เดอะไมเนอร์ฟู้ดกรุ๊ปเปิดแผนบุกตลาดต่างประเทศ ทุ่มงบประมาณลงทุน 5,000 ล้านบาท เจาะ 3 ตลาดหลัก จีน ตะวันออกกลาง เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ หวังสร้างเดอะพิซซ่าเป็นโกลบอลแบรนด์
นายวิลเลียม อี ไฮเน็ค ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า การทำธุรกิจในไทยในภาพรวมในอนาคตอาจจะได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่างๆ ที่เกิดขึ้นเวลานี้และในอนาคตหลายปัจจัย ซึ่งอาจจะมีผลโดยตรงและทางอ้อม เช่น โรคไข้หวัดนกที่อาจจะกลับมาระบาดหนักอีกเป็นต้น แต่ประเทศไทยยังมีการเติบโตด้านเศรษฐกิจที่ดี ไม่ได้หมายความว่าประเทศไทยจะมีปัญหา ดังนั้นบริษัทฯ จึงต้องมองการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ โดยที่ไม่ได้โฟกัสเฉพาะในไทยเท่านั้น เพื่อเป็นการหาตลาดอื่นสนับสนุนและสร้างรายได้เป็นอีกขาหนึ่งทดแทน โดยเน้นที่ตลาด 3 พื้นที่หลัก คือ จีน ตะวันออกกลาง และเอเซียตะวันออกเฉียงใต้
โดยแผนงานภายใน 2 ปี นับจากนี้หรือภายในปี 2550 บริษัทฯ จะขยายเครือข่ายเชนร้านอาหารที่มีอยู่ทั้งหมด 5 แบรนด์ คือ เดอะพิซซ่าคอมปะนี สเวนเซ่นส์ ซิซซ์เล่อร์ แดรี่ควีน และเบอร์เกอร์คิง ให้ครบ 1,000 สาขาทั่วโลก แบ่งเป็นในไทย 640 สาขา และต่างประเทศ 360 สาขา (แยกเป็น จีน 90 สาขา เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ และตะวันออกกลางรวม 270 สาขา)
จากปัจุบันที่มีสาขาเปิดบริการแล้วทั่วโลก 521 สาขา แบ่งเป็นในไทย 500 สาขา ต่างประเทศ 21 สาขา โดยในไทยมีเดอะพิซซ่า 139 สาขา สเวนเซ่นส์ 120 แห่ง ซิซซ์เล่อร์ 26 สาขา แดรี่ควีน 168 สาขา เบอร์เกอร์คิง16 สาขา ที่เหลือเป็นแบรนด์อื่นๆ ส่วนต่างประเทศขณะนี้มีสาขาเปิดแล้วที่คูเวต จีน ฟิลิปปินส์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กัมพูชา โดยแบ่งเป็น เดอะพิซซ่า 10 สาขา สเวนเซ่นส์ 8 สาขา และซิซซ์เล่อร์ 3 สาขา
การขยายตลาดต่างประเทศนั้นบริษัทฯ จะใช้ 4 แบรนด์หลักคือ เดอะพิซซ่าซึ่งเป็นของบริษัทฯ เอง ซิซซ์เล่อร์ได้สิทธิ์ที่จีนและไทย สเวนเซ่นส์ได้สิทธิ์ในไทยและเอเซียตะวันออกฉียงใต้และตะวันออกกกลาง แดรี่ควีนได้สิทธิ์ที่ไทยและกัมพูชา ซึ่งตั้งงบประมาณในการทำตลาดไว้ที่ 10% จากยอดขายรวมซึ่งจะเน้นการสร้างแบรนด์เดอะพิซซ่าที่เป็นของบริษัทฯ เป็นหลักควบคู่ไปกับแบรนด์อื่น
สำหรับงบประมาณในการลงทุนทั้งหมดใน 2 ปีนี้ ประมาณ 5,000 ล้านบาท รวมทั้งหมดทั่วโลก โดยคาดว่าจะมีรายได้รวมประมาณ 10,000 ล้านบาท แบ่งเป็นในไทย 6,300 ล้านบาท และรายได้จากต่างประเทศ 3,600 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมทั่วโลกในปีนี้ตั้งไว้ที่ 6,100 ล้านบาท ส่วนตลาดบริการอาหารจานด่วนหรือ ควิกเรสเตอรองต์สเซอร์วิส(คิวเอสอาร์) ในไทยในช่วงปี 2550 คาดว่าจะมีมูลค่า 21,000 ล้านบาท ซึ่งกลุ่มไมเนอร์คาดว่าจะมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 30% ส่วนตลาดรวมคิวเอสอาร์ปีที่แล้วมีตลาดรวมที่ 16,000 ล้านบาท ไมเนอร์มีส่วนแบ่งตลาดที่ 28.6% หากแยกเป็นเฉพาะตลาดในประเทศไทยเท่านั้นจะพบว่า เดอะพิซซ่ามียอดขายที่ 2,200 ล้านบาทเมื่อปีที่แล้ว และปีนี้คาดว่าจะมียอดขาย 2,500 ล้านบาท มีส่วนแบ่ง 70% จากมูลค่าตลาดรวมกว่า 3,000 ล้านบาท
|