SCC ทุ่มอีก 1,040 ล้านบาท ร่วมลงทุนโครงการลงทุนผลิตเม็ดพลาสติกโพลิเอทิลินในอิหร่าน ด้วยการถือหุ้นสัดส่วน 38% โดยโครงการนี้บริหารความเสี่ยงด้วยการทำประกันกับสถาบันการเงินเครือธนาคารโลก ขณะที่ลดการลงทุนในสยามมิชลินกรุ๊ป เหลือ 10% ฟันกำไรถึง 3,300 ล้านบาท ขณะที่ NPC เข้าร่วม 10% เผยร่วมลงทุนครั้งนี้เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น

นายชุมพล ณ ลำเลียง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (SCC) แจ้งว่า SCC ได้เข้าร่วมลงทุนในโครงการผลิตเม็ดพลาสติกโพลิเอทิลิน (HDPE) ซึ่งมีกำลังการผลิต 300,000 ตันต่อปี ในประเทศอิหร่าน ทั้งนี้โครงการมีมูลค่าการลงทุนรวมประมาณ 8,820 ล้านบาท (225 ล้านเหรียญสหรัฐ) และคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการผลิตได้ภายในครึ่งปีแรกของปี 2551

โดยการลงทุนครั้งนี้ SCC จะมีสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 38 ในขณะที่บริษัทปิโตรเคมีแห่งชาติของประเทศอิหร่าน Itochu Corporation และบริษัท ปิโตรเคมีแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) (NPC) จะมีสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 40 ร้อยละ 12 และร้อยละ 10 ตามลำดับ โดยในส่วนของ SCC มีเงินลงทุนประมาณ 1,040 ล้านบาท (26 ล้านเหรียญสหรัฐ)

นอกจากนี้โครงการได้มีการบริหารความเสี่ยง โดยได้มีการทำประกันกับ Nippon Export and Investment Insurance (NEXI) และ Multilateral Investment Guarantee Agency (MIGA) ซึ่งเป็นหน่วยงานของเครือธนาคารโลก

พร้อมกันนี้ SCC ยังแจ้งอีกว่า บริษัทฯ ได้ลงนามความตกลงกับ Michelin Group (ประเทศฝรั่งเศส) เพื่อลดสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท สยาม มิชลินกรุ๊ป จำกัด จากปัจจุบันบริษัทฯ ถือหุ้นอยู่ร้อยละ 40 เป็นร้อยละ 10 ในไตรมาสที่ 4 ปี 2548 และการปรับโครงสร้างการถือหุ้นครั้งนี้จะทำให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิประมาณ 3,300 ล้านบาท ในระหว่างปี 2548-2551

ทั้งนี้ บริษัทสยามมิชลินกรุ๊ป เป็นบริษัทผู้ผลิตยางรถยนต์และรถบรรทุกรายใหญ่รายหนึ่งในประเทศ และเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัทฯ กับ Michelin Group (ประเทศฝรั่งเศส) โดยในปี 2547 มียอดขายรวม 16,300 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 17,000 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้น 6,000 ล้านบาท

เมื่อเดือนที่ผ่านมา บอร์ด SCC ได้มีมติอนุมัติโครงการลงทุนผลิตปูนซีเมนต์ในประเทศกัมพูชา โดยเครือซิเมนต์ไทยจะจัดตั้งบริษัทร่วมทุน กับ Khaou ChulyGroup (KCG) โดยบริษัทดังกล่าวเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ของประเทศกัมพูชาโดยมีสัดส่วนการถือหุ้นระหว่างเครือฯ และ KCG ร้อยละ 90 และร้อยละ10 ตามลำดับ มูลค่าการลงทุนประมาณ 3,200 ล้านบาท และมีกำลังผลิตปีละ 0.85 ล้านตันต่อปี ทั้งนี้คาดว่าการก่อสร้างโรงงานจะแล้วเสร็จภายในปี 2550 และสามารถเริ่มการผลิตได้ในเดือนมกราคม 2551

สำหรับการขยายการลงทุนในประเทศดังกล่าว เนื่องจาก SCC มองเห็นความต้องการในประเทศกัมพูชาที่มีสูงมาก เห็นได้จากการนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งแต่ละปีกัมพูชาจะนำเข้าปูนซิเมนต์ 1.3 ล้านตัน ประกอบกับที่ในกัมพูชายังไม่มีบริษัทที่สามารถผลิตปูนซีเมนต์ได้ การขยายฐานผลิตไปใน เวียดนามเพื่อผลิตปูนซิเมนต์ในการก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคและเพื่อการพาณิชย์ในประเทศกัมพูชาด้วย

นายพยนต์ คุ้มรำไพ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส (ปฏิบัติการ) รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปิโตรเคมีแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) (NPC) เปิดเผยว่า ในโครงการดังกล่าว NPC เข้าถือหุ้นร้อยละ 10 คิดเป็นเงินลงทุนของบริษัทฯ ในส่วนทุน 280 ล้านบาท (7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) ซึ่งผลตอบแทนการลงทุนที่คาดว่าจะได้รับ (IRR) เท่ากับร้อยละ 15