C.I.T.S สนใจเข้าถือหุ้นในบัตรอีลิท 25% ชี้เพิ่มศักยภาพ นำนักท่องเที่ยวจีนระดับไฮเอนด์เข้าไทย เสนอเงื่อนไขสมาชิกบัตรอีลิทจะได้รับสิทธิประโยชน์ที่ประเทศจีนเท่าเทียมกับไทย ระบุรัฐบาลจีนไฟเขียวลงทุนในต่างประเทศพร้อมเม็ดเงินกว่า 50,000 ล้านเหรียญสหรัฐ จัดเวลาผู้ว่าฯ ททท. พบผู้บริหารปลาย มิ.ย.นี้ ด้านอีลิทเตรียมนำเข้าหารือบอร์ดจัดทำรายละเอียดเรื่องการลงทุน เพื่อนำเสนอ ครม. ททท.เตรียมต่อยอดหวังผลใช้อีลิทจับตลาดนักท่องเที่ยวระดับบน ขณะที่หวัง C.I.T.S โกยนักท่องเที่ยวระดับแมสเข้าไทยเพิ่มขึ้น

นายฌอง คริสโตเฟอร์ อีสซึ ที่ปรึกษาพิเศษด้านการลงทุนต่างประเทศของรัฐบาลจีน ในนามของสเตท แอสเสท ซูเปอร์วิชั่น แอดมิสเตชั่น หรือ SASAC เปิดเผยภายหลังการเข้าหารือกับนางจุฑามาศ ศิริวรรณ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และนายโชคศิริ รอดบุญพา ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด (ทีพีซี) ว่ามีความสนใจที่จะเข้ามาถือหุ้นทีพีซีใน สัดส่วน 20-25% โดยผ่านทาง บริษัท ไชน่า อินเตอร์เนชั่นแนล ทราเวล เซอร์วิส หรือ C.I.T.S พร้อมให้กรอบของการร่วมทุนในครั้งนี้ว่า ให้สมาชิกผู้ถือบัตรอีลิท สามารถใช้บริการและสิทธิประโยชน์ต่างๆ ได้ทั้งในประเทศไทยและประเทศจีน รวมไปถึงสิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนในทั้ง 2 ประเทศด้วย

ทั้งนี้ C.I.T.S เป็นหนึ่งในหลายๆ บริษัทลูกของ สเตท แอสเสท ซูเปอร์วิชั่น แอดมิสเตชั่น หรือ SASAC ซึ่งเป็นองค์กรที่ดูแลด้านการลงทุนของรัฐบาลจีนในต่างประเทศ มีเงินทุนมากกว่า 50,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ลงทุนให้ธุรกิจขนาดใหญ่ อาทิ โรงไฟฟ้า ประกันภัย ระบบบำบัดน้ำเสีย ธุรกิจก่อสร้าง และทัวริสซึม โดยขณะนี้ได้ใช้เงินลงทุนไปในธุรกิจต่างๆ ดังกล่าวแล้วกว่า 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

"รัฐบาลจีนเริ่มเปิดกว้างในการออกไปลงทุนในต่างประเทศ ขึ้นอยู่กับว่าใครมีโครงการอะไรน่าสนใจขนาดไหน ตลอดจนเจ้าของประเทศนั้นๆ เปิดกว้างด้านการลงทุนมากน้อยแค่ไหน"

จากการมาร่วมฟังสัมมนาใน "Asia Leadership Forum" มีทีพีซีเป็นผู้สนับสนุนการจัดงาน โดยทีพีซีได้จัดให้ลงพื้นที่ จ.ภูเก็ตด้วย เพื่อดูแหล่งท่องเที่ยวของจริง ตลอดจนความน่าสนใจเรื่องการลงทุน พร้อมกับการรับฟังนโยบายของภาครัฐทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด และสำนักงาน ททท. เพื่อนำไปรายงาน SASAC พร้อมเตรียมจัดให้ระดับผู้บริหารเข้าหารือกับผู้ว่า ททท. ซึ่งจะเดินทางไปประเทศจีนพร้อมนายกรัฐมนตรีในปลายเดือนนี้

นายโชคศิริ รอดบุญพา ผู้จัดการใหญ่ ทีพีซี กล่าวว่า ในรายละเอียดการร่วมลงทุนของ C.I.T.S ทีพีซีต้องนำเข้าไปหารือในที่ประชุมคณะกรรมการทีพีซี (บอร์ด) เพื่อรวบรวมมูลค่าทรัพย์สินของบริษัททั้งหมด เพื่อตีออกมาเป็นมูลค่าหุ้น ส่วนความเป็นไปได้ในการที่จะให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนในบริษัทซึ่งรัฐบาลถือหุ้น โดย ททท. 100% ตามระเบียบต้องนำเข้าที่ประชุม ครม.ขอความเห็นชอบ

"มีความเป็นไปได้ เพราะแผน 5 ปีของทีพีซี ได้บอกไว้ชัดเจนว่าจะมีการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อนำเงินไปลงทุนในธุรกิจอื่นๆ ประกอบกับการที่ C.I.T.S นำเม็ดเงินเข้ามาลงทุน ก็สอดคล้องกับนโยบายของบริษัท ที่ต้องการดึงเงินต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ซึ่งการเข้าถือหุ้นของ C.I.T.S บริษัทก็ต้องดูอีกว่า ต้องตั้งบริษัทลูกเพื่อการถือหุ้นครั้งนี้หรือไม่ เพราะจะได้ดูแลตลาดจีนโดยเฉพาะด้วย อีกทั้งเราให้ความสำคัญกับจำนวนสมาชิกในทุกประเทศเหมือนกัน แล้วแต่ใครจะสนใจมากหรือน้อย"

สำหรับผลจากการจัดงาน "Asia Leadership Forum" ขณะนี้มีผู้สนใจรวม 31 ราย โดยลงชื่อสมัครแล้วเป็นนักธุรกิจจากประเทศฮ่องกง บังกลาเทศ สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ และอังกฤษ นอกจากนั้นยังมีผู้อยู่ระหว่างการตัดสินใจอีก 8 ราย จากประเทศฮ่องกง ซึ่งคาดว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ รวมถึงมีผลต่อเนื่องในอนาคตด้วย

นางจุฑามาศ ศิริวรรณ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า จากการไปพบปะกับรัฐบาลจีน และได้หารือกับนายคริสโตเฟอร์ ทำให้ ททท.จับทางได้แล้วว่า การที่จะนำนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาประเทศไทย จะต้องติดต่อผ่านหน่วยงานใด ซึ่ง C.I.T.S เป็นหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวของจีน ดูแลนักท่องเที่ยวเข้าและออกนอกประเทศ สามารถสั่งการให้แต่ละมณฑลพานักท่องเที่ยวไปที่ใดได้ ดังนั้นจากการร่วมมือที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ระหว่าง C.I.T.S กับ ทีพีซี มองว่าเป็นส่วนดี ใน 2 ตลาด คือ อีลิท จะทำหน้าที่นำสมาชิกระดับวีไอพีจากประเทศจีนเข้ามาท่องเที่ยวและจับจ่ายในประเทศไทย ขณะเดียวกัน C.I.T.S ซึ่งจะดูแลและนำนักท่องเที่ยวระดับทั่วไปเข้ามาเที่ยวประเทศไทย