุนหันมาลงทุนในหุ้นที่ไม่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมัน เช่น กลุ่มชิ้นส่วนที่จะได้ประโยชน์ค่าเงินบาทที่มีการอ่อนค่า รวมถึงหุ้นเก็งกำไร เช่น TPI ,TPIPL ก็มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น

สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ คาดว่าจะสามารถปรับตัวขึ้นมาทดสอบที่แนวต้าน 693 จุดได้ มองแนวรับที่ระดับ 683 จุด

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ บล.เอเพกซ์ จำกัด กล่าวว่า ในเดือน มิ.ย.นี้ นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 11,000 ล้านบาท ซึ่งหุ้นขนาดใหญ่ก็มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น เช่น พลังงาน สื่อสาร และหุ้นเก็งกำไร TPI ,TPIPL มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น รวมถึงราคาน้ำมันมีการปรับตัวลดลง และจากการที่รัฐบาลมีแผนดำเนินในด้านภัยแล้ง

นายสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.พัฒนสิน เปิดเผยว่า การปรับขึ้นของดัชนีส่วนหนึ่งเกิดจากนักลงทุนกลับมาเล่นหุ้นเก็งกำไรอีกครั้ง แม้จะมีข่าวว่าสำนักงาน ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ จะออกมาควบคุมการเล่นเก็งกำไรก็ตาม

สำหรับแนวโน้มวันนี้ คาดว่าดัชนีจะเคลื่อนไหวอยู่ในลักษณะแกว่งตัวแต่มีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นได้อีก จากการที่มีนักลงทุนเข้ามาเล่นเก็งกำไรในหุ้นเป็นรายตัว ทั้งนี้คาดว่าแรงซื้อจะยังอยู่ในกลุ่มหุ้นกลุ่มสื่อสาร พลังงาน เป็นต้น อย่างไรก็ตามยังคงต้องรอดูทิศทางราคาน้ำมันว่าจะไปในทิศทางใดซึ่งที่ผ่านมาเป็นปัจจัยหลักกดดันดัชนีตลาดหุ้นไทย ในส่วนดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐไม่น่ามีนัยสำคัญต่อภาวะตลาดฯ เนื่องจากนักลงทุนเริ่มสนใจกับปัจจัยภายในประเทศมากขึ้น

ทั้งนี้ตลอดทั้งเดือนมิ.ย.นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 11,754.96 ล้านบาท ขณะที่ยอดตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันซื้อสุทธิกว่า 7 หมื่นล้านบาท

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า บริษัทที่ปรึกษาทางการเงินที่ได้รับใบอนุญาตจากทางการ ที่จะนำบริษัทที่มีความสนใจเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ควรที่จะคัดเลือกบริษัทที่มีคุณภาพ และเป็นบริษัทที่มีมโนธรรมที่ดี เพราะตลาดหลักทรัพย์และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ไม่ต้องการที่จะปฏิเสธคำขอของบริษัทที่จะเข้ามาจดทะเบียน

"ในช่วงที่ผมเข้ามารับตำแหน่งกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ใหม่ๆ นั้นก็เคยชวนชมรมวาณิชธนกิจมาทานข้าวด้วยกันอยู่เสมอ แต่ในช่วง 2 ปีหลังไม่ได้ชวนมาเลย เห็นว่าชมรมวาณิชธนกิจมีการทำงานอย่างจริงจัง มีมาตรฐานที่ดี แต่ตอนนี้ก็อยากจะฝากไปถึงบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินที่ได้รับใบอนุญาตจากทางการว่า ควรที่จะช่วยกันคัดเลือกบริษัทที่มีคุณภาพ และมีมโนธรรมที่ดีเข้ามา โดยตลาดหลักทรัพย์จะไม่พยายามทำหน้าที่เป็นผู้กำกับ แต่จะพยายามทำหน้าที่เป็นคู่ค้าที่ดี" นายกิตติรัตน์กล่าว

ส่วนกระแสข่าวที่ว่าหุ้นใหม่ที่จะเข้า ตลท.จะให้ข้อมูลนักวิเคราะห์ที่อยู่กับบริษัทหลักทรัพย์ที่เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายเท่านั้น นายกิตติรัตน์กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ และ ก.ล.ต.ไม่เคยไปบังคับในเรื่องดังกล่าว อย่างไรก็ตามในแง่ของการปฏิบัตินั้น บริษัทที่ปรึกษาทางการเงินก็ควรที่จะคำนึงถึงประโยชน์ของลูกค้า เพราะถ้าข้อมูลของบริษัทใหม่ไปสู่บริษัทหลักทรัพย์เป็นจำนวนมาก จะได้มีบทวิเคราะห์ก็จะกว้างมากขึ้นซึ่งจะเกิดผลดีต่อบริษัทที่จะเข้ามาจดทะเบียน เพราะผู้ลงทุนก็จะได้รู้ข้อมูลมากขึ้น

"อยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเช่นที่ปรึกษาทางการเงินควรที่จะมีการทบทวนเรื่องการจำกัดการให้ข้อมูลนักวิเคราะห์เสียใหม่ เพราะการดำเนินการดังกล่าวอาจจะทำให้ราคาหุ้นต่ำกว่าที่ควรจะเป็น ซึ่งถือเป็นสิ่งที่น่าเสียดาย เพราะมองว่าการเปิดเผยข้อมูลในวงกว้างจะช่วยทำให้นักลงทุนที่ซื้อขายหุ้นได้รับข้อมูล และก็จะได้ราคาหุ้นที่เป็นธรรมเหมาะกับปัจจัยพื้นฐาน" ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์กล่าว

สำหรับหุ้นที่ราคาหวือหวานั้นในช่วงที่ผ่านมานั้น ไม่ต้องการให้นักลงทุนทั่วไปเข้าไปซื้อขายประมาณ 4-5 วัน นักลงทุนอย่าไปเสียดาย แล้วตลาดหลักทรัพย์ก็จะขอข้อมูลกับโบรกเกอร์เพื่อดูว่ามีนักลงทุนรายใดที่ติดหุ้นในระดับราคาสูง

"ผมอยากจะขอให้นักลงทุนทั่วไปอย่าไปยุ่งกับหุ้นที่มีราคาหวือหวา โดยอย่าไปซื้อขายสัก 4-5 วัน นักลงทุนไม่ควรที่จะเสียดาย จะได้ดูอะไรดีๆ โดยเฉพาะจะได้เห็นนักลงทุนที่ติดยอดดอย ตลาดหลักทรัพย์จะช่วยขอข้อมูลโบรกเกอร์เพราะจะได้รู้ว่าใครเป็นคนที่อยู่ยอดดอย ตอนนี้ยาเดิม ๆ ที่เคยใช้มันดื้อยาแล้ว ต่อไปคงต้องเอายาแบบแปลกใหม่มาใช้แต่ก็ต้องดูว่าต้องการรักษาให้หายหรือให้ตาย' นายกิตติรัตน์ กล่าว

ส่วนหุ้นบริษัทอีสเทิร์นไวร์ที่ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นนั้น ตลาดหลักทรัพย์คงจะไม่เตือนอีกแล้ว ซึ่งการที่ไม่เตือนนั้นไม่ใช่ว่าตลาดหลักทรัพย์จะเกรงกลัวใคร ขณะเดียวกันนักลงทุนก็ควรที่จะระมัดระวัง และไม่ควรที่จะเข้าไปยุ่งกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) จะพิจารณาให้การปั่นหุ้นเป็นหนึ่งในมูลฐานความผิดของกฎหมายฟอกเงินนั้น ตลาดหลักทรัพย์คิดว่ายังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องแก้ไขกฎหมายการฟอกเงินเพื่อนำเอาการปั่นหุ้นเข้าเป็นหนึ่งในมูลฐานความผิด เพราะการกำหนดโทษในพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 ถือว่ามีการกำหนดบทลงโทษที่เข้มข้นและรุนแรงอยู่แล้ว โดยได้กำหนดโทษผู้กระทำผิดในการปั่นหุ้นทั้งทางอาญาและการปรับ โดยจะปรับไม่เกิน 2 เท่าของผลประโยชน์ที่ได้รับ

อย่างไรก็ตามขณะนี้ตลาดหลักทรัพย์ไม่มีความเห็นอะไรเป็นพิเศษว่าจะลงโทษผู้ที่ปั่นหุ้นด้วยวิธีไหน หากก.ล.ต.และปปง.หารือกันและได้ความเห็นออกมาเป็นอย่างไร ตลาดหลักทรัพย์ก็พร้อมที่จะสนับสนุน   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us