เพราะขณะที่สถาบันการศึกษา หลายแห่งพยายามดึงดูดนักศึกษาให้สมัครเข้าเรียน
โดยอาศัยการ road show ประชาสัมพันธ์ความแข็งแกร่งทางวิชาการ และการชูเครือข่ายศิษย์เก่าที่มีฐานะเป็น
role model ให้ก้าวเดินตาม แต่ภายใต้โครงการ International Management
Experience (IME) ซึ่งเป็นการนำนักศึกษาเยี่ยม ชมการบริหารงานของบริษัทต่างๆ
ใน ภูมิภาคเอเชีย ดูจะเป็นมากกว่ากิจกรรม ในหลักสูตร หากแต่เป็นวิธีการสร้าง
Brand recognition และการเสริมสร้าง Alumni network ได้ในคราวเดียว
"การเดินทางมาเยี่ยมชมกิจการ ของบริษัทต่างๆ ในเอเชียทำให้นักศึกษาของ
Carroll สามารถรับรู้ความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในโลกธุรกิจ ซึ่งประกอบด้วยผู้ประกอบการทั้งรายเล็กรายใหญ่
และบางส่วนเป็นเพียงธุรกิจที่เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น กลยุทธ์ของธุรกิจเหล่านี้ย่อมหลากหลายตามแต่สถานการณ์และวิถีของแต่ละบริษัท
ซึ่งย่อมไม่มีในการเรียนตามตำรา" John M. Gallaugher ผู้ช่วยศาสตรา จารย์ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและอาจารย์ประจำในสาขา
Operation & Strategic Management ของ Carroll School of Management
ในฐานะหัวหน้าคณะนักศึกษาที่เดินทางในโครงการ และเป็นผู้ที่เน้นแนวการสอน
จากประสบการณ์จริงกล่าวกับ "ผู้จัดการ"
นั่นอาจเป็นเหตุผลเบื้องต้นซึ่งเป็นประโยชน์ต่อนักศึกษาในโครงการ International
Management Experience อย่างไม่ต้องสงสัย ขณะที่ John M. Gallaugher ระบุต่อไปด้วยว่า
การเยือนประเทศในเอเชียทั้งสิงคโปร์ ญี่ปุ่น จีน มาเลเซีย เวียดนาม และไทย
อีกด้านหนึ่งย่อมเป็นการนำพาให้ Carroll School of Management เป็นที่รู้จักในหมู่นักธุรกิจและผู้ประกอบการมากขึ้น
และเป็นโอกาสให้สามารถได้พบปะแลกเปลี่ยนกับศิษย์เก่าที่อยู่ในประเทศเหล่านี้ด้วย
การเยี่ยมชมกิจการของบริษัทในประเทศไทย นอกจากจะประกอบด้วยภาคธุรกิจขนาดใหญ่
ไม่ว่าจะเป็น Mead Johnson และ Thai Asahi แล้ว คณะนักศึกษาจาก Carroll School
of Management ยังเยี่ยมชมการดำเนินงานของสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย
ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นองค์กรที่มีระบบเครือข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศดีที่สุดแห่งหนึ่ง
ขณะที่การเดินทางไปประเทศจีนซึ่งถือเป็นตลาดนักศึกษาขนาดใหญ่ ก็ได้เยี่ยมชมกิจกรรมของ
Beijing Foreign Investment Service Center (BFISC) ซึ่งนับเป็นความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจมากเช่นกัน
นอกเหนือจากโครงการ IME ในภูมิภาคเอเชียแล้ว Carroll School of Management
ยังมีโครงการในลักษณะเดียวกันสำหรับภูมิภาคยุโรป รวมถึงโครงการ South-European
Management ที่ได้ร่วมกับ Bordeaux School of Business สำหรับนักศึกษาที่สนใจเยี่ยมชมกิจกรรมทางธุรกิจในเขตประเทศฝรั่งเศสและสเปน
ในช่วงหลังสิ้นสุดภาคเรียนในฤดูใบไม้ร่วง
บัณฑิตวิทยาลัยที่ Carroll School of Management มีนักศึกษานานาชาติมากถึง
30-35% ในแต่ละปี ขณะที่จากการจัดอันดับ Top Business School โดย US News
ในปีที่ผ่านมา (2001) Carroll School of Management ก็อยู่ในอันดับ ที่ 41
และขยับขึ้นเป็นอันดับที่ 39 ในการจัดอันดับในปี 2002 โดยหลักสูตร part-time
MBA อยู่ในอันดับที่ 17 จากการจัดอันดับล่าสุดเช่นกัน
"Boston เป็นอาณาบริเวณที่มีความสำคัญ เรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางของธุรกิจการเงินของโลก
เพราะสถาบันการเงินชั้นนำต่างมีสำนักงานใหญ่หรือแผนกสำคัญอยู่ที่นี่ทั้งสิ้น
และหลักสูตร MBA สาขาการเงินของ Carroll School of Management ก็ได้รับการจัดอันดับจาก
The Academy of Management ให้เป็น 1 ใน Top 25 หลักสูตรทางการเงินที่ดีที่สุด
โดยมีสถาบันชั้นนำที่ร่วมอยู่ในเขต New England อย่าง Harvard และ MIT เท่านั้นที่ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ใน
Top 25 นี้" John M. Gallaugher ย้ำจุดแข็งของหลักสูตรโดยพยายามเทียบเคียงกับสถาบัน
ชั้นนำแห่งอื่นๆ
ขณะที่งานวิจัยสาขาการเงินของ Carroll School of Management ก็ได้รับการจัดอันดับจาก
Journal of Financial Education ให้เป็นงานวิจัยอันดับ 1 ที่มีอิทธิพลต่อสถาบันทางการเงินด้วย
แต่นั่นอาจไม่สำคัญเท่ากับจุดเน้นว่าด้วยหลักสูตรปริญญาคู่ (Dual Degree)
ที่เปิดโอกาสให้นักศึกษา สามารถเรียนวิชาการจัดการเพื่อรับปริญญา MBA อนาคต
ควบคู่ไปกับการเรียนในสาขาวิชาชีพเฉพาะทางอื่นๆ ของมหาวิทยาลัย สำหรับการเผชิญกับโลกธุรกิจที่มีรูปแบบการจัดการองค์กรซับซ้อน
และเหลื่อมทับทักษะการบริหารหลายแขนงเข้าด้วยกัน รวมถึงการมีหลักสูตรปริญญาคู่ข้ามทวีป
ที่เป็นความร่วมมือกับ Robert Schuman University of Strasbourg ในประเทศฝรั่งเศส
เพื่อรับปริญญา MBA และ Diplome de Formation International ซึ่งเป็นปริญญาสำหรับการบริหารนานาชาติควบคู่กันในระยะเวลาการศึกษาเพียง
2 ปี
แม้ว่าหลักสูตรทางการเงินจะยัง คงเป็นหลักสูตรยอดนิยม ที่นักศึกษาระดับปริญญาตรีกว่า
34% เลือกเป็นสาขาหลัก แต่ภายใต้โลกธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลง โดยมีเทคโนโลยีเป็นจักรกลสำคัญทั้งในมิติของการสร้างโอกาส
และลดทอนความมั่งคั่งเพียงชั่วข้ามคืน หลัก สูตรการบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศและวิทยาการคอมพิวเตอร์
ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ Carroll School of Management พยายาม ผลักดันให้เป็นจุดแข็งอีกสาขาหนึ่ง
"นักศึกษาจะได้ร่วมรับรู้การเปลี่ยนแปลง และก้าวไปสู่การเป็นผู้นำในยุคสมัยของเทคโนโลยี
ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ด้วยการเชื่อมประสานวิทยาการจัดการเข้ากับแนวความคิดใหม่ๆ
เพื่อที่เมื่อพวกเขาผ่านพ้นจากห้องเรียนไปแล้วจะเพียบพูนด้วยทักษะ และความเข้าใจที่สมบูรณ์ว่าเกิดอะไรขึ้นในยุคสมัยปัจจุบัน"
สำหรับ John M. Gallaugher แล้ว เขาไม่เชื่อว่าการเรียนรู้จะหยุดลงเพียงเมื่อสิ้นสุดภาคการเรียนเท่านั้น
สิ่งที่เขาและ Carroll School of Management พยายามหยิบยื่นให้แก่นักศึกษาของสถาบันก็คือข้อมูลและหลักสูตรใหม่ๆ
ผ่านระบบ online เพื่อเป็นช่องทางให้ นักศึกษาสามารถติดตามพัฒนาการล่าสุด
ที่มีผลเกี่ยวเนื่องกับยุทธศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับการมุ่งสู่ความสำเร็จในอนาคตด้วย
กระนั้นก็ดี ภายใต้การแข่งขันที่หนักหน่วงของโลกธุรกิจปัจจุบัน ความสำเร็จของนักศึกษาและของสถาบันการศึกษาที่มีประวัติความเป็นมาตั้งแต่เมื่อปี
1863 จากรากฐานของคริสต์ศาสนาคาทอลิก แบบ Jesuit แห่งนี้ นี่อาจเป็นช่วงเวลาที่ต้องอาศัยสรรพกำลังในการวิวัฒน์ไม่น้อย