เหล่าผู้สร้างงานสถาปัตยกรรมที่มีรากมาจากความเป็นช่างของคนไทย กำลังเข้าสู่ยุคแห่งความซับซ้อนในรูปแบบ ด้วยการก้าวหน้าอย่างรวดเร็วของระบบเทคโนโลยีที่ไร้พรมแดน
วันนี้ผู้ก่องานสถาปัตยกรรมจะเดินไปในเส้นทางใด จากรากเหง้าเดิม ความเป็นตัวตนเดิม หรือกระโดดลงไปในวังวนแห่งการแข่งขันที่รุนแรงและแปรเปลี่ยนเร็วขึ้นทุกขณะ
คำไทยพื้นๆ "อยู่ เย็น เป็น สุข" ที่เป็น Theme ของงานสถาปนิก เมื่อปี 46 กลายเป็นคอนเซ็ปต์ของ "สถาปัตย์...ถัดไป" (Future Thai Architects) ในปี 2548 นี้ ซึ่งสมาคมสถาปนิกสยามหวังจะให้เป็นงานใหญ่ประจำปีที่รวบรวม นวัตกรรมใหม่ๆ ในการออกแบบก่อสร้าง พร้อมกับมองหาคำตอบให้กับสถาปัตย์ ยุคถัดไปจากนี้
เป็นงานที่จัดต่อเนื่องติดต่อเป็นปีที่ 20 ในจำนวนพื้นที่ที่เพิ่มขึ้นทุกปีจาก 50,000 ตารางเมตร จำนวน 500 บูธเมื่อปีที่แล้ว เพิ่มขึ้นเป็น 600 บูธ ในพื้นที่ 60,000 ตารางเมตร หรือประมาณ 12 สนามฟุตบอล
Cotto Ties จากค่ายไทยเซรามิก ยังคงโดดเด่นเช่นเคย ปีที่ผ่านมาเปิดตัวสินค้าใหม่ในคอนเซ็ปต์ return to retro และตกแต่งบูธในสไตล์ chic และ Chilled จนเป็นที่พูดถึงไปทั้งงาน ปีนี้ "สถาปัตย์ ถัดไป" ของค่ายนี้ยังคงสะท้อนไปยังกระเบื้อง "พิมาย" คอลเลกชั่นเดิม ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เลียนแบบธรรมชาติผ่านกระบวนการผลิตของระบบเทคโนโลยีชั้นสูง และขายดิบขายดีในยุโรปเป็นพระเอกสำคัญ
คอตโต้สุขภัณฑ์นำงานต้นแบบที่เป็นเทรนด์ของปีต่อไป และยังไม่ได้ผลิตเพื่อขายออกมาโชว์ โดยดึงธรรมชาติรอบตัวมาเป็นคอนเซ็ปต์หลักในการดีไซน์สุขภัณฑ์ใน "Kid Series" เช่น ก๊อกน้ำที่เคยเป็นโลหะเปลี่ยนเป็นเซรามิก รูปสุนัข แมว ปลาโลมา และดอกไม้ แม้แต่ม้าก้านกล้วย การละเล่นของเด็กในอดีต ก็ถูกดึงมาใช้ในซีรีส์นี้ ส่วนตัวสุขภัณฑ์มีลักษณะเป็นวงรี โดยได้วิธีคิดมาจากไข่ไก่
ในห้องของผู้ชาย ตัวสุขภัณฑ์มีไซส์ที่ใหญ่ขึ้น และใช้เชฟผู้หญิงมาเป็นแนวคิดในการออกแบบสุขภัณฑ์ในห้องผู้หญิง
"ทุกอารมณ์ความรู้สึกเริ่มต้นจากจุดเล็กๆ เพียงจุดเดียว และจุดเล็กๆ ของทุกสรรพสิ่งคือต้นกำเนิดอันยิ่งใหญ่ของแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ปฏิมาภัณฑ์" เป็นวิธีคิดของ "MOGEN" (โมเก้น) สุขภัณฑ์แบรนด์ใหม่ในเมืองไทย ที่มีการดีไซน์ในรูปแบบที่สะดุดตา
โมเก้นเป็นการแตกไลน์ธุรกิจมาจากเครื่องครัวสตาร์มาร์ค โดยมีวิธีคิดที่ว่าปัจจุบันสุขภัณฑ์ที่ให้ความสำคัญในการดีไซน์ของบ้านเรามีเพียงไม่กี่กลุ่มในขณะที่สุขภัณฑ์นำเข้าจะตั้งราคาที่สูงมาก
สไตล์ของโมเก้นจึงผสมผสานงานดีไซน์ระหว่างความเป็นโมเดิร์น และคอนเท็ม โพรารี โดยโฟกัสกลุ่มลูกค้าไว้ในระดับบี-เอ เพื่อให้ลูกค้าระดับกลางที่รักงานดีไซน์ได้มีโอกาสเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น ในราคาขายเซตละไม่เกิน 80,000 บาท ซึ่งประกอบด้วยโถสุขภัณฑ์ อ่างล้างหน้า อ่างอาบน้ำ และเฟอร์นิเจอร์ห้องน้ำ ราคาชิ้นละไม่กี่พันบาทไปจนถึงหมื่นกว่าบาท
ปลายปีที่แล้วโมเก้นออกสินค้าตัวใหม่ภายใต้รูปทรงเรขาคณิต สามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม วงกลม 6 ซีรีส์คือ zeal, serene, glory, lasting, spirit และ delicate
สินค้าตัวใหม่ที่จะวางจำหน่ายปลายปีนี้ยังมีแนวคิดแบบเดิม แต่เพิ่มแบบให้หลากหลายมากขึ้น แต่ละเซตออกแบบให้กลมกลืนกันไปทั้งหมด ไม่ใช่สไตล์ Mix & Match ที่กำลังนิยมกัน โดยเน้นโทนสีขาวสะอาดตาเช่นเดิม
ปีนี้ "คัมพานา" ไม่มีพริตตี้สาวสวยในชุดยาวเปลือยไหล่ขาวผ่องโชว์การเพนต์ ดอกชบาสีสดใสคอยเดินไปมาเสิร์ฟน้ำสมุนไพรเย็นๆ ชวนให้แวะเวียนเข้าไป แต่คอนเซ็ปต์ "The first and the biggest" ก็สามารถดึงดูดผู้คนได้เช่นกัน โดยตัวสินค้ายังเลียนแบบสีธรรมชาติที่สามารถนำไปตกแต่งกับงานไม้ในคอนเซ็ปต์เดิมของปีที่แล้ว แต่เพิ่มขนาดความใหญ่ขึ้น โดยนำเข้าเครื่องจักรและเทคโนโลยีการผลิตจากประเทศอิตาลีและสเปน ผลิตกระเบื้องขนาด 60 X 60 เซนติเมตร และขนาด 40 X 40 เซนติเมตร
บูธของมหพันธ์ เจ้าของไม้ฝาเฌอร่า สร้างเป็นบ้านไทยหลังใหญ่เช่นเคย จุดเด่นของตัวสินค้าไม่ใช่ไม้เชิงชายแกะเป็นลายไทยอ่อนช้อยสะดุดตาเช่นเดิม แต่เน้นพื้นไม้ที่ปูลานบ้าน และฝาบ้านไม้ลายเรียบซึ่งเป็นสินค้าตัวใหม่
ส่วนบูธของกรีนกรุ๊ป ผู้นำวัสดุการก่อสร้าง โชว์แผ่นมุงหลังคากรีนรูฟ ที่ทำจากวัสดุรีไซเคิล ขี้เลื่อย กิ่งไม้สับย่อยผสมด้วยขวดพลาสติกโพลิเมอร์ ดูแล้วสวยงามเหมือนจริง โดยแผ่นมุงหลังคานี้สามารถดัดแปลงเป็นผนังกั้นห้องทั้งภายในและภายนอกอาคารได้อีกด้วย
เป็นครั้งแรกที่ "พาซายา" แบรนด์ของผ้าสวยจากบริษัทสิ่งทอซาติน ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในแวดวงของสถาปนิกมาร่วมออกบูธ ด้วยสีสันสดใส และเทคนิคการทำผ้าที่ไม่เหมือนใครเช่นเคยในคอลเลกชั่น "Candy" ส่วนคอลเลกชั่น ใหม่ที่จะออกตามมาติดๆ ในเดือนมิถุนายนนี้ จะอยู่ภายใต้คอนเซ็ปต์ "Read to The Clouds" เรื่องราวของชายหนุ่มที่หลงใหลการท่องเที่ยวไปในโลกกว้าง สะท้อนออกมาเป็นโปรดักส์ที่เป็นชิ้นผ้าฝ้ายสีสันอ่อนแสงลงในโทนสีฟ้า น้ำเงิน เขียว น้ำตาล
ปีนี้หลายบูธขาดสาวสวยคอยเดินเสิร์ฟน้ำเย็นรับรองลูกค้าที่เข้ามาในบูธ ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า สถาปัตย์...ถัดไป จะส่งผลไปยังเรื่องการต้อนรับตามแบบวิถีไทยดั้งเดิมด้วยหรือเปล่า
|