ซัปพลายเออร์ของกลุ่มเซ็นทรัล นัดรวมพลที่โรงแรม นารายณ์ แถลงข้อเท็จจริงกรณีเซ็นทรัลให้ทำสัญญาส่งสินค้าไปที่ศูนย์
เติมและกระจายสินค้า หรือ RC
เผยต้องการให้ปรับปรุงเงื่อนไขใหม่เพราะที่เซ็นทรัลเรียกเก็บนั้นโหดเกินไป
และไม่เป็นธรรมเนื่องจากเป็น สินค้าฝากขายมิใช่สินค้าขายขาด การชุมนุมของซัปพลายเออร์ที่ค้าขายกับกลุ่มเซ็นทรัลรีเทล
ที่มีประมาณ 180 คน ที่โรงแรมนารายณ์ มีข้อสรุปว่า ทางซัปพลายเออร์จะรอดูท่าทีจากรัฐบาลก่อนว่าจะดำเนินการอย่างไร
ซึ่งซัปพลายเออร์ส่วนใหญ่ขณะนี้ยังไม่เข้าระบบ RC
หากยังไม่มีการปรับเงื่อนไขและการบริการให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล เช่นที่ระบบลอจอสติกของเทสโก้โลตัสดำเนินการอยู่
โดยจะใช้เฉพาะสินค้าที่ซื้อขาดเท่านั้น ไม่ใช้กับสินค้ารับฝากขาย
ซึ่งหากจะนำสินค้าระบบฝากขายมาเข้าระบบ RC ก็ต้องให้ทางเลือกกับซัปพลายเออร์ว่าจะส่งสินค้า
ผ่าน RC หรือไม่ก็ได้ และให้คิดอัตราค่าบริการเป็นปริมาตร หรือเปอร์เซ็นต์ตามมูลค่าสินค้า
แล้ว
แต่ความต้องการของซัปพลายเออร์แต่ละราย ทั้งนี้หากเงื่นไขการเข้าระบบ RC
ยังไม่ปรับปรุงให้เทียบเท่ากับศูนย์กระจายสินค้าของเอกชนอื่นๆ เช่น การระบุความรับผิดชอบในกรณี
การส่งสินค้าทั้งไปและกลับ ที่เกิดความล่าช้าและเสียหาย ผู้ส่งสินค้าจะต้องรับผิดชอบ
นอกจากนี้จะต้องแก้ไขระเบียบเงื่อนไขของ การใช้บริการให้เป็นธรรม
ซึ่งเงื่อนไขที่ซัปพลายเออร์เห็นว่าเป็นการเอาเปรียบ เช่น RC จะเปลี่ยน
แปลงหรือปรับอัตราค่าบริการใหม่ตามภาวะเศรษฐกิจหรือค่าครองชีพตามที่ผู้บริการเห็นสมควร
โดยจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วัน และผู้รับบริการต้องชำระในอัตราใหม่ทันที
ตามที่ RC เป็นผู้กำหนด ในเงื่อนไข RC
ยังสามารถเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขที่มีอยู่แล้วในปัจจุบันและที่จะมีขึ้นในอนาคตได้ตลอดเวลา
รวมทั้งต้องการให้ปรับค่าขนส่งของ RC ที่คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของมูลค่าสินค้าราคาปลีก
ก่อนหักจีพี
ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด เนื่อง จากเดิมซัปพลายเออร์ที่ส่งสินค้าในเขตกทม.ไม่ต้องเสียค่าขนส่ง
แต่จะมีเฉพาะค่าใช้จ่ายน้ำมัน พนักงาน และค่าสึกหรอเท่านั้น ซึ่งเมื่อส่งกับ
RC
ค่าใช้จ่ายเดิมก็ไม่ได้ลดลง เพราะฉะนั้นซัปพลาย เออร์ต้องการให้ RC ปรับลดอัตราค่าขนส่งที่คิดกับซัปพลายเออร์
ที่คิดในอัตรา 1.5-2% ซึ่งอัตรานี้ได้ประเมินจากยอดขายของเซ็นทรัลและโรบินสันปีละ
30,000 ล้านบาท แต่การส่งสินค้าไปจำหน่ายจะต้องส่งมากกว่าเพื่อเป็นสต็อก
คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 50,000 ล้านบาท เพราะฉะนั้น RC จะมีรายได้จากค่าขนส่งปีละไม่ต่ำกว่า
2,500 ล้านบาท
ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีผลกำไรทันทีหลังจากเปิดดำเนินงาน สำหรับแนวทางของซัปพลายเออร์ที่ประสบ
ปัญหากับระบบ RC ในขณะนี้บางรายได้เตรียม ถอนสินค้าออกจากห้างเซ็นทรัลและโรบินสัน
เนื่องจากเป็นผู้ประกอบการขนาดเล็กและไม่สามารถรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากระบบดังกล่าวได้
โดยกำลังอยู่ระหว่างการหาช่องทางจำหน่ายใหม่ในห้างสรรพสินค้าคนไทยและกลุ่มห้างญี่ปุ่น
รวมทั้งห้างสรรพสินค้าท้องถิ่นในต่างจังหวัด โดยจะหันไปใช้บริการขนส่งของตนเองหรือของบริษัทเอกชนทั่วๆไป
ด้านกลุ่มเซ็นทรัลนั้น นางวรรณา ธรรมร่มดี ผู้อำนวยการฝ่ายสาธารณกิจ เซ็นทรัล
รีเทล
คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่าขณะนี้ทางผู้บริหารระดับสูงของกลุ่มเซ็นทรัลก็กำลังรอเจรจากับซัปพลายเออร์ในกลุ่มรองเท้า
ที่ได้นัดให้มาเจรจาตั้งแต่วันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา แต่ก็ยังไม่ได้เข้ามาพูดคุยกัน
"เรื่องนี้ก็คุยกับว่าซัปพลายเออร์จะยอมรับ ค่าขนส่งสินค้าได้ในอัตราที่เท่าใด
เพราะสิ่งที่ ซีอาร์ซีตั้งขึ้นมาคือต้นทุนค่าใช้จ่ายจริง ที่ไม่ได้ทำ เพื่อหวังผลกำไร
และการที่ต้องนำราคาสินค้าเข้า
มาคิดในการคิดค่าขนส่งก็เพราะระบบของเราประกันราคาสินค้าที่เป็นราคาทุน
100%"