|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
 |
เป๊ปซี่ประกาศตัวโค่นบัลลังก์โค้กสำเร็จ ขึ้นเป็นผู้นำเจ้าตลาดน้ำอัดลมรวมผงาดครองแชร์ 49.1% เป็นครั้งแรกในรอบ 52 ปี ย้ำปีนี้เน้นบริหาร 5 แบรนด์ ให้เติบโตก่อน ส่วนก้าวต่อไปขอแจ้งเกิดตลาดน้ำผัก-ผลไม้ หลังชาเขียวแข่งดุสองเดือนแห่ออกสินค้าใหม่เพียบ ล่าสุดเกาะกระแสแบทแมน ทุ่ม 30 ล้านบาท เปิดตัว "มิรินด้า แบทแมน บีกินส์" ตั้งเป้ายอดขายพุ่ง 10%
นายชาลี จิตจรุงพร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เป๊ปซี่ โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดน้ำอัดลมมูลค่า 30,000 ล้านบาท ในช่วง 4 เดือนแรก ที่ผ่านมานี้เติบโต 4% ในขณะที่อัตราการเติบโตของบริษัทสามารถโตได้มากกว่าตลาดรวมคือ 6% โดย มีน้ำดำหรือเป๊ปซี่เป็นตัวผลักดันซึ่งในช่วง 4 เดือน เติบโตถึง 8% ส่งผลให้ส่วนแบ่งการตลาดโดยรวมของบริษัทขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่ง คือ 49.1% ในรอบ 52 ปี เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมามีส่วนแบ่ง 46% ขณะที่ค่ายคู่แข่งโค้กมีส่วนแบ่ง 48.3% และอื่นๆ 2.6% ทั้งนี้ความสำเร็จดังกล่าว เกิดขึ้นจากการดำเนินกลยุทธ์ในตลาดน้ำดำ ด้วยการใช้มิวสิกมาร์เกตติ้ง, ซอกเกอร์ ตลอดในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา การมีภาพยนตร์โฆษณา โปรโมชัน และนวัตกรรมใหม่อย่างต่อเนื่อง
ในขณะที่ตลาดน้ำสีมิรินด้าก็ประสบความสำเร็จเช่นกัน โดยหลังเปิดตัว "มิรินด้า มะนาวสะใจ" ลงสู่ตลาดในช่วงหน้าร้อน ส่งผลให้ในช่วง 2 เดือน ยอดขายรสชาติดังกล่าวเติบโตเกินเป้าหมายที่วางไว้ 229% และส่งผลให้ทั้งแบรนด์มียอดขายโตขึ้น 20% เมื่อเทียบกับการออกรสชาติอื่นๆ ส่งผลให้แบรนด์ มิรินด้าเติบโต 10% ในขณะที่ตลาดน้ำสีมูลค่ามากกว่า 6,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นกว่า 20% จากมูลค่าตลาดรวม 30,000 ล้านบาท สภาพตลาดทรงตัว ความสำเร็จดังกล่าวเกิดขึ้นจากการเริ่มเปิดตัวทูตมิรินด้าคนใหม่ คือ ศรราม เทพพิทัพษ์ กับโปรโมชัน Challenge the Alps เน้นภาพลักษณ์ความสนุกสนานของแบรนด์และทูตของแบรนด์ รวมทั้งการใช้กลยุทธ์การตลาดอย่างครบวงจร
สำหรับก้าวต่อไปของบริษัทในขณะนี้ จากแนวโน้มเครื่องดื่มสุขภาพที่ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภค บริษัทจึงมีความสนใจเข้ามาทำตลาดเช่นกัน โดยอยู่ระหว่างการศึกษาน้ำผักผลไม้ เนื่องจากตลาดนี้ยังไม่มีผู้เล่นรายใหญ่ที่เป็นผู้นำตลาดอย่างจริงจัง ซึ่งขณะนี้ตัวสินค้า อยู่ในขั้นตอนของการพัฒนาวิจัยรสชาติและพฤติกรรมผู้บริโภค ขณะที่ตลาดชาเขียวเป็นอีกตลาดหนึ่งที่บริษัทให้ความสนใจ เพราะเป็นตลาดใหญ่ที่มีอัตราการเติบโตรวดเร็ว แต่สภาพการแข่งขันมีความรุนแรง เพราะมีผู้เล่น 2 รายใหญ่ เป็นผู้นำตลาดชัดเจน และยังมีผู้เล่นรายใหม่ถึง 4 ราย เข้ามาทำตลาดชาเขียวเพิ่มขึ้น ภายในช่วงเวลา 2 เดือน
"ตอนนี้เราให้ความสนใจเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ แต่ยังบอกไม่ได้ว่าจะเปิดตัวสินค้าในตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพในกลุ่มใดก่อน ต้องขึ้นอยู่กับความพร้อมของตัวสินค้า และการแข่งขันของตลาด ซึ่งจะต้องรอดูจังหวะดีๆ ไม่ใช่เห็นคู่แข่งลงแล้วจะลงบ้าง อย่างน้ำผลไม้ ทรอปิคาน่า ขณะนี้ยังไม่ลงตัวจึงยังบอกอะไรไม่ได้ แต่สินค้าที่คู่แข่งมีของบริษัทก็มีหมดทุกอย่างเช่นกัน"
นายฐิติวุฒิ์ บุลสุข ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แม้ว่าค่ายคู่แข่งจะเปิดตัวสินค้าหลายตัวลงสู่ตลาดก็ตาม แต่ที่ผ่านมาสินค้าของบริษัทมีหลากหลายแบรนด์ อาทิ เกเตอเรด ลิปตัน เป๊ปซี่ มิรินด้า คริสตัล ซึ่งนโยบายของบริษัทให้ความสำคัญในเรื่องของการบริหารงานอย่างไรให้สินค้าในเครือทุกกลุ่มมีอัตราการเติบโต และโตอย่างต่อเนื่องมากกว่า นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการให้มากขึ้น เพื่อลดต้นทุนค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น ในช่วงที่ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดได้ร่วมมือกับวอร์เนอร์ บราเธอร์ส และโมโตโรล่า ด้วยการทุ่มงบ 30 ล้านบาท เปิดตัวแคมเปญ "มิรินด้า แบทแมน บีกินส์" ตั้งแต่มิ.ย.-ก.ค.48 เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคได้รับสิทธิประโยชน์ในด้าน แลก ลด และลุ้นโทรศัทพ์มือถือโมโตโรล่า และของรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย คาดว่าแคมเปญดังกล่าวจะกระตุ้นยอดขายได้ 10% โดยปัจจุบันเป๊ปซี่มีส่วนแบ่งตลาดกว่า 60% ส่วนโค้กกว่า 30% จากมูลค่าตลาด 24,000 ล้านบาท ส่วนมิรินด้ามีส่วนแบ่งกว่า 20% แฟนต้ากว่า 70% จากมูลค่า 6,000 ล้านบาท
|
|
 |
|
|