|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ทนาย "เริงชัย" เตรียมยื่นขยายเวลาอุทธรณ์พร้อมขอทุเลาบังคับคดีชดใช้ความผิดปกป้องค่าเงินบาท 1.86 แสนล้านบาท เพื่อรอคัดคำพิพากษา เชื่อ ธปท.จะชะลอการบังคับคดีเพื่อรอให้คดีถึงที่สุด ขณะที่ บช.ก. ระบุต้องสอบสวนเพิ่มเติม 10 ประเด็นก่อนดำเนินคดีอดีตผู้บริหารธนาคารมหานคร (FBCB) พร้อมสั่งเร่งสรุปสำนวนคดีเศรษฐกิจที่คั่งค้างอีกกว่า 1 พันคดี
วานนี้ (13 มิ.ย.) นายนพดล หลาวทอง ทนายความนายเริงชัย มะระกานนท์ อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการพิจารณายื่นอุทธรณ์คดีที่ศาลแพ่งมีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 31 พ.ค. 48 ให้นายเริงชัยชดใช้เงิน 1.86 แสนล้านบาท ฐานประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงกรณีปกป้องค่าเงินบาทเมื่อปี 2540 ว่า ขณะนี้ศาลแพ่งยังคัดถ่ายสำเนาคำพิพากษาฉบับสมบูรณ์ไม่แล้วเสร็จ ซึ่งประมาณปลายสัปดาห์นี้จะได้ติดตามขอคัดสำเนาคำพิพากษาจากศาลอีกครั้ง เพื่อนำมาประกอบการพิจารณายกร่างอุทธรณ์ค้านคำพิพากษาศาลชั้นต้น และคาดว่าคงจะยื่นอุทธรณ์ไม่ทันตามกำหนด ซึ่งจะยื่นขอขยายเวลาอุทธรณ์ออกไปก่อน
ส่วนการขอทุเลาการบังคับคดีจากธปท. ตามกฎหมายต้องมีการยื่นอุทธรณ์ก่อน โดยจะยื่นขอทุเลาการบังคับคดีพร้อมๆ กับยื่นอุทธรณ์ต่อศาล ส่วนหลักทรัพย์ที่จะต้องยื่นเพื่อเป็นค่าธรรมเนียมต่อศาลในการขอทุเลาการบังคับคดีนั้น นายนพดลกล่าวว่า ยังไม่ได้เตรียมการใดๆ เพราะคดีนี้เป็นการกระทำละเมิดของเจ้าหน้าที่ ไม่เหมือนคดีละเมิดทั่วไป ซึ่งศาลจะเป็นผู้วินิจฉัยว่าการทุเลาบังคับคดีจะต้องใช้หลักทรัพย์วางประกันหรือไม่ อย่างไรก็ตาม หาก ธปท.จะขอบังคับคดีนายเริงชัยใน ขณะนี้ก็ได้ แต่ตามความเป็นจริงแล้วเชื่อว่าทางธปท.คงจะต้องรอให้คดีนี้ถึงที่สุดก่อน เพราะหาก ธปท.จะมาบังคับคดีจริง แต่หากศาลสูงมีคำพิพากษาแก้ หรือคำพิพากษายกฟ้องนายเริงชัย ก็จะเกิดความยุ่งยากในภายหลังได้
ทนายความของนายเริงชัยยังกล่าวต่อด้วยว่า หากท้ายที่สุดแล้วศาลฎีกามีคำพิพากษาบังคับให้นายเริงชัยชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 1.86 แสนล้านบาท ทางนายเริงชัยก็ยังสามารถยื่นเรื่องต่อ ธปท. ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการปฏิบัติเกี่ยวกับการรับผิดทางละเมิด พ.ศ. 2539 ขอผ่อนผันการชำระหนี้ตามความเหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจตามความเป็นจริงได้ เช่นจำนวนทรัพย์สินที่นายเริงชัยมีอยู่จริง กับสภาวการณ์ค่าครองชีพ รายรับ-รายจ่าย และอื่นๆ
ด้าน พล.ต.ท.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินคดีอดีตผู้บริหารธนาคารมหานคร ที่ถูก ธปท. ร้องทุกข์กล่าวโทษในข้อหาอนุมัติสินเชื่อไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของ ธปท.ทำให้เกิดความเสียหายกว่า 4 พันล้านบาทว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปสำนวนคดีได้ เนื่องจากยังขาดหลักฐานในเรื่องที่มาของทรัพย์สิน และยังมีประเด็นที่ต้องสอบสวนเพิ่มเติมอีกกว่า 10 ประเด็น ซึ่งจะสั่งเพิ่มพนักงานสอบสวนในคดีนี้เพื่อเร่งสรุปสำนวนคดีให้ทันก่อนหมดอายุความในสิ้นปีนี้
ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางยังได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนให้เร่งสอบสวนคดีค้างเก่าที่คั่งค้างอยู่จำนวนมากให้เสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือนนี้ โดยเฉพาะคดีในส่วนของกองบังคับการสืบสวนสอบสวนคดีเศรษฐกิจที่มีคดีคั่งค้างกว่า 1 พันคดี เพื่อเตรียมรับการปรับโครงสร้างกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางใหม่
|
|
|
|
|