|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
วิษณุ เปิดผลสอบ CTX ระบุไม่มีเจ้าหน้าที่ไทยรับสินบน โชว์จดหมาย ก.ยุติธรรมสหรัฐฯ ช่วยยืนยันซ้ำ "ทักษิณ" ระบุตอบได้หมดทุกข้อ เชื่อประชาชนไม่สงสัย พร้อมนำผลสอบไปชี้แจงฝ่ายค้านในการอภิปราย ปชป.อัดข้อมูลมั่ว เลือกชี้แจงเฉพาะส่วนที่ได้ประโยชน์เข้าตัว เสี่ยเช ชี้แจง กมธ.วุฒิ
วานนี้ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้แถลงผลตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีการจัดหาวัสดุอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยมีข้อสรุปว่าจากการตรวจสอบของคณะกรรมการ โดยเฉพาะในประเด็นที่มีข่าวว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยมีส่วนเกี่ยวข้องในการเรียกหรือรับผลประโยชน์นั้น ระบุว่า ยังไม่พบสิ่งผิดปกติตามที่เป็นข่าว
นายวิษณุเปิดเผยว่า ได้รับหนังสือจากทางกระทรวงยุติธรรม แผนกอาชญากรรม สำนักงานกิจการระหว่างประเทศของสหรัฐฯ ที่ส่งเอกสารเป็นโทรสารมายังนายคัมภีร์ แก้วเจริญ อัยการสูงสุด ตามที่ไทยได้ส่งหนังสือขอคำชี้แจง รับรองยืนยันไปก่อนหน้านี้ โดยมีการลงนามจาก Mary Ellen Warlow อธิบดีกรมกิจการระหว่าง ประเทศของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ลงวันที่ 8 มิ.ย.48 ระบุว่า "จนถึงบัดนี้ กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ ยังไม่พบหลักฐานใดที่แสดงการจ่ายเงินของบริษัท อินวิชั่นฯ ให้แก่เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยหรือแม้แต่การเสนอมอบเงิน และได้รับเงินดังกล่าว ซึ่งต่อจากนี้ เราพร้อมให้ความร่วมมือในการตรวจสอบและแบ่งปันหลักฐานทั้งหมดแก่รัฐบาลไทย"
รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า จากการสอบสวนของคณะกรรมการฯ พบว่ามีผู้ส่งบัตรสนเท่ห์ร้องเรียนต่อบริษัท อินวิชั่นฯ ว่าได้พบอีเมลจากนายวีฮุคกี ตัวแทนจำหน่ายภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกจากสิงคโปร์แจ้งเข้าไปที่บริษัท อินวิชั่นฯ ขอส่วนลดราคา โดยอ้างว่าเพื่อนำไปเสนอให้เจ้าหน้าที่ของไทยแต่ ไม่มีการยืนยันว่าได้ทำธุรกรรมทางการเงินจริง ซึ่งตอนนั้นบริษัทอินวิชั่นเองก็รับรู้แต่ไม่ได้คัดค้านใดๆ
"ตามกฎหมายสหรัฐฯ แม้ว่ายังไม่มีจ่ายเงินก็ถือว่ามีความผิดแล้ว ซึ่งระหว่างนั้น กระทรวงยุติธรรม สหรัฐฯ และก.ล.ต.สหรัฐฯได้เข้าตรวจสอบ ทางบริษัท อินวิชั่นฯ เพราะเกรงว่าจะพัวพันถึงคดีการควบรวมจะยืดเวลานาน และเกิดความเสียหาย จึงยอมรับผิดในการจ่ายค่าปรับให้กระทรวงยุติธรรมวงเงิน 8 แสนดอลลาร์สหรัฐ และจ่ายให้ ก.ล.ต.สหรัฐฯ อีก 5 แสนดอลลาร์สหรัฐ เพื่อให้ยุติคดี โดยทางการสหรัฐฯ ประกาศว่าคดียุติลงในระดับบริษัทแล้ว แต่ถ้าพบว่าในระดับบุคคลพบว่าผิดปกติหรือการทุจริตก็ให้นำข้อมูลหลักฐานมาดำเนินการในขั้นต่อไป" นายวิษณุ กล่าว
เสนอตั้ง กก.กลาง สอบหนองงูเห่า
นายวิษณุ กล่าวต่อว่า คณะกรรมการที่ตั้งขึ้นไม่มีหน้าที่บอกว่าใครถูกใครผิด แต่ถือว่าขณะนี้คณะกรรมการฯ ได้สิ้นสุดภารกิจแล้ว แต่ควรให้เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายดำเนินการต่อไปตามอำนาจคือ เปิดเผยผลการตรวจสอบต่อสาธารณชน ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการสอบในขั้นต่อไปหากพบสิ่งผิดปกติ พร้อมทั้งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ติดตามเส้นทางการเดินกระแสเงินของทุกคนที่เกี่ยวข้องและทุกรายการตามความผิดมูลฐาน และรวบรวมเอกสารข้อมูลที่มีอยู่ส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตามมาตรา 66 และมาตรา 44 แห่งพระราชบัญญัติ ป.ป.ช.
นอกจากนี้ คณะกรรมการฯ ยังได้เสนอแนะว่า หากไทยจะซื้อเครื่อง CTX ต่อไป ควรซื้อโดยตรงจากบริษัท จีอีฯ แต่หากจะยกเลิก และซื้อเครื่องยี่ห้ออื่นก็ควรให้อัยการสูงสุดดูข้อกฎหมาย และเนื่องจากเรื่องการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิเป็นโครงการใหญ่ที่มีการกล่าวหาหลายเรื่อง จึงเสนอให้รัฐบาลควรตั้งคณะกรรมการกลางที่น่าเชื่อถือขึ้นชุดหนึ่ง เพื่อรองรับการร้องเรียนและตรวจสอบในทางลับ และรายงานผลต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีโดยตรง
ทั้งนี้ ภายหลังได้มีการควบรวมกิจการแล้ว ล่าสุด บริษัท จีอี อินวิชั่นฯ ได้แจ้งมายังไทยว่า นับจากนี้ประเทศไทยสามารถสั่งซื้อเครื่อง CTX โดยตรงจากบริษัท จีอี อินวิชั่นฯ โดยไม่ต้องผ่านตัวแทนจำหน่าย คือ บริษัท แพทริออต เนื่องจากบริษัท แพทริออต ไม่เป็นตัวแทนจำหน่ายของบริษัทอินวิชั่นฯ อีกต่อไป ดังนั้นค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่บริษัท แพทริออต ชำระให้บริษัทอินวิชั่นก่อนหน้านั้นก็ถือเป็นการจ่ายค่าโง่ของบริษัทไอทีโอเอง
นำผลสอบชี้แจงอภิปรายฯ
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ถือว่าสอบไปเรียบร้อยหมดแล้วและตอบได้ทุกประเด็น ประเด็นสงสัยก็ไปดูในจุดที่สงสัย เช่น สงสัยว่าไม่ได้เสียภาษีหรือไม่ได้เสียค่าอะไร กรรมการสอบสวนได้เอาข้อสงสัยของสังคมของกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ไปสอบทั้งหมด ผลสุดท้ายได้คำตอบทุกข้อ มีหลักฐานที่มีตัวเลขที่ชัดเจน ดังนั้นเรื่องนี้ตอบได้ชัดเจนแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การชี้แจงครั้งนี้จะคลี่คลายข้อสงสัยของประชาชนได้หรือไม่ ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่าไม่มีปัญหา อยู่ที่สื่อ ถ้าสงสัยก็ถามให้ครบ ถามให้กระจ่าง นำเสนอข่าวให้ตรงไปตรงมา อย่านำเสนอด้วยอารมณ์ ถ้าตรงไปตรงมาก็ไม่มีปัญหา เพราะตนดูรายงานแล้วก็เห็นว่าเคลียร์ แต่ว่ายังไม่ไว้ใจ เราต้องเฝ้าติดตามเงินต่อไป ต้องระวังพฤติกรรมที่ส่อไปในทางทุจริตเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ข้อสรุปของคณะกรรมการชุดนายบุญศักดิ์ สามารถนำไปใช้ในการชี้แจงต่อฝ่ายค้านที่จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจได้หรือไม่ พ.ต.ท. ทักษิณ กล่าวว่า แน่นอน ใช้ได้ เพราะมีหลักฐาน มีเอกสารประกอบ คณะกรรมการไปหาข้อมูลค่อนข้างลึกทีเดียว เขาตั้งใจทำงานมีข้อมูลกว่า 800 หน้า สามารถชี้แจงได้แน่นอน
ปชป.ชี้ข้อมูลมั่ว
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าจากการฟังคำแถลงทั้งหมดชี้ให้เห็นว่าเป็นมหกรรมเอาใบบัวปิดช้างตาย และเพื่อลดกระแสแก้ตัวมั่วข้อมูลโดยชี้แจงเฉพาะเรื่องที่เป็นประโยชน์ให้ประชาชนเห็นว่าไม่มีการทุจริต แต่จงใจละเลยส่วนสำคัญที่จะเชื่อมโยงให้เห็นการทุจริต รวมทั้งนำแต่ข้อมูลของฝ่ายขายที่ได้ประโยชน์เป็นหลักมาพูดโดยไม่ได้ใช้กลไกของรัฐในการหาข้อมูลที่มากไปกว่าที่ฝ่ายค้านมีอยู่ ซึ่งหลายครั้งมีการใช้คำว่า "ได้รับคำอธิบายว่า" ซึ่งหมายความว่าเอาคำอธิบายจากบุคคลที่ให้การมาสรุปและชี้แจงให้ทราบ แสดงให้เห็นว่าคณะกรรมการไม่ได้สืบสวนสอบสวนอย่างจริงจัง
นายองอาจยังตั้งข้อสังเกตว่า นายวิษณุระบุว่าเพิ่งได้รับจดหมายชี้แจงจากสหรัฐฯเวลา 10.30 น. ของวานนี้ (9 มิ.ย.) แต่ได้มีการบอกล่วงหน้ามาหลายวันว่าผลการสอบสวนของคณะกรรมการจะตรงกับของสหรัฐฯคือไม่มีเจ้าหน้าที่และพรรคการเมืองไทยเข้ามาเกี่ยวข้อง และก่อนหน้านี้นายกฯ ออกมาระบุว่าผลสอบไม่มีนักการเมืองทุจริต จึงเป็นที่สงสัยว่าทำไมท่านรู้ก่อนล่วงหน้า นอกจากนี้ในเรื่องเวลาที่ระบุว่าได้รับแฟกซ์ เวลา 10.30 น. เท่ากับเวลาที่สหรัฐฯ เวลา 22.30 น. แสดงว่าสหรัฐฯเห็นว่าเรื่องนี้ใหญ่มาก จึงต้องทำงานนอกเวลาในการส่งเอกสารมาให้ไทย หรือเป็นเพราะนายวิษณุสับสนเรื่องเวลา
เสี่ยเชชี้แจงกมธ.
พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาสอบสวนและศึกษาเรื่องเกี่ยวกับการทุจริต วุฒิสภา เปิดเผยภายหลังการประชุม ซึ่งกรรมาธิการเชิญนายวรพจน์ ยศะทัตต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แพทริออต มาชี้แจงว่า การชี้แจงวันนี้ได้ประโยชน์มาก นายวรพจน์ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงิน รวมถึงเนื้องานที่บริษัทดำเนินการไปแล้ว อย่างไรก็ดี ข้อมูลที่ได้จากผู้บริหารบริษัท แพทริออต ยังไม่สามารถระบุได้ว่าสิ่งที่ชี้แจงเป็นความจริงหรือไม่จะต้องตรวจสอบข้อมูลที่ได้ทั้งหมดก่อน
นายพนัส ทัศนียานนท์ กรรมาธิการ กล่าวว่า หลังการชี้แจงของนายวรพจน์ กรรมาธิการได้นำหนังสือจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯที่แจ้งมายังสำนักงานอัยการสูงสุดของไทยตามความร่วมมือตามสนธิสัญญาว่าด้วยความร่วมมือคดีอาญามาพิจารณา ส.ว.ตาก ตั้งข้อสังเกตว่าที่กระทรวงยุติธรรม สหรัฐฯตอบคำถามระบุว่า ทางการสหรัฐฯไม่มีหลักฐานที่แสดงว่ามีการจ่ายสินบน โดยบริษัท อินวิชั่น หรือตัวแทนของบริษัท อินวิชั่น ให้กับผู้บริหารของฝ่ายไทยและไม่ได้มีหลักฐานแสดงว่ามีการเสนอที่จะจ่ายหรือยอมรับข้อเสนอที่จะจ่ายสินบนมาพิจารณา และเห็นว่ามีการตั้งคำถามแบบมัดถามเพื่อให้ตอบในประเด็นที่ต้องการ
นายพนัสกล่าวว่า ตามหลักฐานที่มีมาก่อนหน้านี้ระบุว่า การจ่ายสินบนไม่ได้จ่ายมาจากสหรัฐอเมริกา แต่มาจากส่วนต่างที่บริษัท แพทริออต ทำกำไรได้ในประเทศไทย เท่าที่นายวรพจน์ มาให้ข้อมูลกับกรรมาธิการระบุว่าได้รับเงินจาก บริษัท ITO ไปแล้ว 600 ล้านบาท โดยมีส่วนหนึ่งนายวรพจน์ ไม่ยอมบอกว่าเอาเงินไปไว้ที่ไหน เพียงแต่ระบุว่าเอาเงินไปซ่อนไว้ นอกจากนี้ ข้อความในหนังสือของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ระบุว่ายินดีให้ความร่วมมือในการสอบสวนและพร้อมที่จะให้เอกสารที่ได้ทำการสอบสวนเรื่องนี้ทั้งหมด หากทางการไทยต้องการ
"กรรมาธิการจึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลขอเอกสารทั้งหมดจากทางการสหรัฐฯมาตรวจสอบ ไม่ใช่ไปตั้งคำถามให้ตอบเพียงเท่านี้ เชื่อว่าในหลักฐานที่มีทั้งหมดจะต้องมีหลักฐานที่ระบุว่ามีใครบ้างที่เกี่ยวข้องกับกรณีนี้ โดยเฉพาะส่วนที่เป็นภาคผนวกบี ที่ระบุถึงรายชื่อของผู้ที่เกี่ยวข้องกับการรับสินบนของบริษัท อินวิชั่น ในประเทศจีน ไทย และฟิลิปปินส์" นายพนัสกล่าว
"เช" ห่วง ไอทีโอไม่ให้ติดตั้งเครื่อง
ด้านนายวรพจน์ กล่าวถึงอนาคตของบริษัท แพทริออต ว่า คงต้องดูว่าบริษัท ITO มีแนวโน้มอย่างไร จะเอาตัวรอดคนเดียวไม่ได้ ส่วนหากจะเปลี่ยนวิธีการซื้อเครื่องซีทีเอ็กซ์ 9000 เป็นการซื้อตรงระหว่างบริษัท จีอี อินวิชั่น กับบริษัทการท่าอากาศยานไทย ขึ้นอยู่กับรัฐบาลไทยว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร เพราะเรื่องนี้ได้กลายเป็นเรื่องของรัฐบาลไปแล้ว
"ผมไม่มั่นใจว่าจะได้เป็นผู้ติดตั้งอุปกรณ์ในโครงการสนามบินสุวรณภูมิต่อไปหรือไม่ การตัดสินใจทั้งหมดขึ้นอยู่กับ ITO ว่าจะตัดสินใจอย่างไร แต่แพทริออตยังมีสัญญาอยู่และคงจะหาแนวทางต่อสู้ทางกฎหมายต่อไป" นายวรพจน์กล่าว และว่าผลการตรวจสอบยังคลุมเครือ ไม่มีหลักฐานการขอเงินหรือรับเงินสินบน ซึ่งหากตรวจสอบแล้วพบว่าแพทริออตไม่ได้มีความผิด ก็ไม่น่าจะยกเลิกสัญญา
นายวรพจน์ เชื่อว่าจากเวลาที่เหลืออยู่ ไม่สามารถติดตั้งเครื่องซีทีเอ็กซ์ 9000 ได้ทันกำหนดเปิดให้บริการสนามบินสุวรรณภูมิในวันที่ 29 กันยายน 2548 แน่ เพราะอุปกรณ์ดังกล่าวยังไม่ส่งมา และยังไม่มีการตรวจสอบบริษัทตัวแทนแห่งใหม่ที่อยู่ในจังหวัดระยอง รวมทั้งยังไม่มีการลงนามในสัญญาติดตั้งโครงการใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายวรพจน์ ได้มอบเอกสารบางส่วนให้แก่ พล.ต.อ.ประทิน เป็นการส่วนตัวภายหลังการชี้แจง และว่า "จะกลับไปบอกกับภรรยาและบุตรว่าได้มาพบกับกรรมาธิการชุดที่ว่าดุที่สุด แต่ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด" และที่เลือกมาชี้แจงกับกรรมาธิการชุดนี้ เพราะตรวจดูแล้วพบว่าเป็นกรรมาธิการชุดได้รับความนิยมจากประชาชนมากที่สุด
ขณะที่ คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ที่ปรึกษากรรมาธิการ ซึ่งฟังการชี้แจงมาโดยตลอด ไม่ได้ตั้งคำถามนายวรพจน์แม้แต่คำถามเดียว เพียงแต่กล่าวทิ้งท้ายว่า "เป็นครั้งแรกที่นั่งในกรรมาธิการ ชุดนี้แล้วไม่อยากถามคำถามเลย เพราะว่าคุณลื่นมาก จนไม่อยากจะถามอะไร"
|
|
|
|
|