|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ มิถุนายน 2548
|
|
"อยู่บนเรือเวลาว่างก็ฟังเพลง ส่วนใหญ่คนทะเลก็จะชอบฟังเพลงเพราะไม่มีที่ไหนให้ไป อย่างเพลงพรานทะเล ผมฟังแล้วขนลุกเลย เหมือนกับมันบรรยายชีวิตของเรา ครูเอื้อ (สุนทรสนาน) แต่งได้ตรงมาก" ธงชัยเล่าให้ฟังถึงชีวิตบนเรือยามออกหาปลา
โดยเฉพาะเนื้อในช่วงที่ร้องว่า "...มองน้ำตรงหน้าจรดฟ้าไกลๆ ว้าเหว่ดวงใจไม่เห็นผู้คน..." ที่ดูเหมือนจะโดนใจเขาเป็นพิเศษ ถึงกับต้องฮัมออกมาระหว่างการให้สัมภาษณ์
ไม่น่าแปลกใจที่เขาจะ in กับเนื้อร้องขนาดนี้ เพราะเมื่อออกทะเลแล้วกว่าจะกลับเข้าฝั่งแต่ละครั้งก็เป็นเวลาถึงหนึ่งเดือนเต็ม และถ้าเป็นการออกไปจับปลาในเขตต่างประเทศอย่างอินโดนีเซียด้วยแล้วกว่าจะได้กลับมาเยือนแผ่นดินแม่อีกครั้งก็กินเวลาถึง 3 ปีเลยทีเดียว
"เวลากลับมาบ้าน มาเจอลูก ลูกผมไม่กล้ากอด เขาจำผมไม่ได้" ลูกเรือคนหนึ่งที่อยู่ในช่วงพักรอการออกเรือครั้งต่อไปถ่ายทอดให้ฟัง
เท่าที่สอบถามดูลูกเรือส่วนใหญ่เป็นชายหนุ่มที่หนีแล้งมาจากดินแดนที่ราบสูง มีทั้งจากบุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ ฯลฯ ถึงแม้พวกเขาจะออกเรือไปอยู่ในทะเลที่ไกลออกไป แต่ก็ไม่ต้องเป็นห่วงผู้ที่อยู่เบื้องหลัง เพราะเงินเดือนที่ตกลงกันไว้บริษัทจะจ่ายให้กับครอบครัวตรงตามเวลา
"แต่ละเดือนครอบครัวของลูกเรือจะเหมารถกันมาเป็นคันๆ มาเบิกเงิน หรือถ้าใครจะให้โอนเข้าแบงก์ เราก็จัดการให้ บางทีเวลาโรงเรียนเปิดเทอมแล้วเงินขาดมือ เราก็ช่วยออกให้" ธงชัยกล่าว
เมื่อถึงเวลากลับคืนแผ่นดินไทย เหล่าลูกเรือยังมีส่วนแบ่งเปอร์เซ็นต์จากกำไรที่เกิดขึ้นอีก 40% ปัจจุบัน UFP มีกองเรือทั้งหมด 14 ลำ (และที่อยู่ในระหว่างการต่อเพิ่มอีก 2 ลำในชื่อ พรานทะเล 1 และ 2) แต่ละลำใช้ลูกเรือเฉลี่ย 30 คน เท่ากับว่าอย่างน้อยๆ ก็มีกว่า 400 ครอบครัวที่เฝ้ารอวันที่เหล่าพรานทะเลเหล่านี้จะกลับเข้าฝั่ง
|
|
|
|
|