หุ้นทีพีไอโพลีนร้อนแรงแทนที่ทีพีไอ นักเก็งตะลุมบอน 2 วัน พุ่งเกือบ 20% หยิบข่าวทีพีไอเตรียมนำทีพีไอโพลีน 249 ล้านหุ้น ออกขายในราคา 40 บาท เปิดศึกแย่งชิงอำนาจบริหารระหว่างกลุ่มเลี่ยวไพรัตน์ กับ กลุ่มใหม่ ขณะที่ "ซิติก" ออกมายืนยันเซ็นสัญญาลงทุนทีพีไอ 75% แล้วกับผู้ถือหุ้นทีพีไอ ด้านกรรมาธิการฯ ตำหนิคลังเซ็นซื้อขายหุ้นทีพีไอ ท้าทายอำนาจศาล "นายกฯ ทักษิณ" อ้างกติกาพันธมิตร ก.คลังซื้อหุ้นทีพีไอถูกต้องแล้ว ย้ำไม่มีการกลั่นเกรงใคร

วานนี้ (2 มิ.ย.) หุ้นบริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPL กลับมาเคลื่อนไหวคึกคักร้อนแรงตั้งแต่เช้า และปิดตลาดที่ 30.75 บาท เพิ่มขึ้น 1 บาท หรือ 3.36% มูลค่าการซื้อขาย 1.68 พันล้านบาท ทั้งนี้ราคาหุ้น TPIPL กลับมาได้รับความสนใจจากนักลงทุนอีกครั้ง นับตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. ส่งผลให้ราคาปรับขึ้น 19.41% ภายในช่วง 2 วันเท่านั้น

บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุว่า การปรับขึ้นของราคาหุ้น TPIPL เกิดขึ้นหลังจากข่าวที่ว่า บริษัท ปิโตรเคมีกัลไทย หรือทีพีไอ จะมีขายหุ้น TPIPL 249 ล้านหุ้น แต่ในการซื้อขายต้องระมัดระวังความแปรผันด้านการถือครองหุ้นระหว่างกลุ่มเจ้าหนี้ ผู้ถือหุ้นใหม่ และ นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ซึ่งปัจจุบันผู้ถือหุ้นถือหลักของ TPIPL ประกอบด้วย 3 กลุ่ม คือ 1. ทีพีไอ 30.8%, 2. ครอบครัวเลี่ยวไพรัตน์ 24.5% และ 3. กลุ่มนักลงทุนทั่วไป 44.7% ดังนั้น ในปัจจุบันการบริหารงานของ TPIPL จึงขึ้นกับครอบครัวเลี่ยวไพรัตน์เป็นหลัก

อย่างไรก็ตาม หากทีพีไอจะขายหุ้น TPIPL ดังกล่าวออกมา ในราคาประมาณ 1 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 40 บาทต่อหุ้น ผู้ที่เข้ามาซื้อหุ้นต่อจากทีพีไอ จะมีสัดส่วนการถือหุ้นสูงสุด และมีอำนาจในการบริหารเหนือครอบครัวเลี่ยวไพรัตน์

ทั้งนี้ สาเหตุการเข้ามาเก็งกำไรหุ้น TPIPL ของตลาดตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 อาจจะมีการคาดหมายว่าจะมีการแย่งชิงอำนาจบริหารระหว่างกลุ่มเดิมคือกับกลุ่มใหม่

เจ้าหน้าที่การตลาดอีกราย กล่าวว่า ราคาหุ้นที่ต้องเสนอขายอยู่ในระดับประมาณ 40 บาท ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าราคาซื้อขายในกระดานในปัจจุบัน ทำให้ราคาหุ้น TPIPL วิ่งขึ้นมาเกือบ 20% หากการตั้งราคาขายเป็นไปตามที่หลายฝ่ายมีการคำนวณ โอกาสที่ราคาจะปรับขึ้นสูงกว่าราคาตอนนี้ก็เป็นไปได้สูง นอกจากนี้การพิจารณามูลค่าหุ้นจากบุ๊กแวลูปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 44 บาท ซึ่งก็ต่างจากราคาที่มีการซื้อขายในกระดานพอสมควร

การเข้าเก็งกำไรกันอย่างคึกคักในหุ้น TPIPL ทำให้การซื้อขายหุ้นทีพีไอวานนี้มูลค่าการซื้อขายถึงกับหดหายไปกว่าครึ่งหลังจากได้รับความสนใจมาหลายวัน

ราคาทีพีไอ ปิดที่ 13.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท (0.72%) มูลค่าการซื้อขาย 1,597.7 ล้านบาท

ด้านเอกสารเผยแพร่จากทีพีไออ้างรายงานข่าวจากสำนักข่าวรอยเตอร์ และสำนักข่าวบูมเบิร์ก ระบุตรงกันจากฮ่องกง (2 มิ.ย.48) ซิติก กรุ๊ป (Chaina International Trust & Investment Corp.) ซึ่งเป็นบริษัทที่รัฐบาลจีนถือหุ้นใหญ่ เปิดเผยว่า ขณะนี้ ซิติก กรุ๊ป ได้มีการเจรจาเข้าร่วมทุนเพื่อเข้าถือหุ้นใน TPI เป็นสัดส่วน 75% หรือมีมูลค่าการตลาดประมาณ 2.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ

บริษัท ซิติก รีสอร์ส โฮลดิ้ง จำกัด (CTIC Resources Holding Ltd.) ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองแร่ ในซิติก กรุ๊ป ได้ลงนามในข้อตกลงเมื่อวันที่ 30 พ.ค. ที่ผ่านมากับผู้ถือหุ้นทีพีไอ ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายปิโตรเคมีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายได้มีการเจรจาเพื่อบรรลุข้อตกลงร่วม โดยผู้ร่วมทุนจีนได้แถลงข่าวและเปิดเผยสู่สาธารณชนทางหนังสือพิมพ์ฮ่องกงในวานนี้

การเสนอเข้าร่วมทุนของ ซิติก รีซอร์ส อาจเป็นการขวางลำในการบรรลุข้อตกลงของ บริษัท ปตท. ในการเข้าซื้อหุ้นของทีพีไอเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. โดยปตท. เป็นบริษัทผู้ผลิตพลังงานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และตกลงที่จะเข้าถือหุ้นในทีพีไอเป็นสัดส่วน 31.5% ขณะที่กองทุน กบข. กองทุนวายุภักษ์และธนาคารออมสิน มีแผนที่จะซื้อหุ้นอีกรายละ 10% ภายใต้ข้อตกลงในแผนปรับโครงสร้างหนี้ของกระทรวงการคลัง

สำหรับข้อตกลงดังกล่าวได้มีการร่วมลงนามโดยพันธมิตรร่วมทุนไทย เปิดทางให้ผู้ร่วมทุนได้รับทั้งหุ้นเก่าและหุ้นที่ออกใหม่ประมาณ 90% ของหุ้นทั้งหมด อย่างไรก็ตามกลุ่มร่วมทุนจีนได้กล่าวว่า การขายหุ้นดังกล่าวจะไม่มีการดำเนินการต่อไป หาก ซิติก รีซอร์สประสบความสำเร็จในการเข้าร่วมลงทุนในทีพีไอ และแผนการร่วมทุนในทีพีไอของซิติก รีซอร์สต้องได้รับการอนุมัติและเห็นชอบจากศาลล้มละลายกลางของประเทศไทย

"ส่วนข้อตกลงที่ซิติก รีซอร์สเสนอจะทำให้ทีพีไอไม่จำเป็นต้องออกหุ้นเพิ่มทุนในราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาดเป็นอย่างมากในขณะนี้" ซิติก รีซอร์ส กล่าว

ทั้งนี้ ในสัปดาห์ที่ผ่านมานายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ สามารถระดมเงินลงทุนประมาณ 2.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ จากกลุ่มซิติกและบริษัทลงทุนข้ามชาติ อื่นอีก 2 บริษัท เพื่อนำมาชำระหนี้ทีพีไอทั้งหมด

"ปี 2547 ทีพีไอมีกำไรสุทธิทั้งสิ้นประมาณ 12.3 พันล้านบาท หรือ 302 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นเป็น 5 เท่าจากปีที่ผ่านมา" ซิติก รีซอร์ส กล่าว

"บริษัทวางแผนที่จะลงทุนในแหล่งทรัพยากรธรรมชาติ อาทิ ปิโตรเลียมที่ประเทศจีน เป็นผู้นำเข้าถือว่าบริษัทมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจเป็นอย่างดี อย่างไรก็ดี การนำเข้าน้ำมันดิบของประเทศจีนเมื่อปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นเป็น 120 ล้านเมตริกตัน หรือคิดเป็นอัตราการเพิ่มประมาณ 35%" กรมศุลกากรของจีนกล่าวเมื่อ 12 ม.ค.

"ทั้งนี้ แผนการเข้าร่วมทุนในทีพีไอของ ซิติก รีสอร์ต ต้องได้รับการอนุมัติและเห็นชอบจากศาลล้มละลายกลางของประเทศไทย" ซิติก รีสอร์ส กล่าว

อย่างไรก็ตาม หุ้นสามัญของ ซิติก รีสอร์ส ได้พักการซื้อขายเมื่อวันที่ 26 พ.ค. 48 ที่ผ่านมาและเริ่มทำการซื้อขายได้ในวันที่ 2 มิ.ย.