กระทิงแดงฮึดอีกรอบ ปรับโฉมกาแฟกระป๋องรับตลาดชูกำลังอิ่มตัว เดินหน้าขย่มบัลลังก์เบอร์ดี้ ทุ่ม 100 ล้านบาท ชูจุดขายใหม่ความเข้มบวกรสชาติดี พร้อมแจกสินค้า 5 แสนกระป๋อง ผลักดันการทดลองดื่ม ปีหน้ากวาดส่วนแบ่งตลาดมาตุน 10% ขอ 3-5 ปี ยึดที่ 3 ก่อนเดินหน้าล้มแชมป์

นายสาธิต สถีระศรินทร์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์กระทิงแดง บริษัท เครื่องดื่มกระทิงแดง จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลัง และกาแฟกระป๋องพร้อมดื่มตรากระทิงแดง เปิดเผยว่า จากการที่ภาพรวมตลาดเครื่องดื่มชูกำลังมูลค่า 14,000 ล้านบาท แนวโน้มการเติบโตชะลอตัวลงหรือขยายตัวได้ไม่เกิน 5% ซึ่งเมื่อเทียบกับ 2 ปีที่ผ่านมา เติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก และเมื่อเทียบการเติบโตของตลาดกาแฟกระป๋องพร้อมดื่มมูลค่า 6,500 ล้านบาท ในปีนี้คาดว่าจะเติบโต 12% ในขณะที่ในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมาโต 18% โดยจากแนวโน้มการเติบโตของตลาดกาแฟกระป๋อง ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายเดียวกับเครื่องดื่มชูกำลัง ทำให้บริษัทได้วางแผนรุกตลาดกาแฟ กระป๋องพร้อมดื่มในเชิงรุกมากขึ้น

ล่าสุดได้รีลอนช์กาแฟกระป๋องพร้อมดื่ม "กระทิงแดง รสเข้ม พันธุ์แท้" โดยได้ปรับสูตรเมล็ดกาแฟพันธุ์อาราบิก้าและโรบัสต้า นอกจากนี้ยังได้ปรับบรรจุภัณฑ์ใหม่ วางกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นกลุ่มผู้ใช้แรงงานเช่นเดียวกับเครื่องดื่มชูกำลัง ส่วนกลุ่มเป้าหมายรอง คือ กลุ่มวัยทำงาน หรือผู้ที่ต้องการนอนดึก โดยใช้งบการตลาด 100 ล้านบาท จัดกิจกรรมทางตลาดต่อเนื่องตลอดทั้งปี ล่าสุดเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุด "เข้มพันธุ์แท้" พร้อมแจกสินค้าตัวอย่าง 5 แสนกระป๋อง การจัดโรดโชว์ตามสำนักงาน เพื่อสร้างความสนใจในตัวผลิตภัณฑ์ใหม่และกระตุ้นการทดลองดื่ม

ขณะที่ช่องทางจำหน่ายจะให้ความสำคัญกับเทรดดิชันนัลเทรด หรือร้านค้าปลีกรายย่อย 63% ในเบื้องต้นได้เตรียมแผนผลักดันสินค้า ด้วยการทำเทรดโปรโมชันร่วมกับเครื่องดื่มชูกำลัง ส่วนโมเดิร์นเทรด 27% แบ่งเป็นร้านค้าสะดวกซื้อ 10% จากปัจจุบันมีหน่วยรถกระจายสินค้า 300 คัน โดยจะเริ่มเจาะตลาดในพื้นที่ที่เครื่องดื่มชูกำลังของบริษัทมีความแข็งแกร่งก่อน ได้แก่ กรุงเทพฯ ภาคกลาง ตะวันออกเฉียงเหนือ เหนือ ใต้ ตามลำดับ แต่เมื่อเทียบตลาดกาแฟ 6,500 ล้านบาท ตลาดใหญ่ที่สุด คือ ภาคกลาง 28% ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 25% กรุงเทพฯ 24% ภาคเหนือ 16% ใต้ 6% ส่วนสินค้าของคู่แข่งเบอร์ดี้ มีตลาดใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนเนสกาแฟเป็นภาคกลางและกรุงเทพฯ

"กาแฟกระป๋องพร้อมดื่มกระทิงแดง ทำตลาดมากว่า 2 ปีแล้ว ที่ผ่านมาใช้กลยุทธ์ราคาที่ถูกกว่าสินค้าของคู่แข่งที่ตั้งราคา 12 บาท ส่วนของบริษัท 10 บาท แต่ปรากฏว่าการตอบรับก็ยังไม่ค่อยดีมากนัก โดยมีส่วนแบ่งไม่ถึง 2% เนื่องจากรสชาติของผู้นำตลาดเบอร์ดี้ และเนสกาแฟเป็นรสชาติที่ครองใจ ดังนั้นการกลับมาทำตลาดเชิงรุกในครั้งนี้ บริษัทจึงเน้นในเรื่องของรสชาติเป็นหลัก โดยพัฒนาให้เข้มข้นและกลมกล่อมมากขึ้น ในขณะที่ราคาก็ได้ปรับเท่ากับคู่แข่งคือขนาด 180 มล.12 บาท"

สำหรับการรีลอนช์กาแฟกระป๋องพร้อมดื่มกระทิงแดง ในสิ้นปีนี้ตั้งเป้ามีส่วนแบ่ง 5% หรือมียอดขาย 70 ล้านบาท ส่วนในปี 2549 ตั้งเป้ามีส่วนแบ่ง 10% และวางเป้าหมายภายใน 3-5 ปี จะขึ้นแท่นเป็นอันดับสามของตลาด จากปัจจุบันตลาดกาแฟกระป๋องพร้อมดื่มเบอร์ดี้ เป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 65% เนสกาแฟ 32% อาฮ่า และแบรนด์อื่นๆ 3%