แสนสิริหวั่นเศรษฐกิจชะลอตัว ตุนเงินสด 2,000 ล้านบาท เชื่อบ้านระดับกลางยังรุ่ง ครึ่งปีหลังเน้นพัฒนาและขยายกิจการทั้งแนวราบและแนวสูงอย่างต่อเนื่อง เปิดโครงการบ้านเดี่ยว 5 โครงการ มูลค่า 11,000 ล้านบาท พร้อมเตรียมงบ 500 ล้านบาท ซื้อที่ดินพัฒนาคอนโดมิเนียม ย้ำเป้าหมายรายได้รวมสิ้นปีถึง 10,000 ล้านบาท
นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีหลังเศรษฐกิจไทยจะมีแนวโน้มการชะลอตัว เนื่องจากปัญหาราคาน้ำมันที่มีการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งอาจจะส่งกระทบต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ บริษัทจึงได้เตรียมเก็บเงินสดไว้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อรองรับกับการเกิดภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจ ปัจจุบันบริษัทมีเงินสดอยู่ในมือประมาณ 2,000 ล้านบาท โดยส่วนหนึ่งได้มาจากการขายโรงแรมโซฟิเทล สีลม ได้รับเงินสดเข้ามาจำนวน 1,200 ล้านบาท
ส่วนแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ในช่วงครึ่งหลังของปี 2548 นี้ จะเน้นการรุกขยายฐานตลาดบ้านเดี่ยวมากขึ้น โดยเฉพาะบ้านเดี่ยวระดับพรีเมียม ราคาประมาณ 3-9 ล้านบาท โดยนอกจากโครงการเดิมแล้ว ยังได้เริ่มพัฒนาโครงการใหม่อีก 6 โครงการ ได้แก่ เศรษฐสิริ ย่านพุทธมณฑลสาย 1 มูลค่าโครงการ 654 ล้านบาท เปิดขายในเดือนตุลาคม, เศรษฐสิริ ประชาชื่น เนื้อที่ 212 ไร่ มูลค่า 6,385 ล้านบาท, สราญสิริรัตนา- ธิเบศร์ บ้านเดี่ยวจำนวน 300 ยูนิต มูลค่า 1,400 ล้านบาท, สราญสิริ รามอินทรา, เศรษฐสิริ สุขาภิบาล 2 มูลค่าโครงการ 3,172 ล้านบาท และโครงการย่านถนนกาญจนาภิเษก ซึ่งจะทยอยเปิดตัวโครงการขาย (Pre-Sale) ตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายนนี้จนถึงปลายปี ทั้งนี้ เฉพาะโครงการบ้านจัดสรรใหม่ทั้ง 6 โครงการดังกล่าว มีมูลค่าการขายรวมกว่า 11,800 ล้านบาท
ส่วนโครงการบ้านเดี่ยวระดับกลางถึงระดับบน ใน 5 โครงการเดิม ได้แก่ โครงการบ้านแสนสิริ สุขุมวิท, นาราสิริ พัฒนาการ-ศรีนครินทร์, นาราสิริ สาทร-วงแหวน, เศรษฐสิริ รามอินทรา และเศรษฐสิริ สนามบินน้ำ ทั้งนี้กลุ่มโครงการดังกล่าว มีสินค้าเหลือ ขายจำนวน 82 ยูนิต มูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท และนับจากต้นปีที่ผ่านมาบริษัทสามารถขายบ้านไปแล้วประมาณ 130 ยูนิต มูลค่าประมาณ 1,200 ล้านบาท โดยบริษัทเชื่อมั่นว่าตลาดบ้านเดี่ยวระดับนี้ ยังมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่องไปจนถึงปลายปีนี้
นายเศรษฐา กล่าวเสริมว่า ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้เปิดการขาย (Pre-Sale) โครงการ สราญสิริ รามอินทรา โครงการบ้าน เดี่ยวบนพื้นที่ 50 ตารางวาขึ้นไป ราคาเริ่มต้นเพียง 2.99 ล้านบาท โดยมีลูกค้าเข้าเยี่ยมชมเกือบ 1,000 ราย และสามารถสร้างยอดจองถึง 35 ยูนิต คิดเป็นมูลค่าขายกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนให้เห็นชัดว่า ตลาดบ้านระดับกลางยังเป็นที่ต้องการของตลาดค่อนข้างมาก
"ในสัปดาห์นี้จะมีการเปิด Pre-Sale โครงการบ้านเดี่ยวระดับกลางใหม่อีกแห่งหนึ่ง คือ โครงการ เศรษฐสิริ วงแหวน สุขาภิบาล 2 ที่ ถือเป็นอีกหนึ่งทำเลที่สะดวกสบายและเหมาะสมสำหรับการทำโครงการที่อยู่อาศัยอย่างยิ่งอีกแห่งหนึ่ง เรานำเสนอรูปแบบบ้านขนาด 50 ตารางวาขึ้นไป ราคาขายเริ่มต้นที่ 3.99 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีเช่นเดียวกับที่โครงการสราญสิริ รามอินทรา เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมอย่างยิ่งกับกลุ่มลูกค้าระดับกลางที่ต้องการสินค้าพรีเมียมและสมราคานั่นเอง" นายเศรษฐากล่าว
ด้านแผนการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2548 คาดว่าจะมีการเปิดตัวโครงการใหม่อีกอย่างน้อย 2-3 โครงการ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมซื้อที่ดินในทำเลที่เหมาะสมย่านกลางใจเมือง (ซีบีดี) โดยเตรียมงบจัดซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการ จำนวน 500 ล้านบาท นอกจากนี้ยังสนใจที่จะซื้อที่ดินในย่านภูเก็ต ฝั่งอันดามันเพื่อพัฒนาโครงการ
ในด้านฐานะการเงิน บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายลดสัดส่วนหนี้สินต่อทุน จากปัจจุบัน 1.37 ต่อ 1 เท่า ให้ลดลงเหลือระดับที่ต่ำกว่า 1 ต่อ 1 เท่าภายในสิ้นปีนี้ เพื่อเป็นการรักษาระเบียบวินัยทางการเงิน สำหรับรายได้ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น จะนำไปเสริมสร้างศักยภาพความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจ และพัฒนาขยายกิจการต่อไป โดยเน้นกลยุทธ์การบริหารสินทรัพย์ของบริษัทฯ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และ ลงทุนในธุรกิจที่สามารถสร้างผลตอบแทนระยะยาว ส่วนกำไรขั้นต้นที่ปรับลดลงจาก 31% มาอยู่ที่ระดับ 28% เป็นผลจากราคาวัสดุปรับขึ้นราคา
"เรื่องความสามารถในการทำรายได้ให้ได้ตามเป้า 10,000 ล้านบาท ภายในสิ้นปีคงจะได้ คิดเป็นอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นเกือบ 50% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่าน" นายเศรษฐากล่าว
|