|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
"สัมมากร" เล็งเปิดโครงการใหม่มูลค่า 1,000 ล้านบาท ทำเลโซนตะวันตกของกรุงเทพฯ บนเนื้อกว่า 70 ไร่ คาดไม่เกินปลายปี 48 เห็นรูปร่างโครงการ พร้อมทุ่มงบการตลาด 10 ล้านบาท ตอกย้ำแบรนด์สัมมากร คาดทั้งปียอดขายกว่า 600 ล้านบาท เติบโต 10%เทียบกับปีที่ผ่านมา เดินหน้าเพิ่มสัดส่วนค่าเช่าระดับ 20% ภายใน 3 ปี
นายกิตติพล ปราโมช ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าบริษัทมีแผนในการพัฒนาโครงการใหม่ โดยอยู่ในช่วงของการวางแผนอยู่ ซึ่งทำเลที่บริษัทฯ จะเข้าไปทำการพัฒนาคือ โซนตะวันตกของกรุงเทพฯ โดยเป็นการพัฒนาบนที่ดินสะสมของบริษัท (แลนด์แบงก์) คาดว่าจะสามารถเปิดตัวได้ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 48 สำหรับโครงการใหม่นี้จะใช้พื้นที่ในการพัฒนาโครงการประมาณ 70 ไร่ มูลค่ารวมโครงการประมาณ 1,000 กว่าล้านบาท แบ่งการพัฒนาเป็นเฟส 2-3 เฟส โดยเป็นสัดส่วนบ้านสั่งสร้าง 50% และอีก 50% เป็นบ้านพร้อมอยู่
ทั้งนี้ การที่บริษัทใช้ระบบการก่อสร้างในโครงการแบบผสมผสาน ทั้งบ้านสั่งสร้างและบ้านพร้อมอยู่ เพื่อเป็นการลดต้นทุนการก่อสร้าง ซึ่งหากสร้างบ้านพร้อมอยู่อย่างเดียว อาจจะทำให้ต้องมีการสต๊อกสินค้าไว้ในมือ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดต้นทุนหากถือไว้ในระยะยาว อีกทั้งรูปแบบดังกล่าวยังเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าของสัมมากร เนื่องจากพฤติกรรมของลูกค้าที่เข้ามาชมโครงการ มีความต้องการที่ต่างกัน โดยมีทั้งกลุ่มลูกค้าที่ต้องการมีส่วนร่วมในการออกแบบบ้าน และลูกค้าที่ต้องการบ้านพร้อมอยู่ ส่วนระดับราคาบ้านที่จะเปิดขายในโครงการใหม่นี้จะอยู่ที่ราคาระดับ 3-5 ล้านบาท
"ปัญหาที่มองว่าการสร้างบ้านแบบผสมผสานในโครงการเดียวกัน อาจจะทำให้เกิดปัญหาเรื่องการบริหารจัดการ และการควบคุมต้นทุนได้ยากนั้น ในส่วนของสัมมากรเอง จะไม่มีปัญหาในเรื่องดังกล่าว เนื่องจากได้มีระบบการจัดการและการบริหารควบคุมต้นทุนการก่อสร้างที่ค่อนข้างดี การใช้ระบบการก่อสร้างทั้งสองระบบควบคู่กันมา ทำให้สามารถควบคุมต้นทุนได้อย่างดี และอีกอย่างบริษัทเองก็ได้แบ่งการก่อสร้างออกเป็นเฟส ๆ ทำให้ควบคุมต้นทุนการก่อสร้างได้ง่ายมากขึ้น" นายกิตติพล
นายกิตติพล กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าของโครงการบ้านนครอินทร์ ที่มีการเปิดตัวในปี 2547 ที่ผ่านมานั้น ขณะนี้มียอดขายไปแล้วกว่า 200-300 ล้านบาท หรือประมาณ 25-30 ยูนิต สำหรับโครงการบ้านนครอินทร์นี้ มีพื้นที่โครงการทั้งหมด 65 ไร่ มีจำนวนการก่อสร้างบ้านในโครงการจำนวน 280 ยูนิต แบ่งการก่อสร้างออกเป็น 3 เฟส โดยขณะนี้ยังเปิดขายเฉพาะในเฟสแรก และคาดว่าจะสามารถปิดการขายโครงการดังกล่าวได้ใน 2-3 ปีนี้ ปัจจุบัน บริษัทสัมมากรฯยังมีสต๊อกบ้าน ที่เริ่มมีการก่อสร้างรอการขายเหลืออยู่ในมือประมาณ 100 ยูนิต โดยแบ่งเป็นบ้านสั่งสร้างประมาณ 50 % และเป็นบ้านพร้อมอยู่อีกประมาณ 50 % รวมถึงบริษัทมีที่ดินรอการพัฒนาอยู่ 70 ไร่ ซึ่งซื้อมาตั้งแต่ 30 ปีที่แล้ว โดยกระจายตามทำเลต่างๆ อาทิ รังสิตคลอง 7 ประมาณ 150-160 ไร่ คลอง 7 อีกกว่า 50-60 ไร่ นิมิตรใหม่อีก 70-80 ไร่ และถนนพระราม 5 อีก 40-50 ไร่ ซึ่งจะสามารถรองรับการพัฒนาโครงการภายใน 5 ปี
ทั้งนี้บริษัท วางงบประมาณการทำตลาดไว้ 10 ล้านบาท โดยจะเน้นในเรื่องการทำการตลาดผ่านสื่อโฆษณาและบิลบอร์ด หรือป้ายโฆษณาเป็นหลัก นอกจากนั้นจะมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายไปด้วย ส่วนการจัดแคมเปญในปี48 นี้บริษัทมีแผนจะมีการจัดแคมเปญส่งเสริมการขายเป็นระยะๆ ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดว่าจะมีจำนวนเท่าใดในปีนี้
สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกปี 48 นายกิตติพลกล่าวว่า มีรายได้จากการขายที่ดินพร้อมบ้าน 173.9 ล้านบาท จากเป้ารายได้จากการขายบ้านพร้อมที่ดินกว่า 600 ล้านบาท ซึ่งเติบโตจากกยอดขายปีที่แล้วประมาณ 10% แบ่งเป็นรายได้จากยอดขายในปีที่ผ่านมาบันทึกเป็นรายได้ในปีนี้ประมาณ 50% และอีก 50% เป็นรายได้ที่เกิดขึ้นในปีนี้
ตามงบการเงินที่แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ระบุว่าไตรมาสที่ 1 ปี 48 ปรากฏว่ามีรายได้รวม 191.59 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 27.96 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการขายบ้าน 173.9 ล้านบาท รายได้จากการขายน้ำมัน 8.28 ล้านบาท รายได้จากค่าน้ำและค่าบริการ 4.8 ล้านบาท ขณะที่รายได้จ่ายรวมอยู่ที่ 147.15 ล้านบาท ขณะที่ไตรมาสแรกปี 47 บริษัทมีรายได้รวม 77.21 ล้านบาท มีขาดทุนสุทธิ 4.26 ล้านบาท
นายกิตติพล กล่าวว่าบริษัทยังวางแผนที่จะเพิ่มสัดส่วนรายได้ธุรกิจพื้นที่ให้เช่า จากเดิมที่มีรายได้ในส่วนนี้ 3% ในการให้เช่าพื้นที่ทำปั๊มน้ำมัน, เต็นท์รถและตลาดนัด เป็น 15-20% ภายในเวลา 3 ปี เพื่อสร้างรายได้ระยะยาวให้กับบริษัทและลดความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ โดยบริษัทมีแผนที่จะพัฒนาที่ดินด้านหน้าโครงการสัมมากร บางกะปิ จำนวน 15 ไร่ ในรูปแบบของสำนักงานให้เช่า เพื่อรองรับความต้องการใช้พื้นที่สำนักงานของธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับสนามบินสุวรรณภูมิ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจายังไม่มีข้อสรุปว่าจะรูปแบบจะเป็นอะไร รวมถึงพื้นที่ด้านหน้าโครงการสัมมากร รังสิตคลอง 2 อีก 7-8 ไร่
|
|
|
|
|