ไปดูบ้านผมสิ บ้านผมจริงๆ ก็เป็นอย่างนี้ข้าวของวางเนี้ยบนิ่งกับที่ตลอดเวลา
และผมอยู่ได้อย่างมีความสุขด้วย"
ที่มาของประโยคข้างบนนี้เกิดขึ้นจากการที่ "ผู้จัดการ" วิจารณ์ว่า บ้านตัวอย่างของบริษัทโนเบิลนั้นสวย
แต่กลัวจะเหมาะสำหรับการเป็นบ้านไว้โชว์ ไม่เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยจริง
และเพราะคำพูดข้างต้นเช่นกันที่ทำให้ "ผู้จัดการ" ตัดสินใจไปเยี่ยมบ้านของธงชัย
บุศราพันธ์ ผู้บริหารคนหนึ่งของบริษัทโนเบิล ซึ่งวิถีชีวิตความเป็นอยู่ มีอิทธิพลกับการออกแบบบ้านในโครงการของบริษัทโนเบิลอย่างมาก
ที่นี่เป็นบ้านหลังแรกของเขา หลังจากที่ทำงานเก็บเงินมาร่วม 10 ปี เป็นบ้านแนวโมเดิร์น
ที่ค่อนข้างเรียบ ตกแต่งด้วยโทนสีอ่อน ขาว เหลือง ครีม ข้าวของมีเท่าที่จำเป็น
สมกับที่บอกว่า นี่เป็นบ้านของชายโสดที่โดดเดี่ยวอยู่ในเมืองใหญ่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า
เขาเป็นคนไม่ชอบซื้อของตกแต่งบ้าน เพราะสิ่งของมากมายหลายชิ้น เช่น เครื่องแก้ว
เครื่องเคลือบเซรามิกที่ดีไซน์เก๋ไก๋ ถูกจัดเก็บไว้ในตู้ต่างๆ ที่มีอยู่มากมายเช่น
ตู้ขนาดใหญ่ในห้องรับแขก ที่ออกแบบให้ดูกลมกลืนไปกับผนังห้องและกินพื้นที่เกือบครึ่งหนึ่งของผนังด้านนั้น
"ผมรู้อย่างว่า คนที่บ้านรกเป็นเพราะ 1. ไม่ชอบทิ้งของกับ 2. ไม่มีห้องเก็บของ
อย่างบ้านผมหรือบ้านในโครงการ ผม จะดีไซน์ให้มีตู้เก็บของเยอะที่สุด"
ห้องชุดยูนิตนี้มีพื้นที่ทั้งหมด 350 ตารางเมตร แบ่งเป็น 2 ชั้น ชั้น 7
จะเป็นห้องรับแขก ส่วนหนึ่งของห้องจัดไว้ เป็นที่ทานอาหาร และครัวที่ทันสมัย
ลึกเข้าไปจะเป็นห้องพักแขกที่เจ้าตัวบอกติดตลกว่า เตรียมเก็บไว้ให้เป็นห้องลูก
หากมีความสามารถเพียงพอ
พื้นที่ด้านในสุดเป็นห้องนอนที่ต่อเนื่องกับส่วนแต่งตัวและห้องน้ำ ห้องนี้มีตู้เก็บเสื้อผ้าสูงจรดเพดาน
แทนผนังห้อง ประตูตู้เป็นกระจกเงาบานใหญ่ การออกแบบตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่จนเหมือนมีห้องเล็กๆ
ไว้เก็บของได้สารพัดนั้น ได้ถูกดีไซน์ไว้ในโครงการบ้านจัดสรรหลายโครงการของโนเบิลเช่นกัน
ความมีระเบียบอย่างหนึ่งของเขาพิสูจน์ได้เมื่อตอนเปิดประตูตู้เข้าไปแล้วพบว่า
เสื้อที่แขวนไว้เรียงสีอ่อนแก่อย่างเป็นระเบียบ เหมือนกับการจัดเสื้อผ้าโชว์ในตู้ของเฟอร์นิเจอร์ยี่ห้อหนึ่งที่เห็นได้ตามห้างสรรพสินค้าใหญ่ทั่วไป
ความเป็นระเบียบในการเก็บของ จัดของวางเป็นที่เป็นทาง เพื่อให้ทุกอย่างดูเรียบร้อยชนิดที่ว่าหมอน
ที่วางอยู่บุ๋มไม่ได้ต้องตบๆ ให้เข้าที่ หรือเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างเช่น
คนสัมภาษณ์เองเผลอลุกเดินจากเก้าอี้ไป ธงชัยยังค่อยๆ เดินเข้ามาสอดเก้าอี้เข้าใต้โต๊ะ
ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้อาจจะเป็นสิ่งแปลกใหม่สำหรับเพื่อนฝูงเก่าๆ ที่เคยใกล้ชิด
"ผมเป็นอย่างนี้มากๆ ก็ช่วงมาทำบ้านให้กับโมเดิร์นนี่ล่ะครับ" เขาหัวเราะ
และบอกว่าเขามีความเชื่อว่าคนที่อยู่บ้านอย่างนี้ต้องเป็นคนมีระเบียบ ชอบจัดบ้านระดับหนึ่ง
"บ้านหลังนี้ เป็นเหมือนบ้านตัวอย่างเลยนิ่งสุดๆ มีความสุขมากกับบ้านที่เนี้ยบ
ชอบอย่างไม่มีเหตุผล บ้านสวยบังคับให้คนต้องรู้จักระวังความเป็นอยู่ไปเอง
ผมเป็นคนชอบจัด เวลาไปดูบ้านคน แล้วมันรกๆ ยังคิดว่าเขาอยู่ได้อย่างไร ผมเองเคยอยู่กับน้อง
แล้วน้องเป็นคนไม่จัดของ อยู่กับน้องมาตั้งแต่เล็กจนโต แล้วผมเห็นชีวิต เขามันรกมาก
ผมรำคาญ เลยต้องเก็บของตัวเองจนชิน ก็เลยเป็นแบบนี้"
ห้องรับแขกเป็นส่วนของบ้านที่เขาชอบมากที่สุด ผนังห้องด้านหนึ่ง โครงสร้างเดิมเคยเป็นคอนกรีตถูกทุบออกไปทั้งหมด
แล้วกรุด้วยกระจกใสแทน ทำให้ห้องดูโปร่งโล่ง และเห็นวิวข้างนอกได้เต็มตา
แต่ดูโดดเดี่ยวเชียวล่ะ เมื่อมองออกไปเห็นโลกภายนอกที่มีแสงพริบพราวกระจ่างตา
จากตึกโน้นตึกนี้ในยามค่ำคืน แต่ความรู้สึกของเจ้าของบ้านอาจจะอบอุ่นขึ้นมาได้บ้าง
เมื่อมองผ่านกระจกจากจุดนี้ออกไปจะเห็นบ้านหลังหนึ่งในถนนวิทยุ ซึ่งเป็นบ้านของเขาที่อาศัยอยู่กับครอบครัว
ก่อนย้ายเข้ามาอยู่บ้านหลังนี้เมื่อปีที่ผ่านมา
ตอนบ่ายของฤดูร้อน ห้องนี้ค่อนข้างร้อน เพราะพระอาทิตย์ตกด้านที่เป็นกระจกพอดี
แต่หน้าหนาว แสงอาทิตย์จะลับลงตรงมุมตึกสูง ทำให้ความร้อนลดลงได้บ้าง
จากชั้น 7 ขึ้นบันไดไปชั้น 8 ซึ่งจัดไว้เป็นห้องทำงาน เครื่อง Macintosh
G4 Cube รุ่นล่าสุดทันสมัย เฉียบ วางอวดรูปโฉมอยู่บนโต๊ะทำงานกลางห้อง ธงชัยเป็นคนที่ชอบเกี่ยวกับเรื่องไอทีมากและเป็นผู้ดูแลเรื่องนี้ที่บริษัทโนเบิล
ดีเวลลอปเม้นท์
ระเบียงด้านนอกของชั้นนี้ กว้าง และร่มรื่นไปด้วยต้นไทรที่ใส่กระถางขนาดใหญ่เรียงรายอยู่ด้านนอก
ด้านหนึ่งของระเบียง เป็นบ่อน้ำสี่เหลี่ยม และบริเวณนี้เองคือ ความไม่ลงตัวในการออกแบบที่สร้างความหงุดหงิดให้ธงชัยมากที่สุด
แน่นอน ความรู้สึกของคนส่วนใหญ่ต้องการได้ห้องน้ำที่เป็นส่วนตัวมิดชิด
แต่สำหรับคนคนนี้ ไม่ใช่ ตรงระเบียงที่โล่งโจ้งนี้เขาต้องการให้มีอ่างจากุชชี่ไว้สำหรับอาบน้ำกับท้องฟ้า
ก้อนเมฆ แสงแดด ในเวลากลางวัน หรือแสงไฟวิบวับจากตัวตึกต่างๆ รอบตัวในเวลากลางคืน
โชคดีของชาวกรุงเทพฯ ธงชัย บุศราพันธ์ ไม่สามารถทำอย่างที่ตั้งใจได้ เพราะโครงสร้างของตึกไม่ได้เตรียมไว้รองรับ
เสียงนินทาจากทีมงานแว่วๆ มาว่า การไม่ได้อาบน้ำในอ่างจากุชชี่ริมระเบียงเป็นเรื่องเดียวที่ไม่สบอารมณ์ของเขา
นอกนั้นทุกอย่างในบ้านลงตัวหมด
ธงชัยเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือ หนังสือที่ชอบอ่านมี 2 ประเภทคือ หนังสือวิชาการในแนวการบริหารธุรกิจ
ที่สามารถนำไปใช้ได้ในการทำงาน และสอนหนังสือ อาจารย์หนุ่มหน้าอ่อน รูปร่างสูงใหญ่เกือบ
2 เมตร คนนี้ เป็นอาจารย์พิเศษของคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ที่มีตารางสอนในวันพุธช่วงบ่าย
หนังสืออีกประเภทหนึ่งคือ หนังสือเกี่ยวกับการตกแต่ง เช่น Wallpaper ที่เขาสามารถติดตามเทรนด์ในการดีไซน์ได้ทุกมุมโลก
แต่ก็อีกนั่นล่ะ หนังสือส่วนใหญ่จะถูกเก็บไว้ในตู้ มีวางให้เห็นอยู่เพียงไม่กี่เล่มเท่านั้น
ในห้องนอน นอกจากโคมไฟเล็กๆ แล้ว จะมีหนังสือ Deflation How to Survive
and Thrive in the coming wave วางอยู่ด้วย
ส่วนหนังสือ Designer Hotels Wallpaper Home & Decor ถูกจัดระเบียบการวางไว้ในห้องรับแขก
การเล่นคอมพิวเตอร์ เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งของคนรุ่นใหม่ที่ทันสมัยอย่างเขา
อาจจะฟังขัดแย้งกันบ้าง กับการชอบดูหนังแนวดราม่า ส่วนวันว่างเสาร์อาทิตย์
งานอดิเรกคือ ตระเวนเยี่ยมโครงการ วันนี้เขามีรถโฟร์วีล บีเอ็ม x5 เป็นพาหนะคู่กายใช้ตะลุยไซด์งาน
บ้านที่เรียบกริบ อาจจะสะท้อนถึงความเป็นคนเจ้าระเบียบของเจ้าของบ้าน ที่แม้จะพิถีพิถันในเรื่องความเป็นอยู่
แต่ในเรื่องการแต่งตัว ดูง่ายๆ สบายๆ เสื้อผ้าก็อาจจะยับๆ พับแขน ทะมัดทะแมง
ไม่ค่อยจะมีวันใส่สูทผูกไทเป็นเรื่องราว แต่เสื้อผ้าของเขาจะต้องเป็นของแบรนด์เนม
เพราะมันได้สร้างความมั่นใจให้กับเขาว่าของมีราคาพวกนั้นผ่านการดีไซน์มาเรียบร้อยแล้ว
แม้ห้องนอนจะเป็นส่วนที่ใช้มากที่สุด เพราะความเร่งรีบ ในชีวิตประจำวัน
แต่ทุกส่วนทุกมุมของบ้านสร้างความสบายใจให้เขาได้เสมอ แม้เพียงได้แค่มอง
และเดินผ่าน และทุกอย่างของความพึงพอใจ จะถูกสะท้อนกลับไปยังบ้านจัดสรรทุกโครงการที่เขาออกแบบด้วยเสมอเช่นกัน