ยามใกล้เ ที่ยงของวันอาทิตย์ เป็นช่วง ที่ครอบครัว "กวิตานนท์" จะได้มีโอกาสอยู่พร้อมหน้ากัน
3 คน พ่อ-แม่-ลูก เพื่อรอรับประทานอาหารจากพ่อครัวกิตติมศักดิ์ ที่มีตำแหน่งทางราชการเป็นถึงเลขาธิการบีโอไอ
สำหรับคนในครอบครัว และคนใกล้ชิด ที่เคยลิ้มลองอาหารของสถาพร กวิตานนท์
อาจจะรู้สึกเป็นเรื่องปกติ และ เป็นกิจวัตรในวันพักผ่อน ที่เขาเลือก ที่จะทำอยู่เป็นประจำ
แต่สำหรับคนภายนอก ที่ไม่เคยสัมผัสชีวิตอีกด้านหนึ่งในวันพักผ่อนของเขา
อาจจะเป็นภาพลักษณ์ ที่ยังไม่ชินตานัก
การทำอาหาร ถือเป็นกิจกรรม ที่สถาพร กวิตานนท์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
(บีโอไอ) โปรดปรานที่สุดอย่างหนึ่งในปัจจุบัน
ในวันหยุดปลอดจากงานในหน้าที่ ถ้ามีโอกาส เขามักจะเชื้อเชิญญาติมิตรคนสนิท
ไปร่วมรับประทานอาหารจานโปรด ที่บ้านในซอยข้างสถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ โดยที่เจ้าตัวเป็นคนแสดงฝีมือเองตั้งแต่ต้นจนจบ
เริ่มตั้งแต่การจ่ายกับข้าวไปจนถึงการเข้าครัวปรุงอาหาร
ตลาดที่สถาพรมักจะไปซื้อหาอาหารสด เพื่อมาปรุงเลี้ยงแขก เขาเลือก ที่จะไปจับจ่ายตลาดที่ใกล้บ้านมากที่สุด
ซึ่งก็คือ ที่ตลาด อตก. ตรงข้ามสวนจตุจักร
เพราะฉะนั้น ในช่วงสายของวันอาทิตย์ พ่อค้าแม่ค้าตลอดจนคนที่ไปเดินจับจ่ายซื้อของ
ที่ตลาด อตก. เป็นประจำ จะคุ้นหน้าคุ้นตาสถาพรเป็นอย่างดี
อาหาร ที่สถาพรถนัดเป็นอาหารประเภทก๋วยเตี๋ยว โดยเฉพาะเส้นใหญ่ราดหน้า
นอกจากนี้ จะเป็นอาหารประเภทสเต็ก โดยเฉพาะสเต็กเนื้อ ซึ่งเจ้าตัวคิด ค้นสูตรเด็ดขึ้นมา
และเรียกอย่างเต็มปากได้ว่าสเต็กเนื้อสูตรสถาพร
"ไม่แน่ วันหนึ่งเมื่อผมเกษียณแล้วอาจไปเปิดร้านอาหาร"
สถาพรกล่าว ทีเล่นทีจริงกับ "ผู้จัดการ" ซึ่งมีโอกาสได้เข้าไปสัมผัสชีวิตในอีกด้านของเลขาธิการ
บีโอไอคนนี้
ก่อนหน้านี้ กิจกรรมในวันหยุดพักผ่อน เพื่อคลายความเครียดจากการทำงาน ของสถาพรส่วนใหญ่
จะเป็นการไปร่วมปาร์ตี้กับ เพื่อนฝูงในช่วงเย็น และมีออกกำลังกายด้วยการเล่นแบดมินตันบ้างเป็นบางครั้ง
แต่ระยะหลัง เนื่องจากอายุ ที่เพิ่มมากขึ้น และภาระหน้าที่ ที่เพิ่มสูงขึ้นของเขา
ทำให้โอกาส ที่จะเข้าร่วมสังสรรค์เข้าสังคมกับ เพื่อนฝูงของสถาพรลดน้อยลงไป
ความสุข ที่สถาพรได้สัมผัสจากการพักผ่อน ในช่วงของวัยใกล้เกษียณ ก็คือ การทำอาหารให้กับญาติสนิท
และครอบครัวรับประทาน
แต่ก็ใช่ว่าจะทำได้ทุกอาทิตย์ เพราะงานในตำแหน่งเลขาธิการบีโอไอ โดยเฉพาะในช่วง
ที่เศรษฐกิจ ของประเทศไทยอยู่ในระยะหัวเลี้ยวหัวต่อของการ ฟื้นตัวเช่นในขณะนี้
ค่อนข้างรัดตัวพอสมควร
"เลขาฯ บีโอไอทุกวันนี้ ทำงานเหมือนเป็นพระ เพราะเราไปชวนเขามาลงทุน
เขาก็ต้องมาชวนเราไปเปิดโรงงาน วางศิลาฤกษ์ การไปเปิดโรงงานนี่เหมือนพระ
เหมือนยังไง หนึ่ง-ไปเจิม คือ ตัดริบบิ้น สอง-ก็ไปเทศน์ พูด speech ในพิธี
สาม-ก็ไปฉัน เขาก็ให้กินข้าวมื้อนึงเท่านั้น หลังจากนั้น ก็ถวายจตุปัจจัย
มีการให้ของ ที่ระลึก พวกตัวอย่างผลิตภัณฑ์เขา บาง ที่ก็เป็นสมุด ประวัติบริษัท
เขาก็ให้มา 4 อย่าง นี่คือ งานพระ วันหนึ่งก็หมดไปกับงานพวกนี้ บางทีอาทิตย์ละ
2 วัน" สถาพรเปรียบเปรยภาระงาน ที่เพิ่มเข้ามา นอกเหนือจากงานประจำ
ซึ่งต้องมีทั้งการประชุม การไปร่วมสัมมนา ตลอดจนการเดินทางไปโปรโมตการลงทุนในต่างประเทศ
พื้นเพดั้งเดิมของสถาพรไม่ใช่คนกรุงเทพฯ เป็นเด็ก ที่เติบโตในครอบครัวชาวจีนแต้จิ๋วในจังหวัดนครสวรรค์
เพราะฉะนั้น เขาจึงมีความเคยชินกับการทำอาหาร เพื่อหาเลี้ยงให้กับตัวเอง
และชอบเป็นการส่วนตัวติดมาจนถึงปัจจุบัน
ครอบครัวดั้งเดิมของสถาพร ที่นครสวรรค์ ก็ไม่ใช่ครอบครัวเล็กๆ ตระกูล "จิตราธร"
ซึ่งเป็นตระกูลดั้งเดิมของปู่ของสถาพร ถือเป็นตระกูล ที่ใหญ่ที่สุดตระกูลหนึ่งของจังหวัดนครสวรรค์
เมื่อหลายสิบปีก่อน ซึ่งโดยปกติ ครอบครัวของคนเชื้อ สายจีนในตระกูลใหญ่ๆ
ในอดีต เวลารับประทานอาหาร มักจะต้องมาอยู่รวมกันพร้อมหน้า
เป็นความประทับใจ ที่สถาพรนำมาใช้กับครอบครัวญาติมิตรของตนเองในปัจจุบัน
ในทุกครั้ง ที่มีโอกาส
เดือนกันยายนปีหน้า เป็นเดือนที่สถาพรจะเกษียณอายุตนเองในตำแหน่งเลขาธิการบีโอไอ
ซึ่งหากถึงเวลานั้น แรงจูงใจในการเปิดร้านอาหารของสถาพรยังคงมีอยู่ คนอีกหลายคนอาจมีโอกาสได้ชิมอาหาร
ฝีมือของพ่อครัวกิตติมศักดิ์ ที่ภูมิหลังเป็นถึงเลขาธิการบีโอไอก็เป็นได้