|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ดีแทคพักรบสงครามราคาหลังบาดเจ็บกันถ้วนหน้า หันพัฒนาคุณภาพเครือข่าย พร้อมเดินเกมการตลาดที่ถนัดในการสร้างตลาดใหม่ (New Segment) ด้วยซิมเฮฮา ฉีกแนวด้วยบริการยิงฟรี 5 วินาที เน้นการโทรในเครือข่ายเป็นหลัก
นายธนา เธียรอัจฉริยะ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่นหรือดีแทคกล่าวว่าการแข่งขันในตลาดโทรศัพท์มือถือต่อไปคงเน้นการโปรโมชันเพื่อโทรในเครือข่ายมากกว่าการเล่นสงครามราคาเหมือนช่วงที่ผ่านมา เพราะโอเปอเรเตอร์แต่ละรายก็ได้รับบทเรียนไปมากพอสมควร จากการโทรข้ามเครือข่ายไม่ติด คุณภาพบริการที่ลดลงและมีผลกระทบกับลูกค้าชั้นดีที่ยอมจ่ายเงินเพื่อแลกกับบริการที่คุ้มค่า
“ผลที่เกิดขึ้นคือเครือข่ายแจม และลูกค้าเดือดร้อน”
เขากล่าวว่าตอนนี้สถานการณ์โทรข้ามเครือข่ายไม่ติด อยู่ในระดับทรงๆ เพราะเป็นช่วงปลายเดือน ในขณะที่ปัญหายังไม่ทุเลาเพราะหากบริษัท ทีโอที ยังไม่สามารถขยายวงจรเชื่อมต่อกับเอไอเอส และทีเอออเร้นจ์เรียบร้อย ทำให้เมื่อดีแทคส่งสัญญาณผ่านไปยังทีโอที แต่ทีโอทีไม่สามารถส่งสัญญาณต่อไปได้ ก็ทำให้เครือข่ายเกิดปัญหา
สำหรับการเล่นโปรโมชันโทรภายในเครือข่าย สามารถทำได้ 2 วิธี คือการสร้างตลาดใหม่ เซ็กเมนต์ใหม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีแทคถนัด กับการลดราคาแบบดื้อๆ ซึ่งเป็นเกมที่ออเร้นจ์ถนัดเหมือนกัน พิสูจน์ได้จากการเล่นสงครามราคาตั้งแต่ต้นปี เป็นเกมที่ออเร้นจ์เปิดก่อน ในขณะที่ดีแทคไม่มีทางเลือกจำเป็นต้องลดราคาตาม เพราะราคาส่งผลกระทบกับส่วนแบ่งตลาด แต่ระยะเวลาที่นานเกินไป จนทำให้เอไอเอสทนไม่ได้ ต้องอัดโปรโมชันชัวร์ชัวร์ ตามลงมา ซึ่งผลที่เกิดคือ เครือข่ายเกิดปัญหาทุกระบบและลามไปถึงโทรศัพท์พื้นฐาน ทำให้ในช่วงนี้กลายเป็นการพักรบกลายๆ เพื่อพัฒนาคุณภาพเครือข่าย
“ราคาเมื่อลดลงมาระดับหนึ่งแล้วจะกลายเป็นปัจจัยรอง ซึ่งลูกค้าจะมองเรื่องคุณภาพเครือข่ายการโทรติดเป็นปัจจัยหลักก่อน ทำนองว่า ราคาถูกแต่โทรไม่ติดก็ไม่เกิดประโยชน์”
ดีแทคเปิดตลาดใหม่ด้วยซิมเฮฮา ซึ่งเป็นเกมการตลาดที่ธนาคิดว่าดีแทคถนัดและเป็นสีสันที่สร้างชื่อให้ดีแทคตลอดมา ซิมเฮฮาเน้นการสร้างเซ็กเมนต์ใหม่ที่เคยทับซ้อนอยู่บนกลุ่มวัยรุ่นทั่วไปที่กำหนดความต้องการไว้อย่างกว้างๆ โดยซิมเฮฮาจะเจาะกลุ่มคนอายุตั้งแต่ 13- 24 ปี ซึ่งมีอยู่ประมาณ 11 ล้านคน เป็นในเขตเมือง 6 ล้าน และอยู่ต่างจังหวัด 5 ล้าน ซึ่งเดิมกลุ่มนี้เป็นลูกค้าของออเร้นจ์
ซิมเฮฮาจะเป็น Community Sim เน้นการสร้างกลุ่มเพื่อน ซึ่งสะท้อนผ่านอัตราค่าบริการและบริการพิเศษที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในกลุ่มอย่างเช่น วันจันทร์ถึงศุกร์ ช่วง 08.00-15.00 น.นาทีละ 3 บาท แต่นอกเวลาเรียน 15.01 –08.00 น.และวันเสาร์ –อาทิตย์ ตลอด 24 ชั่วโมง คิดค่าบริการนาทีแรก 3 บาท หลังนาทีที่ 2 คิด 1 บาท สามารถส่ง SMS และ MMS ได้ครั้งละ 1 บาท และใช้ GPRS นาทีละ 1 บาท แต่พิเศษกว่านั้น คนใช้ซิมเฮฮาจะสามารถโทรฟรีได้ 5 วินาทีแรก (ศัพท์วัยรุ่นเรียกยิงฟรี 5 วินาที) สำหรับการโทรไปยังเบอร์ซิมเฮฮาด้วยกันหรือซิมแฮปปี้ และบริการก๊วนแชท ให้ส่ง SMS และกระจายเสียง (Voice Broadcast) ทีเดียวได้ทั้งก๊วน ด้วยค่าบริการ 50 สตางค์/ข้อความ/คน โดยคิดค่าบริการเฉพาะผู้ส่งข้อความ สมมติมีคนลงทะเบียนใช้ห้องแชทดังกล่าว 10 คน เมื่อใครส่งหาคนอื่นในก๊วน คนส่งก็จะเสียค่าบริการ 5 บาท ซึ่งเสน่ห์ของบริการนี้จะอยู่ที่ทุกคนจะเห็นข้อความหรือได้รับการกระจายเสียงได้ทั้งหมด หากใครเงินหมดก็ฟังอย่างเดียวไม่ต้องโต้ตอบ
สำหรับซิมเฮฮาจะมีเบอร์พิเศษ เป็นเบอร์เรียงสำหรับลูกค้าใหม่ที่ต้องการเบอร์เรียงในก็วนเพื่อน โดยซิมเฮฮาราคา 199 บาท พร้อมโทรฟรี 50 บาท ซื้อตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 ส.ค.48 สามารถใช้สิทธิได้จนถึงสิ้นปี 2549 โดยดีแทคจะใช้วิธีขายตรง เดินเจาะเข้าไปหาลูกค้า ซึ่งใครสนใจต้องรีบหน่อยเพราะเบอร์เรียงมีแค่ 2 หมื่นเบอร์เท่านั้น
นายวิชัย เบญจรงคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม ดีแทค กล่าวว่าผลกระทบเศรษฐกิจจากราคาน้ำมันทำให้ราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้น แต่คาดว่าอุตสาหกรรมโทรคมนาคมคงไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด จะมีผลกระทบเพียงเฉพาะแค่บางกลุ่มมากกว่า เพราะการใช้โทรศัพท์ยังคงมีบทบาทในชีวิตประจำวัน
ส่วนการแข่งขันด้านราคาในขณะนี้ เชื่อว่าจะลดน้อยลง เนื่องจากในปัจจุบันได้มีปัญหาด้านการเชื่อมโยงระหว่างเครือข่าย ที่เกิดจากความไม่สมดุลย์ของการเติบโตของตลาดผู้ใช้ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งผู้ให้บริการจะมีการปรับตัวไปในด้านพัฒนาคุณภาพการให้บริการมากขึ้น โดยที่ดีแทคยังคงต้องรักษาส่วนแบ่งตลาดไว้ให้ได้ 30% เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ในปีนี้
“รายได้เฉลี่ยพรีเพดประมาณ 280 บาทต่อเลขหมายต่อเดือน ในขณะที่โพสต์เพดประมาณ 1,100 บาท โดยการแข่งขันในครึ่งปีหลังดีแทคจะเน้นพัฒนารายได้ต่อเลขหมายให้เพิ่มขึ้น พร้อมกับรักษาจำนวนลูกค้าให้อยู่ในระบบ โดยที่จะแข่งขันในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป”
สำหรับปัญหาการขาดแคลนเลขหมายของดีแทคนั้น หากคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ยังไม่มีการจัดสรรเลขหมายมาให้ในช่วงปลายเดือนก.ค.นี้ จะเริ่มมีผลกระทบต่อผู้บริโภคแล้ว ซึ่งดีแทคต้องการให้ กทช. เร่งจัดทำแผนชั่วคราวเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวเพราะหากไม่มีเลขหมาย ดีแทคก็ต้องเลิกทำตลาดชั่วคราวซึ่งถือว่าไม่เป็นธรรมกับผู้ให้บริการ
|
|
|
|
|