|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ไชโยโปรดักชั่นส์ ผนึกทุนจีน กลุ่ม "ริวชิ" ทุ่มทุน 100 ล้านบาท สร้างหนังทีวี อุลตร้าแมน หวังขยายตลาดลิขสิทธิ์ใช้จีนเป็นฐานขยายตลาดโลก เผยตลาดจีนมีการเติบโตกว่า 100%
นายพีระศิษฏ์ แสงเดือนฉาย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไชโย โปรดักชั่นส์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีแผนที่จะขยายตลาดลิขสิทธิ์อุลตร้าแมนไปยังต่างประเทศให้มากขึ้น โดยเฉพาะประเทศจีนซึ่งถือเป็นตลาดที่ใหญ่ทั้งในแง่มูลค่าและปริมาณ โดยสามารถที่จะใช้เป็นฐานในการผลิตและขยายสู่ประเทศอื่นได้อีกด้วย ซึ่งขณะนี้บริษัทฯ มีพันธมิตรเป็นบริษัทท้องถิ่นอยู่แล้วคือ บริษัท ริวชิ คัลเจอร์ ดีเวลลอปปิง จำกัด เป็น ผู้ถือลิขสิทธิ์ทำตลาดอุลตร้าแมนในจีนมาเกือบ 3 ปีแล้ว คือตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2545
ขณะนี้บริษัทได้ตัดสินใจร่วมลงทุนกับบริษัท ริวชิ โดยลงทุนประมาณ 100-200 ล้านบาท ลงทุนฝ่ายละครึ่ง นอกจากนั้นยังมีพันธมิตรฝ่ายไทยอีกรายที่เป็นตัวหลักคือ บริษัท เอเพค ทอยส์ จำกัด ที่เป็นผู้ผลิตของเล่นในไทย เพื่อสร้างหนังอุลตร้าแมนที่ฉายทางโทรทัศน์ มีความยาว 52 ตอน เป็นหนังที่ใช้สเปเชียลเอฟเฟกต์ โดยทำเลถ่ายทำมีทั้งในไทยคือที่สตูดิโอของบริษัทฯ และที่ประเทศจีน เพื่อออกฉายทั่วโลก ซึ่งในเรื่องนี้จะมีอุลตร้าแมนหลายเวอร์ชันร่วมเล่น เช่น มิลเลนเนียม อีลิท ดาร์ค และเวอร์ชันใหม่ที่ยังไม่เปิดเผย
สาเหตุของการร่วมลงทุนด้วยกันนั้นเนื่องจากว่า ริวชิถือเป็นผู้ที่มีความชำนาญทางด้านการตลาดและการผลิตของเล่น เนื่องจากเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์การทำตลาดเมอร์ชันไดส์อุลตร้าแมนที่เป็นของบริษัทฯ ในประเทศจีนเพียงรายเดียว เพื่อขายต่อให้กับผู้ผลิตสินค้าและบริการในจีนที่สนใจใช้อุลตร้าแมนไปทำตลาดกับสินค้าของตัวเอง และเป็นบริษัทที่ผลิตหนังการ์ตูนด้วย ซึ่งขณะนี้ก็ยังได้นำลิขสิทธิ์หนังอุลตร้าแมนเรื่องเก่า เช่น คาแร็กเตอร์ มิลเลนเนียม และอีลิท ฉายทางช่องการศึกษาในทีวีที่จีนด้วย อีกทั้งยังเป็นบริษัทท้องถิ่นที่สามารถช่วยเหลือทางด้านการประสานงานกับทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของจีนที่เราต้องขออนุญาตในการถ่ายทำด้วย
"ตลาดที่ประเทศจีนนั้นใหญ่มาก และอุลตร้าแมนเองก็ได้รับความนิยมมากกว่าคาแร็กเตอร์ของทางตะวันตกด้วยซ้ำไป เด็กๆ ที่จีนเรียกอุลตร้าแมนว่า ชิว หยัน สินค้าและบริการต่างๆ ก็มักจะมาซื้อสิทธิ์อุลตร้าแมนไปใช้กับสินค้าของตัวเอง ซึ่งทำให้การขายสินค้ามีความง่ายและมีสีสันมากขึ้น คาดว่าเมื่อหนังเรื่องนี้ออกฉายจะยิ่งสร้างกระแสความต้องการของตลาดได้มากขึ้นอีก ซึ่งเวลานี้เตรียมรายละเอียดกันแล้ว คาดว่าหลังจากเซ็นสัญญากันในวันที่ 24 พฤษภาคม อีกประมาณ 8 เดือนหลังจากนี้ จะสร้างเสร็จและออกฉายได้" นายพีระศิษฏ์กล่าว
เขากล่าวด้วยว่า นอกจากการขยายตลาดต่างประเทศให้กว้างขึ้นแล้วนั้น การที่ใช้ประเทศจีนเป็นฐานในการทำตลาดครั้งนี้ เนื่องจากว่า ในอนาคตประเทศไทยต้องทำการค้ากับจีนมากขึ้นกว่าปัจจุบันแน่นอน ซึ่งจีนเองก็มีความได้เปรียบเรื่องของการผลิตสินค้าราคาถูก สินค้าเลียนแบบ ซึ่งการร่วมมือครั้งนี้ทำให้เราสามารถควบคุมสินค้าเถื่อนจากจีนได้ดีกว่าเดิมแม้จะไม่เต็ม 100% ก็ตาม
สำหรับรายได้จากการขายลิขสิทธิ์ในจีนนั้นมีการเติบโตขึ้นเฉลี่ย 100% มาตลอด ขณะที่รายได้จากการขายลิขสิทธิ์ในไทยนั้นมีประมาณ 100 กว่าล้านบาท แต่อัตราการเติบโตนั้นไม่มากเท่ากับจีน เพราะฐานตลาดของไทยยังเล็กกว่ามาก โดยสินค้าที่ซื้อลิขสิทธิ์อุลตร้าแมนไปทำเมอร์ชันไดส์มีมากกว่า 100 ราย เช่น นมมะลิ ปลาเส้นฟิชโช ซีเล็คทูน่า เคเอฟซี และบริษัทเอเพคทอยส์ เป็นต้น
|
|
|
|
|