Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน27 พฤษภาคม 2548
รพ.เกษมราษฎร์เปิดแฟรนไชส์รวม 7 ศูนย์แพทย์เฉพาะทาง             

 


   
www resources

โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ โฮมเพจ

   
search resources

Hospital
บางกอก เชน ฮอสปิทอล, บมจ.
โรงพยาบาลเกษมราษฎร์




โรงพยาบาลเกษมราษฎร์เปิดแฟรนไชส์ศูนย์การแพทย์เฉพาะทาง ภายใต้แบรนด์ "KH BETTER LIFE" ปีหน้า มุ่งขายให้พันธมิตร 70 แห่ง เพิ่มรายได้ 100 ล้าน จัดงบโปรโมต 8 ล้าน คาดรายได้ปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 2,600 ล้านบาท ไม่รวมกรณีรัฐจะปรับเพิ่มวงเงินโครงการ 30 บาท แย้มหลังไตรมาส 2 เตรียมหารือ บอร์ดพิจารณาจ่ายปันผลจากกำไรสะสมที่เพิ่มขึ้น

นายแพทย์เฉลิม หาญพาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ KH ผู้ให้บริการสถานพยาบาล โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนที่จะเปิดแฟรนไชส์ให้บริการทางการแพทย์เฉพาะทางในปี 2549 ภายใต้แบรนด์ "KH BETTER LIFE" ซึ่งประกอบด้วยการให้บริการ 7 ประเภท คือ 1. ศูนย์ทันตกรรม 2. สุขภาพผิวและความงาม 3. ศูนย์ศัลยกรรมเพื่อความงาม 4. ศูนย์การแพทย์แผนไทย 5. ศูนย์การแพทย์แผนจีน 6. ศูนย์ตรวจสุขภาพ และ 7. ศูนย์ให้บริการลูกค้าชาวต่างประเทศ

ทั้งนี้ ปัจจุบันได้เปิดให้บริการในสาขาโรงพยาบาล KH และในเดือน มิ.ย. จะมีการเปิดตัว จากนั้นอีก 6 เดือน จะมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรู้จัก ซึ่งจะใช้งบลงทุนรวม 8 ล้านบาท

การเปิดแฟรนไชส์ศูนย์การแพทย์เฉพาะทาง โดยเจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ชัดเจนเฉพาะเจาะจง เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า แม้เศรษฐกิจไม่ค่อยดี ค่าใช้จ่ายส่วนนี้ก็จะไม่ลด โดยจะขายให้แก่โรงพยาบาลที่เป็นพันธมิตรกว่า 70 แห่งทั่วประเทศ และจากการเปิด เองตามศูนย์การค้า อาคารต่างๆ

"แฟรนไชส์แต่ละสาขาจะประกอบด้วยศูนย์ 7 ศูนย์ แต่ก็ขึ้นอยู่กับทำเลและสาขาของคู่แข่ง แต่อย่างน้อยจะมีบริการสาขาละ 3-4 ประเภทต่อ 1 สาขา ซึ่งจะเน้นลูกค้าระดับกลางถึงระดับสูง ทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มรายได้ในปี 2548 ประมาณ 100 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นในปี 2549 แต่ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ต้องรอไตรมาส 3/48 จึงจะสามารถบอกได้"

บริษัทคาดรายได้ปี 2548 มากกว่า 2,600 ล้านบาท แบ่งเป็นผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอกเงินสดเพิ่มขึ้น 10% จากปี 2547 ที่มี 1.87 ล้านคนต่อปี ผู้ป่วยในจำนวน 2.19 แสนคน และจำนวนผู้ป่วย ประกันสังคมที่คาดว่าจะเพิ่มมากกว่า 4.50 แสนคน จากไตรมาส 1/48 ที่มี 4.31 แสน คน ผู้ป่วยโครงการประกันสุขภาพถ้วน หน้า 30 บาท ที่จะเพิ่มเป็น 3 แสนคน จากการเปิดสถานให้บริการอีก 2 แห่ง ที่จะเพิ่มลูกค้าได้ 2,000 คน จากไตรมาส 1/48 ที่มี 2.92 แสนคน รวมถึงค่าบริการต่อคนเพิ่มขึ้น และรายได้จากบริการศูนย์การแพทย์เฉพาะทาง ซึ่งจะสร้างรายได้ปีนี้ 100 ล้านบาท

ไม่รวมการที่รัฐบาลจะมีการเพิ่มวงเงินในการเหมาจ่ายหลักประกันถ้วนหน้า ที่คาดว่าจะเพิ่มเป็น 1,600 บาทต่อคน ในปี 2549 ที่จากเดิมที่มี 1,300 บาทต่อคน ซึ่งจะมีการเริ่มใช้ในเดือน ต.ค.2548

"สำหรับรายได้ไตรมาส 2/48 คาดว่าจะมีอัตราการเพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับไตรมาส 1 ที่เพิ่มขึ้น 21% ที่มีรายได้ 662 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 64 ล้านบาท แต่ตามปกติแล้วในไตรมาส 3 และไตรมาส4 จะมีรายได้สูงกว่าไตรมาส 1 และไตรมาส 2 ซึ่งรายได้ไตรมาส 1 ถือว่าออกมาดีกว่าที่คาด ดังนั้นเชื่อว่ารายได้ทั้งปีจะมีรายได้ 2,600 ล้านบาท ได้อย่างไม่น่ากังวล"

นอกจากนี้ ในไตรมาส 3 /2548 บริษัทจะมีการรุกการเป็นศูนย์กลางในการผ่าตัดหัวใจเด็กในภูมิภาค และคาดว่าปี 2549 จะเป็นโรงพยาบาลที่มีการผ่าตัดโรคหัวใจเพิ่มเป็น 1,000 คนต่อปี ซึ่งเป็นอันดับ 2 รองจากโรงพยาบาลศิริราช จากการที่บริษัทได้มีการเปิดศูนย์โรคหัวใจในกลางปี 2547 ที่มีการผ่าตัด 150 คน

ทั้งนี้ในไตรมาส 2/2548 บริษัทจะพิจารณาการบริหารทางการเงินของบริษัท โดยกำไรสะสม 78 ล้านบาท จะนำไปลงทุนหรือชำระคืนหนี้หรือจ่ายเงินปันผล ซึ่งบริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 40%

ปัจจุบันบริษัทมีหนี้สิน 1,050 ล้านบาท คิดเป็นหนี้สินต่อทุน (D/E) 0.6 เท่า แบ่งเป็นหนี้ของ KH ประมาณ 700 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะชำระหมดได้ภายใน 3 ปี และบริษัทย่อย 300 ล้านบาท จากเดิมที่มี 2,000 กว่าล้านบาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us