โมเดอร์นฟอร์มรุกเจาะตลาดสุขภาพ เตรียมเซ็นสัญญานำชุดเตียง-เก้าอี้สุขภาพ แบรนด์ โวลเกอร์ จากเยอรมนี และสินค้าจากญี่ปุ่น คาดเริ่มทำตลาดส.ค. แจงยอดขายไตรมาสแรก 704 ล้านบาท โตจากไตรมาสเดียวกันของปี 47 กว่า 14% มั่นใจแนวโน้มตลาดรวมเฟอร์นิเจอร์ยังขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดออฟฟิศ พร้อมทุ่มงบทำตลาดกว่า 70-80 ล้านบาท เน้นทำกิจกรรมมากขึ้น

นายทักษะ บุษยโภคะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โมเดอร์นฟอร์มกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สำหรับแนวโน้มตลาดเฟอร์นิเจอร์ ในปี 2548 โดยรวมแล้วยังมีอัตราการขายตัวที่ดีกว่าปีที่ผ่านมา โดยในส่วนของตลาดอสังหาริมทรัพย์ อัตราการขยายตัวยังไม่สูงกว่าในปีที่ผ่านมา ซึ่งส่วนใหญ่กำลังซื้อที่มีอยู่จะเป็นตลาดระดับกลางและตลาดระดับล่าง ส่วนตลาดระดับสูงเริ่มชะลอตัว บ้างแล้ว ส่วนในตลาดออฟฟิศในปีนี้มีแนวโน้มว่าจะขยายตัวค่อนข้างมาก

ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าว่าจะมีรายได้จากยอดขายทั้งปีรวม 3,200 ล้านบาท โดยในไตรมาส 1 ปีนี้ บริษัทมีผลประกอบการรวม 704 ล้านบาท หรือมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 14% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 47 โดยมีกำไรสุทธิจากการขาย 61.2 ล้านบาท ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิที่ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา เนื่องจากการปรับขึ้นของราคาวัสดุและวัตถุดิบที่เป็นต้นทุนหลักของสินค้า แม้ว่าบริษัทจะมีการปรับราคาเฟอร์นิเจอร์ขึ้นปีละครั้ง แต่ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นก็ทำให้อัตราการเติบโตของกำไรลดลงไปด้วย

สำหรับเป้ารายได้ที่บริษัทวางไว้ทั้งปีนี้นั้น แบ่งเป็นสัดส่วนรายได้มาจากตลาดออฟฟิศ 45% โดยแบ่งเป็นรายได้จากโชว์รูม 40% และเป็นยอดขายจากโครงการ 60%, ตลาดบ้านที่อยู่อาศัย 30% แบ่งออกเป็นยอดขายจากโชว์รูม และโครงการจัดสรร 50-50%, ตลาดวัสดุตกแต่ง 20% และสุดท้ายตลาดส่งออก 5%

อย่างไรก็ตาม ในปี 48 นี้ บริษัทจะใช้งบการตลาดประมาณ 70-80 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 47 ประมาณ 15% โดยจะใช้งบประมาณ 70% ในการทำตลาดผ่านสื่อโฆษณา ส่วนอีก 30% จะเป็นการจัดกิจกรรมการตลาดเฉพาะกลุ่มลูกค้า ซึ่งในปีนี้บริษัทจะให้ความสำคัญมากขึ้นเนื่องจากตรงกลุ่มเป้าหมายและได้ผลชัดเจนกว่า ได้แก่ การสื่อสารโดยตรงถึงลูกค้าเป้าหมาย และการทำกิจกรรมการตลาด ณ จุดขายมากขึ้น

นายทักษะกล่าวว่า ในเดือนมิถุนายน บริษัทมีแผนจะเซ็นสัญญากับบริษัทผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ สุขภาพแบรนด์ VOLKER (โวลเกอร์) จากประเทศเยอรมนี และผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์สุขภาพจากญี่ปุ่น เพื่อนำเข้าเฟอร์นิเจอร์กลุ่มรักษาสุขภาพ มาทำตลาดในเมืองไทยในเดือนสิงหาคมนี้ โดยเฟอร์นิเจอร์สุขภาพที่จะนำเข้ามานี้ จะเน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายในตลาดระดับกลางและสูงที่มีกำลังซื้อในกลุ่มผู้รักสุขภาพ โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งมีมากถึง 20% ในปัจจุบันและมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต

ทั้งนี้ เฟอร์นิเจอร์ในกลุ่มเฮลท์แคร์ยังเป็นตลาดที่จะมีการขยายตัวได้อีกมาก ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มลูกค้า โรงพยาบาลเอกชน ซึ่งปัจจุบันมีการแข่งขันกันค่อนข้างสูงในเรื่องการให้บริการลูกค้า จะเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีคุณภาพในการรักษาสุขภาพ อีกทั้งมีสถานพยาบาลประเภทเนิร์สซิ่ง โฮมจับกลุ่มคนสูงอายุโดยเฉพาะ รวมถึงกลุ่มคนสูงอายุชาวต่างชาติหลังเกษียณ ทั้งจากยุโรปและญี่ปุ่นที่จะย้ายเข้ามาอยู่ในเมืองไทยมากขึ้น