กรุงไทยยุควิโรจน์ นวลแข กำลังไปได้สวย ระบุผลงานในรอบ 1 ปีสามารถดันกำไรเพิ่มจาก100ล้านบาทต่อเดือนเป็น
800 ล้านบาทต่อเดือน ผล พวงการปรับรูปแบบการทำงานที่มุ่งทำงานเป็นทีม
เน้นขยายสินทรัพย์ บล.ยูโอบีเคย์เฮียนประเมินกรุงไทยไตรมาส2คาดกำไรระดับ
2,100 ล้านบาทต่ำกว่าไตรมาสแรก เหตุอาจมีการตั้งสำรองและปรับบัญชีบางรายการก่อนการแปรรูปช่วงไตรมาสที่
4
นายวิโรจน์ นวลแข กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) KTB เปิดเผยว่า
จากการที่ได้เข้า มาทำงานในธนาคารกรุงไทยเป็น ระยะ เวลา 1 ปี ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงต่างๆ
มากมายแต่ในด้านของความเสีย หาย อันยิ่งใหญ่ที่เกิดขึ้นในธนาคารช่วงที่ได้
เข้ามาทำงาน นั้นมี 2 ประการใหญ่ คือ ความเสียหายเรื่องเงินทอง และเสียขวัญการเสียหายเรื่องเงินทอง
นั้น
แก้ไขง่ายส่วนการเสียขวัญนั้นค่อน ข้างหนักใจ เพราะคนเสียขวัญเหมือน กับกองทัพที่แตกจำเป็นต้องปลุกสภาพของคนที่มีภาระที่ต้องรับเข้าไปอย่างหนักอึ้งซึ่งยังไม่รู้ว่าคนที่เสียขวัญ
จะรับภาระหนักในชีวิตการงานได้ต่อเนื่องอีกระยะหนึ่งได้ยาวนานแค่ไหน จากระยะเวลา
1 ปี ที่ผ่านมาได้
ดูตัวเลขผลประกอบการของธนาคารล่าสุดค่อนข้างชื่นใจจากกำไรที่เคยได้เดือนละประมาณกว่า
100 ล้านบาท จน ณ ปัจจุบันได้พัฒนามาจนถึงกำไรเดือนละ 800 ล้านบาท
"ได้ดูผลประกอบการของแต่ละกลุ่มงานของเขตต่างๆจึงเชื่อว่าไตรมาสที่สองคงไม่มีเขตไหนที่ประสบกับภาวะการขาดทุนเลย"นายวิโรจน์กล่าว
สำหรับนโยบายของธนาคารนั้นยังเน้นในด้านการเติบโตทางด้านสินทรัพย์จึงได้มุ่งเน้นการปล่อยสินเชื่อซึ่งในปีนี้ได้ตั้งเป้าไว้ที่
170,000 ล้าน บาทและเชื่อว่าน่าจะสามารถทำได้ตาม เป้าหมายที่วางไว้
อย่างไรก็ตาม การที่ธนาคารจะสามารถมีอัตราการเติบโตได้นั้นต้องใช้ Group
Decision ซึ่งเป็นลักษณะการ
ทำงานแบบทีมเวิร์กเข้ามาช่วยเพื่อลดความเสี่ยงนอกจากนี้แล้วก็ได้เร่งการทำงานให้เร็วขึ้นแต่ไม่ได้หมายความว่า
ต้องทำงานอย่างหามรุ่งหามค่ำการทำ งานให้เร็วขึ้น คือการทิ้งหลายๆสิ่งที่คิด
ว่าไม่เกี่ยวกับงานและทำให้ขบวนการนั้นเยิ่นเย้อ วิธีการที่จะเร่งทำงานให้เร็วขึ้นนั้นผู้บริหารสายงานต้องมีวัตถุ-
ประสงค์ในการทำงานที่ชัดเจนซึ่งต้องประกอบด้วยเป้าหมาย เพื่อการเจริญเติบโต
เพื่อหารายได้และลดต้นทุนพร้อมกับเพิ่มประสิทธิภาพในการทำ
งานในขณะเดียวกันธนาคารก็ไม่มีนโยบายในการให้พนักงานนอกพื้นที่เข้ามาทำงานในพื้นที่
ในขณะเดียวกันธนาคารก็เน้นการฝึกอบรมให้กับพนักงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการเพิ่มความรู้ให้กับพนักงานมีความกว้างขวางมากขึ้น
และเพื่อที่ธนาคารจะได้ใช้ทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นและถือ
ว่าเป็นการรักษาพนักงานให้อยู่กับธนาคารไม่ย้ายไปอยู่ที่อื่น โบรกฯคาด KTB
ไตรมาส 2 กำไรลด ฝ่ายวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)ยูโอบีเคย์เฮียน จำกัด
ได้ประมาณการผลการดำเนินงานของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) KTB ในงวดไตรมาสที่2ของปี
2545 ว่าคาด กำไรสุทธิไตรมาส 2 ของธนาคารจะอยู่ระดับ 2,100 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อ
หุ้น 0.19
บาท ซึ่งลดลงจากไตรมาส 1 ที่มีกำไรสุทธิ 2,512.71 ล้านบาทกำไรสุทธิต่อหุ้น
0.22 บาท สำหรับสาเหตุที่วิเคราะห์กำไรลด ลง เนื่องจากธนาคารอาจจะมีการตั้งสำรองและปรับบัญชีบางรายการ
ก่อน
แปรรูปธนาคารในปลายปีนี้ ซึ่งอาจจะทำให้มีค่าใช้จ่ายพิเศษเข้ามา นอก จากนี้
ในไตรมาสก่อนธนาคารมีกำไรพิเศษเข้ามากว่า 300 ล้านบาทจากการ บริหารตั๋วเงินให้
56 ไฟแนนซ์และดอก
เบี้ยพิเศษของสินเชื่อเพื่อการศึกษา "จากการสัมภาษณ์ของธนาคาร คาดกำไรไตรมาส
2 นี้ รายได้จากดอก เบี้ยเพิ่มมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก ยอดสินเชื่อที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือนเม.ย.ที่ผ่านมา
โดยล่าสุด ณ ครึ่ง ปีที่ผ่านมาธนาคารมียอดสินเชื่อเพิ่มสุทธิกว่า 4 หมื่นล้านบาท
จากยอดที่อนุมัติไปแล้วกว่า 1.5 แสนล้านบาท โดยสินเชื่อส่วนใหญ่ยังขยายตัวในกลุ่มภาครัฐบาล
รัฐวิสาหกิจ
แต่คาดว่ากำไรส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยทรงตัว" สำหรับเรื่องการตั้งสำรอง ฝ่ายวิเคราะห์ระบุว่า
ปัจจุบันธนาคารมีการ กันสำรองไว้แล้วกว่า 65 พันล้านบาทหรือประมาณ 107% ตามเกณฑ์สำรอง
ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ซึ่งขณะนี้ธนาคารอยู่ระหว่างการเคลียร์ บัญชีและอาจมีการปรับตัวเลขการโอนหนี้
และตั๋วเงินของบริษัทบริหารสิน
ทรัพย์สุขุมวิท(SAM)ดังนั้นธนาคารจึงยังไม่มีการตั้งสำรองในไตรมาส2นี้ ตั้งงบ
200 ล้านปรับโฉมธนาคารใหม่ นายศุภชัย พิศิษฐวานิช ประธานกรรมการ ธนาคารกรุงไทย
กล่าวว่า
ขณะนี้ธนาคารได้เปิดให้บริษัทต่างๆ เสนอรูปแบบการปรับภาพ ลักษณ์ของธนาคารทั้งในส่วนของชื่อธนาคาร
ตราสัญลักษณ์ รูปแบบสาขา และรูปแบบของตู้เอทีเอ็ม
ซึ่งมีการเสนอเข้ามาหลายบริษัทและคณะทำ งานได้คัดเลือกเหลือ 4 บริษัท ให้เป็น
ผู้นำเสนอรูปแบบและให้เสนอราคาเพื่อให้คณะกรรมการธนาคารพิจารณา
ซึ่งคาดว่าในสัปดาห์หน้าจะมีการเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการ สำหรับบริษัทที่เสนอรูปแบบและราคาเข้ามาตอนนี้ประกอบด้วยบริษัทที.ซี.
เอ็กซิบิชั่น จำกัด มีนายประพันธ์ อัศวอารี
เป็นประธานบริหาร ซึ่งบริษัทดังกล่าวนี้มีประสบการณ์ในการดำเนินการสร้างโฉมหน้าปัจจุบันของหน่วยงานใหญ่ๆหลายแห่งอาทิ
ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้า ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารนครธน
ธนาคารดีบีเอสไทยทนุ ธนาคารนคร-หลวงไทย ธนาคารเอเชีย ธนาคารยูโอบี รัตนสิน
บริษัทการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย(ปตท.) และบริษัทบางจาก บริษัท Morio co.ltd.
, บริษัท SEA-CONSULT
ENGINEERING CO.LTD ซึ่งมีนายสุรพงษ์ เมฆนาวิน เป็นกรรมการผู้จัดการ และบริษัท
ASE CONSULT CO.LTD. อย่างไรก็ตาม 3
บริษัทหลังไม่ได้มีการนำเสนอว่ามีประสบการณ์ดำเนินงานให้กับหน่วยงานใดมาบ้าง
ทั้งนี้ ธนาคารกรุงไทยได้ตั้งวงเงินงบประมาณสำหรับการปรับภาพลักษณ์ใหม่ในครั้งนี้ประมาณ
200 ล้านบาท