|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ มิถุนายน 2548
|
|
การแข่งขันในตลาดสินเชื่อรายย่อยปัจจุบันเริ่มเปลี่ยนจากการใช้อัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นสิ่งล่อใจไปสู่การออกสินเชื่อให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากขึ้น ธนาคารกรุงศรีอยุธยาก็เล็งเห็นถึงเทรนด์นี้และเป็นที่มาของการจับมือกับพันธมิตรเพื่อเจาะตลาดให้ตรงเป้ายิ่งขึ้น
นับจากเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป ผู้ที่สนใจจะเปิดร้านสะดวกซื้อ 7-11 แต่ยังขาดเงินทุนจะสามารถทำตามความฝันได้ง่ายและเร็วขึ้นด้วยความช่วยเหลือจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา ที่ได้ออกสินเชื่อใหม่ Krungsri 7-11 Franchise สำหรับผู้ที่สนใจจะเปิดร้านค้า 7-11 โดยเฉพาะ
"มีลูกค้าเราที่เป็นหมอ เขาเปิดร้าน 7-11 อยู่ถึง 6 ร้าน คนกลุ่มนี้เป็นคนที่มีความสามารถทางการบริหารจัดการ ถ้าเราสนับสนุนสินเชื่อให้ เขาก็จะสามารถขยายกิจการได้ง่ายขึ้น" ภุชงค์ ตัณฑศรี ผู้จัดการฝ่ายสินเชื่อที่อยู่อาศัยและผู้จัดการฝ่ายสินเชื่อบุคคล ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ยกตัวอย่าง
สินเชื่อดังกล่าวจะพิจารณาให้กับผู้สนใจที่ได้รับการอนุมัติให้เปิดร้านค้าจาก บริษัท ซี.พี.เซเว่นอีเลฟเว่น มาแล้วเท่านั้น เท่ากับว่าช่วยลดความเสี่ยงของสินเชื่อไปแล้วระดับหนึ่ง เนื่องจากลูกค้าได้รับการคัดเลือกในเบื้องต้นจากทางเซเว่นฯ มาแล้ว โดยมีวงเงินให้กู้รายละ 1-1.9 ล้านบาท ซึ่งธนาคารกรุงศรีอยุธยาคาดว่าในปีนี้จะปล่อยสินเชื่อดังกล่าวได้กว่า 100 ล้านบาท เนื่องจากแผนการขยายสาขาของเซเว่นฯในช่วงที่เหลือของปียังมีอีกมาก
การร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจออกสินเชื่อที่เจาะกลุ่มเป้าหมายเฉพาะจะเป็นกลยุทธ์สำคัญของธนาคารกรุงศรีอยุธยาในปีนี้ โดยไม่จำกัดอยู่แค่เซเว่นฯ เท่านั้น แต่ยังได้กระจายไปในกลุ่มธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งได้มีการแถลงข่าวความร่วมมือจัดแคมเปญการตลาดเพื่อส่งเสริมการขายระหว่างธนาคารกรุงศรีอยุธยา และลลิล พร็อพเพอร์ตี้ เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ก่อนจะตามมาด้วยงานใหญ่ในวันที่ 9 พฤษภาคม ที่เป็นการผนึกความร่วมมือกับ 40 พันธมิตร ในการเข้าร่วมงาน Money Expo 2005 เป็นการยืนยันถึงกลยุทธ์ที่จะใช้เจาะตลาดสินเชื่อลูกค้ารายย่อยได้เป็นอย่างดี
"ธนาคารมีจุดยืนที่จะร่วมกับพันธมิตร เพราะการตลาดทุกวันนี้ต้องมีพันธมิตรเป็นหลัก แต่จะไม่ใช่การร่วมมือกันแบบเดิมๆ เราจะต้องเข้าไปร่วมกันคิดกับเขาด้วยเพื่อให้แคมเปญที่ออกมาตอบโจทย์ผู้บริโภคได้" ชาลอต โทณวณิก ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าว
กลยุทธ์ดังกล่าวถูกกำหนดขึ้นโดยอาศัยประสบการณ์ในตลาดสินเชื่อลูกค้ารายย่อย ซึ่งธนาคารได้ข้อสรุปว่าลูกค้าไม่ได้ต้องการอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำที่สุดเสมอไป แต่ให้เป็นอัตราดอกเบี้ยที่ยอมรับได้และมีแคมเปญที่ตรงกับความต้องการ รวมทั้งมีบริการที่รวดเร็ว ขณะเดียวกัน ปัจจัยทางเศรษฐกิจหลายตัวก็ยังส่งผลกระทบต่อแนวโน้มการปล่อยสินเชื่อในช่วงที่เหลือของปีนี้อีกด้วย อาทิ แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ราคาน้ำมัน การปรับราคาวัสดุก่อสร้างไปจนถึงภาวะภัยแล้ง ทั้งหมดนี้ทำให้ผู้บริหารธนาคารกรุงศรีอยุธยาเชื่อว่าการทุ่มโฆษณาหรือแข่งขันที่อัตราดอกเบี้ยต่ำไม่น่าจะได้ผลเท่ากับการจับมือพันธมิตรเจาะกลุ่มเป้าหมายโดยตรง
ความร่วมมือกับลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ด้วยการปล่อยสินเชื่อพร้อมเงื่อนไขพิเศษให้กับลูกค้าในทุกโครงการของลลิลฯ ปีนี้เป็นความร่วมมือต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 3 แล้ว โดยในปีที่ผ่านมายอดสินเชื่อจากลูกค้าของลลิลฯ คิดเป็นสัดส่วนมากที่สุดในสินเชื่อเคหะของธนาคารถึงเกือบ 40% และในปีนี้ ธนาคารกรุงศรีอยุธยาคาดว่าจะมีลูกค้ามาขอสินเชื่อราว 400 ล้านบาท ขณะเดียวกันก็ยังร่วมมือกับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์อื่นอีก 7 ราย ได้แก่ อารียา พร็อพเพอร์ตี้ อีสเทอร์น สตาร์ เรียลเอสเตท Prime Nature Villa เบตเตอร์โฮม Pacific Group พาราไดซ์ กรุ๊ป และโบ๊ทเฮ้าส์หัวหิน
การมีพันธมิตรหลายรายในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าว ก็เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายยอดสินเชื่อเคหะในปีนี้ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยามุ่งเน้นเป็นพิเศษ โดยตั้งเป้าเอาไว้ที่ 18,000 ล้านบาท จากยอดสินเชื่อรายย่อยรวมที่คาดหวังทั้งหมด 20,000 ล้านบาท
"ตลาด housing loan เป็นตลาดที่ทำรายได้ให้กับธนาคารได้เยอะและเอ็นพีแอลก็น้อย จะเห็นว่าหลายธนาคารที่เดิมไม่เคยทำตลาดนี้ระยะหลังก็เริ่มมาทำมากขึ้น" ชาลอตให้เหตุผลถึงการโฟกัสมาที่สินเชื่อเคหะของธนาคารกรุงศรีอยุธยาในปีนี้
นอกจากสินเชื่อ Krungsri 7-11 Franchise และสินเชื่อเคหะแล้ว ธนาคารกรุงศรีอยุธยายังมี Krungsri Index Furniture Loan ซึ่งเป็นสินเชื่อเพื่อซื้อเฟอร์นิเจอร์และเครื่องตกแต่งบ้านจากเครืออินเด็กซ์ และสินเชื่อสำหรับแพทย์และเภสัชกร เพื่อนำไปใช้เปิดคลินิกหรือร้านขายยาโดยเฉพาะอีกด้วย และยังไม่แน่ว่าในช่วงที่เหลือของปีอาจจะมีสินเชื่อสำหรับสาขาอาชีพอื่นหรือสินเชื่อสำหรับกลุ่มตลาดเฉพาะอื่นใดออกมาอีก เพื่อกระตุ้นให้ยอดสินเชื่อบุคคลในปีนี้ถึงเป้าหมาย 2,000 ล้านบาทที่กำหนดไว้
|
|
|
|
|