Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน14 มิถุนายน 2548
"เบียร์ช้าง" ไม่เลิกเข้าตลท. ฤกษ์ยื่นกระจายหุ้นก.ค.นี้             
 


   
www resources

โฮมเพจ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย

   
search resources

การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
ไทยเบฟเวอเรจ, บมจ.
Electricity
Alcohol




บล.ไทยพาณิชย์ เดินหน้าดัน 2 หุ้นยักษ์ใหญ่ "กฟผ.-เบียร์ช้าง" เข้าตลาดหุ้นไทยปลายไตรมาส 3 หรือไตรมาส 4 ปีนี้ ระบุเป็นการระดมทุนไอพีโอครั้งประวัติศาสตร์ของตลาดทุนไทย ด้วยมีสินทรัพย์ระดับแสนล้านบาทซึ่งคาดว่าจะช่วยทำให้มาร์เกตแคปตลาดหุ้นไทยเพิ่มขึ้นอีก 5-10% "เบียร์ช้าง" ปรับโครงสร้างคืบหน้า 80% วงในคาดยื่นไฟลิ่งขอกระจายหุ้นเดือนกรกฎาคมนี้

ม.ล.ชโยทิต กฤดากร กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ไทยพาณิชย์ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และบริษัทไทยเบฟเวอร์เรจส์ จำกัด (มหาชน) หรือเบียร์ช้าง เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการนำทั้ง 2 บริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่าขณะนี้ยังดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าทั้ง 2 บริษัท จะสามารถเข้ามาจดทะเบียนได้ภายในไตรมาส 3 หรือไตรมาส 4 ปี 2548 นี้

ทั้งนี้ คาดว่าการเข้าจดทะเบียนใน ตลท.ของ กฟผ. และบริษัทไทยเบฟเวอร์เรจส์เข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ จะทำให้มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม (มาร์เกตแคป) ของตลาดหุ้นไทยเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 5-10% และจะทำให้นักลงทุนต่างประเทศ มีความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากยิ่งขึ้น

"กฟผ.กับไทยเบฟเวอร์เรจส์ ถือเป็นหุ้นที่มีขนาดใหญ่มาก โดยมีสินทรัพย์ของแต่ละแห่งประมาณแสนล้านบาท ซึ่งทั้ง 2 บริษัทจะถือเป็นการระดมทุนหุ้นไอพีโอที่มีขนาดใหญ่ 1 ใน 3 ของประวัติศาสตร์ตลาดหุ้นไทยนับตั้งแต่ก่อตั้ง" หม่อมหลวง ชโยทิต กล่าว

ในส่วนของไทยเบฟเวอร์เรจส์นั้น ขณะนี้ดำเนินการปรับโครงสร้างองค์กรไปแล้วประมาณ 80% เช่นเดียวกับ กฟผ.ซึ่งก็ดำเนินการอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยในส่วนของกฟผ.นั้นถือเป็นรัฐวิสาหกิจ ดังนั้นการกระจายหุ้นจะยึดแนวทางการกระจายในรูปแบบหุ้นรัฐวิสาหกิจคือ จะไม่มีการจัดสรรให้แก่ผู้มีอุปการคุณ และจะกระจายผ่านธนาคารพาณิชย์ไปสู่ประชาชนทั่วไป เพื่อเป็นกระจายให้นักลงทุนอย่างทั่วถึง ในส่วนของบริษัทหลักทรัพย์นั้นจะเป็นผู้จัดสรรให้แก่นักลงทุนสถาบันเท่านั้น

ปัจจุบันนี้ตลาดทุนไทยมาร์เกตแคป 30% เป็นหุ้นที่มาจากกลุ่มพลังงาน ดังนั้นจึงเห็นว่าควรที่จะทำให้มีสัดส่วนที่ให้มีความสมดุลในกลุ่มอื่นๆ ด้วย เช่นหุ้นกลุ่มยานยนต์ ซึ่งธุรกิจมีแนวโน้มจะเติบโต และรัฐบาลก็พร้อมที่จะให้การสนับสนุนเพื่อที่จะให้ประเทศไทยเป็นดีทรอยต์เอเชีย ดังนั้นจึงมองว่าควรที่จะดึงบริษัทที่เป็นผู้นำในธุรกิจดังกล่าวเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น

หุ้นใหม่ที่เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ในปี 2547 ที่ผ่านมา จะเป็นบริษัทที่มีขนาดเล็กๆ ซึ่งมีเข้ามาจดทะเบียนประมาณ 60 บริษัท และหุ้น 2 ใน 3 ราคาปรับตัวลดลงมาต่ำกว่าจอง แสดงให้เห็นว่าถึงคุณภาพของบริษัทที่เข้ามาจดทะเบียน ดังนั้นจึงต้องการเตือนนักลงทุนที่จะเข้าลงทุนในหุ้นจองควรที่จะศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนที่จะเข้ามาซื้อ

ขณะเดียวกัน บริษัทที่ปรึกษาทางการเงินก็ควรที่จะเลือกบริษัทที่มีคุณภาพเข้ามาจดทะเบียน รวมถึงผู้สอบบัญชีด้วยเช่นกัน เพราะมิฉะนั้นจะทำให้นักลงทุนได้รับความเสียหาย ซึ่งบริษัทเหล่านี้ก็จะมีปัญหาด้านงบการเงิน จนทำให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เข้ามาตรวจสอบ

นายกฤช เอทเตอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด กล่าวว่า หุ้นกฟผ.เป็นหุ้นรัฐวิสาหกิจซึ่งจะกระจายผ่านธนาคารพาณิชย์ ดังนั้นจึงเชื่อว่าจะสามารถดึงเงินฝากจากนักลงทุนหน้าใหม่เข้ามาเปิดบัญชีได้ ซึ่งนักลงทุนดังกล่าวจะลงทุนในระยะยาว เพื่อหวังผลตอบแทนในแง่ของเงินปันผลเป็นหลัก ดังนั้นจึงเชื่อว่าการที่มีหุ้นขนาดใหญ่เข้ามาระดมทุนนั้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อภาวะตลาดหุ้นแต่อย่างใด เพราะเงินที่เข้าลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่จะเป็นเงินทุนของนักลงทุนหน้าใหม่เป็นส่วนใหญ่

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ได้ให้ความเห็นชอบเกี่ยวกับธุรกิจต้องห้ามสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้

อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมาหลังจากมีกระแสข่าวว่ามีบริษัทที่อยู่กลุ่มผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะเข้ามาจดทะเบียนได้มีกลุ่มผู้คัดค้านออกมาคัดค้านการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ของเบียร์ช้างจำนวนมาก

ปัจจุบันจึงยังไม่มีบริษัทที่ทำธุรกิจแอลกอฮอล์ยื่นขอเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ

สำหรับกรณีของบริษัทไทยเบฟเวอร์เรจส์ ยังไม่มีการยื่นเอกสารเข้ามา ดังนั้น ตลท.จึงยังไม่พิจารณาเรื่องดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตาม หากมีการยื่นเรื่องดังกล่าวเข้ามา ตลท.ก็พร้อมจะพิจารณา

ด้านแหล่งข่าวจากบริษัท ไทยเบฟเวอร์เรจส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า คาดว่าบริษัทไทยเบฟเวอร์เรจส์จะสามารถปรับโครงสร้างได้เสร็จสิ้นในเร็วๆ นี้ และจะเตรียมยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชน (ไอพีโอ) ในเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้

ก่อนหน้านี้บริษัทไทยเบฟเวอร์เรจส์ หรือ เบียร์ช้าง ถูกคัดค้านจากกลุ่มผู้คัดค้านการนำธุรกิจแอลกอฮอล์เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯจากเครือข่ายประชาชนจำนวนหลายองค์กร รวมทั้งเครือข่ายองค์กรเยาวชน และพระภิกษุสงฆ์ร่วมแสดงความเห็นคัดค้าน โดยมีการเดินทางมาชุมนุมคัดค้านหน้าบริเวณอาคาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นระยะๆ

ทั้งนี้ มีจำนวนผู้ประท้วงมากที่สุดในวันที่จะมีการประชุมคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และมีวาระการพิจารณาบริษัทไทยเบฟเวอร์เรจส์ จนคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต้องแถลงเลื่อนพิจารณาวาระดังกล่าวออกไปโดยไม่มีกำหนด   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us