|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
มาลีรุก 2 ธุรกิจใหม่ ล่าสุดเปิดตัวน้ำดื่มแบรนด์มาลี หวังใช้แบรนด์แม่ช่วยให้ติดตลาดได้ไม่ยาก พร้อมเปิดร้านขายเครื่องดื่ม ผักผลไม้ "ฟรุตโทเปีย" สบช่องตลาดน้ำผลไม้ 100% ปีนี้โต 40% ส่งผลิตภัณฑ์ใหม่บุกตลาด คาดสิ้นปียอดขายเพิ่ม 15%
นายพิศักดิ์วลี เศวตนันท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ตราผลิตภัณฑ์ บริษัทมาลีสามพราน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดน้ำผลไม้ในปัจจุบันมีการแข่งขันกันสูงขึ้น ทั้งจากกลุ่มผู้เล่นรายเดิมและกลุ่มผู้เล่นรายใหม่ที่เข้ามาในตลาด อีกทั้งกระแสรักสุขภาพที่มาแรง ส่งผลให้ มาลีได้มีการปรับกลยุทธ์ทางการตลาดใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ "Loving Life with Nature's Secrets" เพื่อให้แบรนด์มีความชัดเจนและเป็นการขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น
ล่าสุดปีนี้มาลีได้เปิดตัวธุรกิจและสินค้าใหม่เพิ่ม 4 รายการ ประกอบด้วย ร้านจำหน่ายเครื่องดื่มจากผักผลไม้สดและอาหารสุขภาพ ภายใต้ชื่อ "ฟรุตโทเปีย (Fruitopia)" ซึ่งถือว่าเป็นร้านค้าที่มีภาพลักษณ์ในเรื่องของสุขภาพ โดยสาขาแรกจะเปิดที่เซ็นทรัล พระราม 2 ด้วยงบลงทุน 1 ล้านบาท บนเนื้อที่ 16 ตารางเมตร โดยจะมีการจำหน่ายอาหารเกี่ยวกับสุขภาพ เช่น โยเกิร์ต, สลัดผักปลอดสารพิษ ปีนี้คาดว่าจะเปิดร้านฟรุตโทเปียทั้งหมด 5 สาขาในเขตกรุงเทพฯ ภายใต้งบลงทุนสาขาละ 1 ล้านบาท และมีระยะเวลาคืนทุน 1-1.5 ปี
ประกอบกับมาลีต้องการขยายสินค้าให้ครบไลน์ทุกประเภท ล่าสุดมาลีเปิดตัวน้ำดื่มภายใต้แบรนด์มาลี ซึ่งที่ผ่านมาได้ทดลองในงานกาชาด ขายในราคาขวดละ 6 บาท ขนาด 600 มิลลิกรัม โดยจะขายผ่านช่องทางร้านฟรุตโทเปียขายส่งและขายปลีก ทั้งนี้คาดว่าน้ำดื่มจะได้รับการตอบรับดี เนื่องจากได้แบรนด์แม่มาลีช่วยให้ติดตลาดได้
นอกจากนี้ จากข้อมูลของเอซี นีลเส็นพบว่า ตลาดน้ำผลไม้พาสเจอไรซ์ในช่วง 2 ปีหลังมานี้ โตปีละ 35% ปีนี้คาดว่าจะโต 40% เนื่องจากกระแสใส่ใจสุขภาพซึ่งกำลังเป็นที่นิยม ดังนั้นบริษัทฯ จึงได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ "น้ำผลไม้ 100% พาสเจอร์ไรส์" ซึ่งมี 2 รสชาติ คือ รสส้มสายน้ำผึ้ง และส้มโอเชี่ยน มี 2 ขนาด ได้แก่ 330 มิลลิกรัม ขายในราคา 31 บาท และขนาด 1,000 มิลลิกรัม ขายในราคา 80 บาท คาดว่าจะเปิดตัวในเดือนมิถุนายนนี้ ปัจจุบันน้ำผลไม้ 100% ได้รับความนิยมมาก โดยทางมาลียังได้ทุ่มงบลงทุนกว่า 100 ล้านบาทในการซื้อเครื่องจักรเพื่อรองรับการผลิตน้ำผลไม้พาสเจอไรซ์ของมาลี
ส่วนผลิตภัณฑ์ที่เปิดตัวอีกกลุ่ม คือ น้ำผลไม้ 40% และผักผลไม้บรรจุกระป๋องตรามาลี ฟู้ด เซอร์วิส ที่มีกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นภาคธุรกิจด้านอาหารที่ต้องการใช้น้ำผลไม้ในการประกอบอาหารแปรรูปต่างๆ เช่น โรงแรม, โรงพยาบาล, โรงเรียน และฟูดส์คอร์ต เป็นต้น
ทั้งนี้ จากการปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ของมาลี และการออกสินค้าและธุรกิจใหม่ 4 รายการ จะส่งผลให้รายได้ของมาลีในปีนี้เพิ่มขึ้น 15% จากปีที่ผ่านมา โดยปีนี้บริษัทฯตั้งงบทางการตลาดไว้ประมาณ 14-15% ของยอดขาย
สำหรับผลประกอบการในไตรมาสแรกที่ผ่านมามียอดขายเกินเป้าที่ตั้งไว้ 5% และสูงกว่าปีที่แล้ว 15% เนื่องจากยอดขายของน้ำผลไม้ 100% เป็นตัวผลักดันที่สำคัญ โดยตลาดน้ำผลไม้ในเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาพบว่า ผลิตภัณฑ์น้ำผลไม้ 100% ของมาลีสามารถเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดจาก 17% ในปลายปีที่ผ่านมาเป็น 21% ในขณะนี้ โดยครองส่วนแบ่งทางการตลาดอันดับ 2
เขากล่าวด้วยว่า น้ำผลไม้มาลี ทีน บรรจุกระป๋องก็มีการเติบโตของยอดขายในไตรมาสที่ 1 ปีนี้ประมาณ 14% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และโต กว่าเป้าหมาย 10% ส่วนผลไม้บรรจุกระป๋องตรามาลี เป็นอีกผลิตภัณฑ์หนึ่งที่มีการเติบโตมากเป็นพิเศษ คือ ในไตรมาสที่ 1 ของปีนี้เติบโตถึง 44% จากปีที่ผ่านมาในช่วงเวลาเดียวกัน และสูงกว่าเป้าหมายปี 48 ถึง 18%
ส่วนน้ำนมข้าวโพดยูเอชทีตรามาลี ไอ-คอร์น มียอดขายเพิ่มขึ้นเล็กน้อยโดยจำนวนหีบ แต่ส่วนของยอดขายเป็นตัวเงินไม่เติบโตมากนักเป็นเพราะบริษัทฯ มีการปรับราคาขายต่อหน่วยจาก 12 บาทเป็น 10 บาทต่อกล่อง 200 มิลลิลิตรในเดือนมีนาคมปีที่แล้ว
|
|
|
|
|