26 เม.ย.
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้มีหนังสือเวียนไปยังธนาคารพาณิชย์ เพื่อแจ้งการปรับปรุงหลักเกณฑ์การให้บริการบัตรเครดิตของธนาคารพาณิชย์
ให้เหมาะสมกับภาวะการแข่งขันการให้บริการของธุรกิจมากขึ้น โดยยกเลิกเพดานรายได้ขั้นต่ำของผู้ถือบัตรเครดิต
จากเดิมที่กำหนดไว้ที่ 1.5 หมื่นบาทต่อเดือน และยังผ่อนคลายหลักเกณฑ์การชำระเงินบัตรเครดิตขั้นต่ำเป็น
5% ต่อ เดือนของยอดที่ต้องชำระจากที่กำหนดไว้ 10% รวมทั้งยังลดอายุผู้ยื่นขอทำบัตรเครดิตจาก
22 ปี เป็น 20 ปี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย.เป็นต้นไป
29 เม.ย.
ธนาคารกสิกรไทย ประกาศความพร้อมที่จะลงมาแข่งขันในตลาดของผู้มีรายได้ขั้นต่ำเดือนละ
1 หมื่นบาท จากเดิมกำหนดรายได้ขั้นต่ำของผู้ถือบัตรไว้ที่ 1.5 หมื่นบาท พร้อมขยายเป้าหมายของฐานผู้ถือบัตรเพิ่มเป็น
2 แสนราย จากเป้าหมายเดิม 1 แสนรายภายในสิ้นปี
9 พ.ค.
ธนาคารกรุงไทย กระโดดลงมาเล่นกับตลาดบัตรเครดิต ในกลุ่มผู้มีรายได้ต่ำ โดยการประกาศกำหนดรายได้ขั้นต่ำของผู้ถือบัตรลดลง
เหลือเพียงเดือนละ 7,500 บาท
13 พ.ค.
ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งได้ลดเงื่อนไขรายได้ขั้นต่ำของผู้ถือบัตรเครดิตลงมา
เหลือเพียง 10,000 บาท แต่ส่วนใหญ่ก็ยังสงวนท่าที เกี่ยวกับการลงมาเล่นในตลาดบัตรเครดิตระดับล่าง
ที่ผู้ถือบัตรมีฐานรายได้ต่ำกว่า 10,000 บาท
16 พ.ค.
มีการจัดงานมหกรรมการเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน "Consumer Banking &
Technology Fair 2002" หรือ Money Expo 2002 ขึ้นที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล
พลาซา ลาดพร้าว โดยงานมีไปจนถึงวันที่ 19 พ.ค. ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี
และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้กล่าวในการเปิดงานงานดังกล่าว ถึงการที่ธนาคารพาณิชย์มีการแข่งขันปล่อยสินเชื่อรายย่อย
ด้านสินเชื่อด้านอุปโภค-บริโภคโดยเฉพาะ ขยายฐานผ่านลูกค้าบัตรเครดิตว่าไม่ถือเป็นสถานการณ์น่าเป็นห่วง
เพราะเมื่อประชาชนมีรายได้มากขึ้น ก็ย่อมมีความต้องการจับจ่ายใช้สอยมากตามไปด้วย
ในขณะที่ก่อนหน้านี้วิทยาการไม่สอดคล้องกับ ความต้องการของคน จึงต้องเป็นการใช้จ่ายด้วยเงินสด
ภายในงาน ธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงินแทบทุกแห่งได้ร่วมออกบูธ นำผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ๆ
ออกมานำเสนอให้กับประชาชนผู้ร่วมงาน โดยบัตรเครดิต ถือเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่
ธนาคารทุกแห่งให้น้ำหนักมากเป็นพิเศษ
20 พ.ค.
มีการสรุปผลการจัดงานมหกรรมการเงินและเทคโนโลยี 2002 ว่า มีผู้สนใจเข้าร่วมชมงานครั้งนี้ถึง
3 แสนคน โดยมีผู้ตัดสินใจใช้บริการ และผลิตภัณฑ์ของผู้ออกบูธรายต่างๆ ถึง
6 หมื่นคน คิดเป็นเงินมูลค่า 5-6 พันล้านบาท ทั้งนี้ 80% ของธุรกรรม เป็นการยื่นสมัครบัตรเครดิต