Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน7 มิถุนายน 2548
"อีลิท"เล็งร่วมทุนโปรเจกต์สมาชิกเศรษฐีอินเดียทุ่ม 600 ล้านผุดร.ร.             
 


   
search resources

ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด (ทีพีซี), บจก.
Economics




โชคศิริ ฟุ้งสมาชิกอีลิทแห่สนใจลงทุนธุรกิจในประเทศไทย ล่าสุดสมาชิกชาวอินเดีย เล็งเทเงินกว่า 600 ล้านบาท ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และโรงเรียนนานาชาติ แย้มไต๋ ถ้าธุรกิจใดน่าสนใจจะขอร่วมลงทุนด้วย ขณะเดียวกันลุยทำตลาดสร้างภาพไม่หยุด จับมือเอไอเอสทุ่ม 25 ล้าน จัดสัมมนา "Asia Leadership Forum" ดึงนักธุรกิจชั้นนำระดับโลก เปิดเวทีแลกเปลี่ยนความคิด คาดเงินสะพัด 100 ล้าน

นายโชคศิริ รอดบุญพา ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ การ์ด จำกัด ผู้ดำเนินโครงการ ไทยแลนด์ อีลิท การ์ด หรือทีพีซี เปิดเผยถึงกรณีความคืบหน้าเรื่องการลงทุนของสมาชิกอีลิทว่า ขณะนี้สมาชิกผู้ถือบัตรอีลิทชาวอินเดีย ได้แจ้งความประสงค์ผ่านทีพีซี ถึงความต้องการลงทุนในธุรกิจโรงเรียนและอสังหาริมทรัพย์ในไทย รวมมูลค่า 500-600 ล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้มีสมาชิกบัตรอีลิทจากหลายประเทศได้สนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยแล้วมากกว่า 2,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ในรายละเอียดการลงทุนของสมาชิกบัตรอีลิทชาวอินเดียกล่าวคือ ส่วนธุรกิจโรงเรียน สนใจที่จะเปิดโรงเรียนนานาชาติระดับไฮสกูล ซึ่งจะนำเชนมาจากโรงเรียนนานาชาติในประเทศอินเดีย ที่ได้รับความน่าเชื่อถือมากในกรุงนิวเดลี ใช้เงินลงทุนประมาณ 100 ล้านบาท และส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ สนใจที่จะซื้ออาคารสูงรวม 2 อาคาร เพื่อทำธุรกิจในหมวดอสังหาริมทรัพย์ อาจเป็นโรงแรมหรือเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจา จึงยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

"การทำงานของอีลิทในเรื่องของการอำนวยความสะดวกลูกค้าสมาชิก จะบอกได้ดีถึงความเป็นเลขาส่วนตัวที่แท้จริง นอกจากนั้นในรายที่ลงทุนในธุรกิจที่น่าสนใจ ทีพีซียังมีแนวคิดที่จะร่วมเป็นหุ้นส่วน โดยใช้เงินที่ได้จากการขายบัตรสมาชิกส่วนหนึ่งออกไปลงทุน เพื่อให้มีดอกผลงอกงามขึ้นมา ปัจจุบันทีพีซีมีเงินสดหมุนเวียนเป็นสภาพคล่องกว่า 500 ล้านบาท มีสมาชิก 850 ราย"

นอกจากนั้น ในระหว่างวันที่ 13-14 มิถุนายน 2548 ทีพีซีได้จับมือกับบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด(มหาชน) หรือเอไอเอส จัดสัมมนา "Asia Leader-ship Forum" ครั้งที่ 14 โดยได้รับความไว้วางใจจากนิตยสารบิสซิเนสวีค ให้จัดขึ้นเป็นปีที่ 2 ในประเทศไทย ซึ่งครั้งนี้ใช้งบจัดประชุมราว 25 ล้านบาท โดยเอไอเอสเป็นผู้สนับสนุน 5 ล้านบาท และยังมีบริษัทอื่นๆ ร่วมสนับสนุน เช่น รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู บริษัทขนส่งพัสดุ DHL และการบินไทย

ทั้งนี้ทาง นิตยสารบิสซิเนสวีคแจ้งว่า ล่าสุดมีนักธุรกิจชั้นนำระดับ CEO กว่า 300 ราย ได้ตอบรับเข้าร่วมสัมมนาในครั้งนี้แล้ว ส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจในประเทศย่านเอเชีย รองมาคือจากยุโรปและสหรัฐอเมริกา คาดว่าจะมีเงินสะพัดเข้าประเทศไทยจากงานนี้ไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งในส่วนของทีพีซีตั้งเป้าได้ลูกค้าเข้าเป็นสมาชิกบัตรจากงานนี้ไม่น้อยกว่า 25% ของผู้เข้าร่วมประชุม นอกจากนั้นยังมีผลพลอยได้ในเรื่องของการลงทุน เพราะการเข้ามาประชุมของนักธุรกิจชั้นนำ เป็นโอกาสดีที่ประเทศไทยจะได้แสดงศักยภาพความพร้อมด้านการลงทุน นอกจากนั้นทางเอไอเอส ยังได้เชิญนักธุรกิจชั้นนำของเมืองไทยกว่า 100 ราย เข้าสัมมนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น

"Asia Leadership Forum เป็นเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันของนักธุรกิจและนักลงทุนระดับแนวหน้า ซึ่งการจัดสัมมนาครั้งก่อน เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2547 ทีพีซีได้ลูกค้าใหม่จากการจัดงาน 20 ราย ซึ่งครั้งนี้ทีพีซีเตรียมเสนอแพกเกจอีลิทคอนเน็กให้แก่นักธุรกิจและนักลงทุนที่มาร่วมงาน เพราะแพกเกจดังกล่าวจะเอื้อประโยชน์ต่อการลงทุนทำธุรกิจในประเทศไทย โดยเฉพาะเรื่องการอำนวยความสะดวก ติดต่อราชการและข้อกฎหมาย"

อย่างไรก็ตามการจัดสัมมนาครั้งนี้ยังได้รับเกียรติจากบุคคลสำคัญระดับผู้นำของโลกหลายท่าน เข้าร่วมงานและแสดงปาฐกถาในงานนี้ด้วย อาทิ ฯพณฯเคย์ ราลา ซานานา กุสเมา ประธานาธิบดีติมอร์เลสเต, นายไมค์ มัวร์ อดีตนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์และผู้อำนวยการการค้าโลก พล.อ. คอลลิน เพาเวล อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐอเมริกา นายบ็อบ ฮอว์ค อดีตนายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย และนายศุภชัย พานิชภักดิ์ ผู้อำนวยการองค์การการค้าโลกและอดีตรองนายกรัฐมนตรีของไทย โดยมีนายทนง พิทยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดสัมมนา

สำหรับหัวข้อสัมมนาที่กำหนดไว้ครั้งนี้คือ "The New Leadership Imperative - Transforming Vision to Bottomline Reality" หรือ "ความจำเป็นของภาวะผู้นำใหม่ ในการปรับเปลี่ยนวิสัยทัศน์ เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติที่เป็นจริง" ซึ่งปัญหาหลักของการวางแผนในระดับซีอีโอที่สำคัญ คือ การนำไปใช้ปฏิบัติเป็นรูปธรรมได้จริง ส่วนเรื่องที่จะมีการพูดคุยในการสัมมนา เช่น ระบบเทคโนโลยี และการพัฒนาบุคลากร เป็นต้น   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us