Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน31 พฤษภาคม 2548
คิวเฮ้าส์เปิดเกมรุกบ้านระดับล่างส่งบ.ลูกผุด "คาซ่าวิลล์" เจาะกลุ่ม4ล.             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด

   
search resources

ควอลิตี้เฮาส์, บมจ.
Real Estate
คิว.เฮ้าส์ ออฟฟิศ แอนด์ คอมเมอร์เชียล แมเนจเม้นท์, บจก.




บิ๊กคิวเฮ้าส์เดินหน้าคุมตลาดที่อยู่อาศัยทุกเซกเมนต์ ดันบริษัทลูกคิว.เฮ้าส์ ออฟฟิศฯ ลุยทำบ้านระดับล่างต่ำ 4 ล้านบาท ภายใต้แบรนด์ใหม่ คาซ่าวิลล์ ประเดิม 2 โครงการทำเลวัชรพลและเส้นรัตนาธิเบศร์ มูลค่าเกือบ 5,000 ล้านบาท วิเคราะห์กำลังซื้อชี้กลุ่มอายุ 20-40 ปีจะเป็นฐานที่ใหญ่ และต้องการที่อยู่อาศัยอย่างมาก

ในช่วงที่ผ่านมา ด้วยกลยุทธ์ทางด้านนโยบายของบริษัทควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) บริษัทในเครือของกลุ่มแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ฯ ที่มุ่งทำตลาดบ้านระดับพรีเมียมด้วยการเจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงบนจน ประสบความสำเร็จทั้งในเรื่องของยอดขาย และตราสินค้า (แบรนด์) ของบริษัทที่ติดตลาด จนทำแบรนด์ของบริษัทมีพรีเมียมต่อการขยายตลาดที่ได้เปรียบกว่าคู่แข่ง แต่กระนั้นด้วยปัจจัยแวดล้อมทางสภาพเศรษฐกิจและปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น ได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจอสังหาฯ ต้องมีการปรับตัว เพื่อหาช่องทางการตลาดในการเข้าถึงแหล่งกำลังซื้อ เพื่อต่อยอดในด้านของการสร้างยอดขายที่เติบโตขึ้น

"เราไม่ได้คุย แต่ลูกค้าที่ซื้อโครงการของบริษัท ทุกๆ ธนาคารพาณิชย์อยากได้ลูกค้าของเรา เหตุผลก็คือ ลูกค้ามีปัญหาเรื่องหนี้น้อยมากๆ ลูกค้าซื้อโครงการด้วยแบรนด์ของบริษัท ทำให้ตรงนี้ช่วยสกรีนลูกค้าไปอีกรอบหนึ่ง อีกทั้งค่าของบ้านไม่ได้ลดลง เวลาขายก็ขายได้ราคาที่ดี แม้แต่โบรกเกอร์ที่ขายสินค้าให้บริษัทยังสามารถขายได้ราคาที่ดี แต่ต้องย้ำว่านโยบายของคิวเฮ้าส์ สินค้าเน้นหนักระดับสูงกับสูงมาก เราเป็นหนึ่งในไม่กี่รายที่ทำตลาดบ้านหรู มีส่วนแบ่งตลาดที่เยอะ" นายรัตน์ พานิชพันธ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ "ผู้จัดการรายวัน"

ล่าสุดบริษัทได้ปรับกลยุทธ์ในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าระดับล่างมากยิ่งขึ้น โดยนายรัตน์อธิบายว่า การพัฒนาโครงการบ้านระดับราคาต่ำกว่า 4 ล้านบาท จะไม่ใช่การพัฒนาโดยบริษัทควอลิตี้เฮ้าส์ฯ แต่จะเป็นบริษัท คิว.เฮ้าส์ ออฟฟิศ แอนด์ คอมเมอร์เชียล แมเนจเม้นท์ จำกัด ซึ่งถือหุ้นโดยบริษัทในสัดส่วน 100% ดำเนินการภายใต้แบรนด์ใหม่ที่ชื่อว่า คาซ่าวิลล์ โดยในช่วงแรกจะพัฒนา 2 โครงการ รวมมูลค่าประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาท จำนวน 600 ยูนิต แบ่งเป็นโครงการที่ทำเลวัชรพล ขนาดโครงการ 100 ไร่ เป็นรูปแบบบ้านเดี่ยวที่มีหลากหลายให้ลูกค้าเลือก แยกการพัฒนาเป็น 2 เฟส รวมจำนวน 400 ยูนิต และทำเลรัตนาธิเบศร์ที่สามารถเชื่อมกับถนนราชพฤกษ์ บนเนื้อที่ 50 ไร่ จำนวน 200 ยูนิต ซึ่งอยู่ระหว่างการออกแบบบ้าน โดยทั้ง 2 โครงการ คาดจะเริ่มพัฒนาปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า

"เรื่องของฐานข้อมูลคิดว่าไม่น่าจะเป็นปัญหากับเรา เพราะข้อมูลที่อยู่ในมือค่อนข้างละเอียดมีทุกกลุ่มลูกค้า เช่น โครงการลัดดารมย์ในทำเลวัชรพล ที่ทำตลาดระดับราคา 5-8 ล้านบาท ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าหากใช้แบรนด์ของคิวเฮ้าส์ทำตลาดล่างลูกค้าจะเกิดความสับสน แต่บริษัทลูกค้าจะมีความคล่องตัวกว่าต้นทุนไม่สูง เรื่องของทุนของบริษัทลูกคิดว่าต้องเพิ่มทุนแต่คงไม่มากเท่าไหร่" นายรัตน์กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันการทำโครงการของคิวเฮ้าส์จะมีการแบ่งแยกแบรนด์ในการทำตลาดอย่างชัดเจน คือ แบรนด์พฤกษ์ภิรมย์เจาะกลุ่มระดับบน ระดับ ราคา 15-100 ล้านบาท, แบรนด์ ลัดดารมย์เจาะกลุ่มระดับกลาง ระดับราคา 6-12 ล้านบาท และ แบรนด์วรารมย์ เจาะกลุ่มระดับล่างราคา 5-10 ล้านบาท โดยบ้านที่ต่ำกว่า 20-10 ล้านบาท บริษัทจะมียอดขายในสัดส่วนที่มาก ขณะที่บ้านระดับต่ำกว่า 10 ล้านบาท สินค้าที่พัฒนาเหลือไม่มาก

ทั้งนี้จากการตรวจสอบของผู้สื่อข่าวพบว่า ในทำเลย่านวัชรพลมีโครงการของผู้ประกอบการหลายค่ายไปลงทุนที่เจาะกลุ่มระดับล่าง เช่น โครงการบ้านแก้วกานต์วัชรพล บ้านเดี่ยว ราคา 3-5 ล้านบาท ของบริษัท เอส.พี.พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด, โครงการบายเพลส บ้านเดี่ยว ราคา 3.5 ล้านบาท ของบริษัท นัมเบอร์วันเฮ้าส์ซิ่ง จำกัด, โครงการของบริษัทมั่นคงเคหะการ, โครงการของบริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ฯ และโครงการโนเบิล ลานา ของโนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เป็นต้น ขณะที่ทำเลย่านรัตนาธิเบศร์ เช่น โครงการภัสสร 7 ราคา 4-7 ล้าน บาท ของบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เป็นต้น

การตลาดเชิงรุกหนุนปิดโครงการไว

นายรัตน์กล่าวว่าภายหลังที่บริษัทได้ใช้กลยุทธ์ทางการตลาดที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ตรงกลุ่ม ส่งผลให้ยอดขายโครงการต่างๆ ของบริษัทมีความคล่องตัวและสร้างยอดขายที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยในปีที่ผ่านมาบริษัทได้เร่งยอดการขายเต็มที่ ทำให้คาดว่าในปีนี้จะปิดการขายโครงการได้หลายแห่ง อาทิ โครงการพฤกษ์ภิรมย์ รีเจ้นท์ พระราม 2 ปิดไตรมาส 2, โครงการพฤกษ์ภิรมย์ รีเจ้นท์ เกษตร- นวมินทร์, โครงการลัดดารมย์ ปิ่นเกล้า, โครงการวรารมย์ ประชาอุทิศ- ธนบุรี ปิดไตรมาส 3 และโครงการ วรารมย์ เพชรเกษม 81 ปิดไตรมาส 4

"เราต้องหาซื้อที่ดินเพื่อเตรียมความพร้อมกับโครงการใหม่ที่จะเปิดตัวในช่วงระหว่างปี 2548-2550 โดยตามแผนได้จัดสรรงบลงทุนในด้านการจัดหาที่ดินเพิ่มเป็น 3,000 ล้านบาท คิดเป็นจำนวน 700 ไร่ ซึ่งในปีนี้จะเปิดบ้านจัดสรร 2 แห่ง คือ โครงการลัดดารมย์ วัชรพล โครงการลัดดารมย์ Elegance รามคำแหงขณะที่ในปี 2549 จะเปิดอีก 6 โครงการและปี 2550 คาดว่าจะมากกว่านี้ ซึ่งจำนวนโครงการอยู่ระหว่างประเมินแผนการลงทุนอีกครั้ง" นายรัตน์กล่าว

นายรัตน์กล่าววิเคราะห์ตลาดที่อยู่อาศัยว่า ความต้องการยังมีอยู่ เพียงแต่ใครจะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ตรงกลุ่มมากที่สุดจะเป็นผู้ได้เปรียบ กว่าคู่แข่ง โดยเฉพาะคนไทยที่มีอายุระหว่าง 20-40 ปี จะเป็นตลาดที่ใหญ่และกว้างขึ้นและมีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัย ส่วนคนที่อายุเกิน 40 ปี จะมีปริมาณที่ลดลงต่อเนื่องซึ่งเป็นไปตามวัฏจักร

"คนกลุ่มนี้เมื่อมีรายได้จะเริ่มหันมามองทรัพย์สินที่สร้างความมั่นคงในอนาคต บ้านจึงเป็นตัวเลือกแรก และบ้านเป็นอะไรที่ไม่เน่า บ้านค่าเสื่อมไม่เร็วเหมือนรถยนต์ บ้านก็คือบ้าน บ้านซื้อไปราคาต่อหนี้น้อย เพราะทำเลจะมีส่วนผลักดันให้ราคาดีขึ้น แต่ยิ่งถ้าชุมชนภายในหรือรูปลักษณ์ของโครงการดีราคาก็ดีตามไปด้วย เหมือนที่คิวเฮ้าส์เนรมิตโครงการให้มีความโดดเด่นทั้งหน้าโครงการที่มีน้ำตก มีความร่มรื่น โดยเฉพาะโครงการที่พฤกษ์ภิรมย์ สาทร-ธนบุรี ตัดใหม่ จะมีลูกเล่นใหม่ มีตุ๊กตาที่สามารถบอกเวลาให้กับลูกค้าทั้งภายในโครงการและผู้ที่สัญจรผ่านหน้าโครงการ การรักษาความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัย เป็นต้น" นายรัตน์กล่าวทิ้งท้าย   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us