Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน4 กรกฎาคม 2545
"เดมเลอร์ไครสเลอร์"เผย3ยุทธศาสตร์หลักธุรกิจ เพิ่มบทบาทผู้บริหารไทยให้ความสำคัญบุคลากร             
 


   
search resources

เดมเลอร์ไครสเลอร์ (ประเทศไทย), บจก.
Auto Dealers




การก้าวเป็นผู้นำของเดมเลอร์ไครสเลอร์ในตลาดเมืองไทยเป็นบทพิสูจน์ความสามารถผู้บริหารได้เป็นอย่างดี "มร.คาร์ล-ไฮนซ์ เฮคเฮาเซ่น" นายใหญ่เผย 3 ยุทธศาสตร์หลักที่ใช้ในการบริหารกิจการ

เน้นสร้างผู้บริหาร คนไทยลดสัดส่วนผู้บริหารต่างชาติ การที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ ครอง ตลาดรถหรูมายาวนานจนถึงปัจจุบันๆ

นอกจากความเป็นเจ้าแห่งนวัตกรรมยานยนต์ที่พัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งจนทำให้เมอร์เซเดส-เบนซ์เป็นสุดยอดรถในฝันของทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศไทยรถเบนซ์เปรียบเสมือน

รถประจำตระกูลที่เป็นมรดกสืบ ทอดหลายรุ่นหลายสมัย เมอร์เซเดส-เบนซ์ เป็นรถหรูหราที่ครองส่วนแบ่งทางการตลาดสูงที่สุดในทุกๆ รุ่น ไม่ว่าจะเป็นรุ่น S-Class , E-Class, ไปจนถึง C-Class

โดยมร.คาร์ล-ไฮนซ์ เฮคเฮาเซ่น ประธานกรรม การบริหาร เดมเลอร์ไครสเลอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ตั้งเป้าสำหรับยอดขายรถเบนซ์ในปีนี้ไว้ที่ 4,500 คัน คือ 800,1,700, และ 2,000 คัน ตามลำดับ

ขณะที่ปีที่แล้วมียอดขาย 3,700 คัน หรือเพิ่มขึ้น 20% ปัจจัยที่ทำให้ท่านประธานฯแห่งค่ายดาวสามแฉกมั่นใจว่าจะบรรลุเป้าหมายส่วนหนึ่งเกิดขึ้นจาก การที่ทางบริษัทฯเพิ่งจะเปิดตัว the new E-Class

W211 โดยมั่นใจว่า นับจากนี้ต่อไป W211 จะเป็นดาวเด่นที่โกยยอดขายให้กับเดมเลอร์ไครสเลอร์ตั้งแต่นี้ไปจนถึงอีกครึ่งทศวรรษเลยทีเดียว ซึ่งการเปิดตัวในครั้งนี้ถือเป็นการเปิดตัว E-Class

พวงมาลัยขวาครั้งแรกของไทย หลังจากที่บริษัทฯ เพิ่งจะเปิดตัวพี่ใหญ่ในกลุ่ม S-Class และ CLK-Class พวงมาลัยขวาครั้งแรกของโลกอย่างเป็น ทางการ มร.เฮคเฮาเซ่น กล่าวว่า หาก

จะทำถามว่าจะทำไมจึงเลือกเป็นประเทศไทย ในการเปิดตัวรถถึง 3 รุ่นในประเทศไทยเป็นเพราะตลาดรถยนต์ในเมืองไทยโตวันโตคืนสวน กระแสแม้ในยามวิกฤติเศรษฐกิจ ดังจะดูได้จากตัวเลข ซึ่ง 5

เดือนแรกของปีนี้ เดมเลอร์ฯกวาดยอดขายไปแล้ว 1,500 คัน หรือเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 50% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดยรุ่น S-Class มีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดถึง 90 % E-Class 45% และ

C-Class 27% ประธานกรรมการบริหารเผย

ถึงจุดแข็งที่ทำให้บริษัทฯประสบความสำเร็จกับยอดขายรถที่เพิ่มขึ้นว่า มาจากการใช้นโยบายที่ให้ความสำคัญในเรื่องความสัมพันธ ์และการเป็นมิตรที่ดีต่อผู้จำหน่าย หรือดีลเลอร์ โดยการออกเยี่ยมดีล

เลอร์ด้วยตัวเองทุกวันพฤหัสบดีเพื่อรับฟังรายงานยอดขาย ข้อร้องเรียนจากลูกค้า ตลอดจนร่วมกันแก้ ปัญหาทุกเรื่อง นับเป็นนโยบายที่แตกต่างจากการบริหารงานของชาติ ตะวันตกอื่นๆ

"เราใช้กลยุทธ์การสัมผัสกับปัญหาอย่างละเอียด และแก้ปัญหา นั้นร่วมกับดีลเลอร์ในลักษณะโน้มน้าว เสนอแนะมากกว่าการสั่งการ เพื่อที่จะได้เข้าใจและรู้จริงในการแก้ ปัญหานั้นๆ

ซึ่งดีลเลอร์ก็พอใจและมีความรู้สึกว่าเค้าเป็นพาร์ท เนอร์ไม่ใช่เป็นเพียงผู้จำหน่ายรถ เป็นไปตามนโยบายที่ว่า ดีลเลอร์ คือ ลูกค้าที่สำคัญที่สุด" นอกจากภารกิจที่ มร.คาร์ล-ไฮนซ์ เฮคเฮาเซ่น

จะต้องดูแลรถเมอร์เซเดสให้รักษาตำแหน่งอยู่ได้แล้วยังต้องรักษาระดับยอดขายของ จี๊ป เชโรกี อีกด้วย โดยในปีนี้คาดว่าจะมียอดขายที่ 400 คัน เท่า กับปีที่แล้ว เท่ากับเป็นการต้องบริหารรถ 2 สัญชาติ

คือ เยอรมัน และสหรัฐฯให้ไปได้ดีในตลาดไปพร้อมกัน ซึ่งด้วยประสบการณ์ทำให้ มร.เฮคเฮาเซ่น พบว่าการบริหารคนเป็นเรื่องสำคัญ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่ กับกลุ่มเป้าหมายด้วยว่าเป็นชาติใด

บริษัทฯจึงให้ความสำคัญกับการมีผู้บริหารที่เป็นคนไทยมากขึ้น โดยลดสัดส่วนผู้บริหารที่เป็นต่างชาติลง จากเดิม 15 คน ในปีที่แล้ว เหลือ 8 คน ในปีนี้

และแต่งตั้งคนไทยที่มีความสามารถขึ้นบริหารงานแทน ด้วยความเชื่อที่ว่า ผู้บริหารคนไทย จะรู้ใจคนไทยได้ดีที่สุด ปัจจัยต่อมาที่จะทำให้บริษัทฯ ประสบความสำเร็จ คือ

การให้ความสำคัญในเรื่องการอบรม และพัฒนาบุคลากร โดยจะมีการส่งเจ้าหน้าที่ไปอบรมเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในการทำงานอย่างต่อเนื่อง และขณะเดียวกันตัว

ท่านประธานฯและดีลเลอร์ก็เข้าอบรมคอร์สต่างๆ อยู่เป็นประจำ เพื่อให้ทันต่อกระแสนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เข้ามาบทบาทในการพัฒนา รถแต่ละรุ่น โดยเฉพาะเรื่อง อิเล็ก-ทรอนิกส์ที่มีความสลับซับซ้อน

ปัจจัยสุดท้ายที่ประธานกรรม การบริหารถือว่าเป็นหัวใจหลักที่ลูกค้าต้องการมากที่สุดคือ บริการหลังการขาย เพราะหลังจากที่ลูกค้า เป็นเจ้าของรถแล้ว

แน่นอนว่าบริการหลังการขายเป็นสิ่งสำคัญที่ลูกค้าต้องการ เดมเลอร์ไครส เลอร์ฯจึงพัฒนาเรื่องบริการหลังการขายมาโดยตลอด ซึ่งนอกจากจะมีศูนย์บริการกลางที่มีวิศวกร ช่างยนต์ที่เชี่ยวชาญแล้ว

คลังอะไหล่ที่มีสต็อกอะไหล่ที่พอเพียงก็เป็นเรื่องที่ละเลยมิได้ โดยที่ผ่านมานั้น ศูนย์บริการกลางได้รับรางวัล JD Power "ในอนาคตเราต้องการเห็นการจ้างงานคนไทยมากขึ้น

เพราะการที่ตลาดรถมีการเติบโตเป็นเครื่องบ่งบอกได้ว่าเศรษฐกิจเริ่ม ดีมีการบริโภคก็จะส่งให้คนไทย มีงานทำมากขึ้น" มร.เฮคเฮาเซ่น กล่าวถึงความฝันในอนาคตที่อยากเห็น

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us