Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ ธันวาคม 2526








 
นิตยสารผู้จัดการ ธันวาคม 2526
“ไม่มีวันฝันสลาย” หยุดฝันเมื่อไหร่ ก็ตายเมื่อนั้น             
 


   
search resources

ธนาคารแห่งประเทศไทย
ศุภชัย พานิชภักดิ์
Financing
พัฒนเงินทุน




อาคารที่ทำการบริเวณชั้นล่างของธนาคารแห่งประเทศไทยนั้น ทุกๆ วันที่เดินเข้าไปก็จะพบกับความโอ่อ่ากว้างขวาง และเงียบสงบจนอยากจะหลับพักสักงีบ

และความโอ่อ่ากว้างขวางและเงียบสงบนี้ได้ถูกแปรเปลี่ยนเป็นคับแคบ และอึกทึกคึกโครมอย่างพลิกฝ่ามือในทันที เมื่อผู้ถือตั๋วสัญญาใช้เงินของพัฒนเงินทุนและบ้านที่ดินไทย กว่า 300 คน พร้อมใจกันนัดชุมนุมพลเมื่อยามเช้าจรดเที่ยง ของวันที่ 23 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

“ผมว่ากว่า 30 เปอร์เซ็นต์เป็นผู้ถือตั๋วที่ไม่ได้ไปร่วมประชุมกับพวกเราที่โรงแรมนารายณ์ วันนี้เขาทราบข่าวก็เลยมาที่นี่ เพราะเขาก็อยากทราบเหมือนกันว่าจะเอากันอย่างไร มันก็เลยดูสับสนนิดหน่อย เพราะบางคนเขายังไม่ทราบว่าทางกลุ่มดำเนินการไปขั้นไหนแล้ว...” หนึ่งใน 28 คณะกรรมการกลุ่มผู้ถือตั๋วสัญญาใช้เงินที่ตั้งขึ้นเพื่อเคลื่อนไหว เรียกร้องให้แบงก์ชาติช่วยเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการเปลี่ยนตั๋ว ซึ่งกำหนดไถ่ถอนคืนหมดภายใน 10 ปี กล่าวกับ “ผู้จัดการ”

“ในวันนี้ ที่จริงเราก็ไม่มีเจตนาจะนัดชุมนุมอะไรเพียงแต่เราแต่งตั้งตัวแทน 7 คน ขอเข้าพบกับท่านผู้ว่านุกูล ประจวบเหมาะ เพื่อยื่นข้อเสนอที่ทางกลุ่มฯ อยากให้แบงก์ชาติช่วยผ่อนผันนี่ขึ้นไปตั้งแต่ 4 โมงเช้า เดี๋ยวก็คงลงมาแถลงได้ล่ะครับว่าแบงก์ชาติมีความเห็นอย่างไร” กรรมการคนเดิมเล่าต่อ

สำหรับข้อเสนอที่กลุ่มนำติดมือขึ้นไปเจรจากับแบงก์ชาตินั้น ประกอบด้วย 3 ข้อใหญ่ คือ

หนึ่ง-พวกที่ถือตั๋วไม่เกิน 500,000 บาท ขอให้ถอนคืนได้ 50% ในระยะเวลา 3 เดือน และอีก 50% ที่เหลือภายใน 1 ปี

สอง-พวกที่ถือตั๋วตั้งแต่ 500-001-1,000,000 บาท ถอนคืนได้ 30% ภายใน 3 เดือน อีก 3

0% ภายใน 1 ปี และอีก 40% ภายใน 2 ปี

สาม- พวกที่ถือตั๋วราคาตั้งแต่ 1,000,0001 –ขึ้นไป ถอนได้ 20% ภายใน 1 ปี 30% ภายใน 2 ปี และ 30% ที่เหลือ ภายใน ระยะเวลา 3 ปี

“หมายถึงการจ่ายคืนตามราคาหน้าตั๋วนะครับ ไม่ใช่ตามรายชื่อผู้ถือตั๋ว เพราะบางคนเขาถือหลายใบ ถ้ารวมแล้วก็ตายนะสิ...” กรรมการอีกคนหนึ่งช่วยติง

“ผมอยากสรุปว่าจริงๆ แล้วทางกลุ่มเขามีข้อเสนอข้อเดียว คือ 10 ปีมันนานไป เขารับไม่ได้ เขาขอร่นเข้ามาเป็น 3 ปี นั่นเอง” ดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักผู้ว่าการแบงก์ชาติ ซึ่งวันนั้นต้องทำหน้าที่รับแขกแทนท่านผู้ว่าฯ นุกูล ประจวบเหมาะ สรุปให้ฟัง หลังจากกลุ่มที่ชุมนุมแยกย้ายกลับบ้านใครบ้านมันไปแล้ว

และเมื่อถูกถามว่า ในวันที่ 30 พฤศจิกายน ซึ่งสัญญาว่าจะนำข้อเรียกร้องเหล่านี้ไปปรึกษา ผู้ใหญ่ และจะแจ้งผลให้ทราบในวันนั้น..นั้น แบงก์ชาติจะหาทางออกอย่างไร ดร. ศุภชัยอ้ำอึ้งนิดหน่อย ก่อนจะกล่าวว่า “คงเป็นไปได้ยาก เพราะตามเงื่อนไขที่กลุ่มฯ เสนอนั้น เท่ากับจะต้องใช้เงินเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า ..” อย่างไรก็ตาม แบงก์ชาติเอง ก็จะพยายามค้นหาทางออกด้วย ซึ่งตอนนี้ยังไม่ทราบว่าจะเป็นอย่างไรเช่นกัน

“ผมไม่เข้าใจเหมือนกันนะ ทำไมคนถึงชอบแห่มาถึงแบงก์ชาติ เราเป็นคนอนุญาตให้มีการตั้งบริษัทการเงินจริง แต่นั่นมิใช่พอบริษัทนั้นล้ม เราจะต้องรับผิดชอบ ทำไมไม่เรียกร้องเอากับฝ่ายอื่นๆ” แล้วก็มีเสียงบ่นออกมาจากปากของผู้ทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงแบงก์ชาติ

“ครับ ดร.ศุภชัย ระหว่างที่คุยกับท่านก็แนะนำทำไมไม่จัดการกับบริษัทที่ก่อปัญหาจะได้ตัวอย่างอันนี้ ที่จริงทางกลุ่มฯ ก็เคยคุยกันว่าจะฟ้องทั้งทางอาญา และจะฟ้องล้มละลายด้วย คงมีคนทำแน่ครับ เพราะ ดร.ศุภชัยท่านชี้แจงว่า การฟ้องร้องของใครคนใดคนหนึ่งจะไม่มีผลถึงการเปลี่ยนตั๋วของคนอื่นๆ บุญสิทธิ์ วิบูลลาภ ประธานกลุ่มฯ เปิดเผย

ดูเหมือนการเคลื่อนไหวตั้งแต่ต้นจนในระยะใกล้ๆ นี้ของกลุ่มผู้ถือตั๋วสัญญา
ใช้เงิน 3 บริษัทเครือตึกดำ แม้กระทั่งแกนหลายสิบคนที่ดำเนินการอยู่ ก็เชื่อว่าหนทางสำเร็จนั้น มันเหมือนฝัน แต่คงจะต้องดิ้นรนกันต่อไป เพราะเลวร้ายที่สุดก็คือยอมรับสภาพการไถ่ถอนเงินคืนภายในระยะเวลา 10 ปีโดยไม่มีดอกเบี้ย ถ้าข้อเรียกร้องเหล่านี้เป็นเหมือนฝัน ทุกคนก็คงไม่อยากให้มันเป็นฝันสลายเท่านั้น

“ผมอยากฝากให้ช่วยทำความเข้าใจกับประชาชนว่า เงินที่จะได้จากกาไถ่ถอนคืนใน 10 ปี จากสหธนกิจไทยนั้น ไม่ใช่เงินของผู้ถือตั๋วละลายกลายเป็นน้ำจนติดลบไปแล้ว เพราะฉะนั้นมาตรการที่แบงก์ชาติประกาศไปนั้น เป็นเรื่องให้ความช่วยเหลือ เนื่องจากเห็นใจในความทุกข์ร้อน” ทดร.ศุภชัยเองก็พยายามแสดงจุดยืนที่แท้จริง ซึ่งว่าไปแล้วการคาดหวังที่จะให้ทุกอย่างลงตัวอย่างราบรื่นเป็นที่พออกพอใจบรรดาเจ้าของตั๋วสัญญาใช้เงินก็เป็นความฝัน ของแบงก์ชาติเหมือนกัน

และแบงก์ชาติก็คงอยากจะฝันไปเรื่อยๆ เพราะหากตื่นจากฝันเมื่อไรก็คงจะตายทันทีเมื่อนั้น   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us