ท่าสบายๆ กับกีตาร์ที่อยู่ในมือที่กำลังเล่นท่วงทำนองบางท่อนของเพลงใหม่ของอัสนี
ขณะให้ถ่ายภาพอยู่ในห้องสตูดิโอบันทึกเสียงใหม่ขนาดใหญ่ที่มีมูลค่า 15 ล้านบาท
อัสนีเล่าให้ฟังถึงหลายเรื่อง เกี่ยวกับเหตุผลของการคัดสรรอุปกรณ์เครื่องมือระบบอนาล็อกและดิจิตอล
ที่รายรอบให้ได้ครบดังใจต้องการ
"ห้องอัดใหม่ทั้งหมดมี 3 ห้อง ห้องนี้ใหญ่ที่สุด ผสมระหว่างอนาล็อกกับดิจิตอล
เพื่อให้งานที่ทำได้เยอะขึ้นกว้างขึ้นในการทำแทร็คเยอะๆ แต่ที่ห้องกลางจะเป็นดิจิตอลทั้งหมด"
เป็นธรรมดาเหมือนเด็กที่ได้ของเล่นใหม่ อัสนีรู้สึกว่าเขาสนุกที่จะใช้มันผลิตงานเพลง
มันเป็นแรงกระตุ้นความอยากทำอะไรให้มากขึ้นดีขึ้นตามความฝันใฝ่ตั้งแต่วัยเด็ก
โดยอีก 2 เดือนข้างหน้านี้ งานเพลงสร้างสรรค์ในอัลบั้มใหม่ของอัสนี วสันต์
จะออกจากห้องอันให้อารมณ์วิเศษนี้
อัสนีเกิดที่จังหวัดเลย เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2498 พ่อเป็นทนายชอบเล่นไวโอลิน
ขณะที่แม่เป็นครู มีความสามารถเล่นดนตรีเครื่องสาย มีพี่น้อง 4 คน วสันต์หรือโต๊ะเป็นน้องคนที่
3 อัสนีรักการเล่นกีตาร์ตั้งแต่ 10 ขวบโดยเริ่มจากกีตาร์ตัวแรกที่พ่อซื้อให้
เมื่อจบมัธยมก็เข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยรามคำแหงแต่ไม่จบ ชีวิตเป็นนักเล่นดนตรีรับจ้างเล่นตามผับและร้านอาหาร
ต่อมา โอกาสของอัสนีก็มาถึง เมื่อทั้งอัสนีและวสันต์เป็นแชมป์โฟลค์ซองแห่งประเทศไทย
ในปี 2517 และอจ.วิมล จงวิไล กรรมการคนหนึ่งได้พาไปบันทึกเสียง จนทำให้อัสนีมั่นใจที่จะตั้ง
วง Isn't โดยมีผลงานเพลงแนวโฟลค์ร็อก ชุดสาวตางาม และสยามสแควร์ ซึ่งบางเพลงในอัลบั้มนี้ยังคงเป็นที่นิยม
เช่น เพลง "หนึ่งมิตรชิดใกล้" และออกอัลบั้มอื่นๆ อีก 4-5 ชุดโดยวง Isn't
ตระเวนเล่นตามผับ ห้องอาหารคาเฟ่
ต่อมาอัสนีแยกตัวไปหาประสบการณ์ใหม่ๆ ด้านดนตรี โดยได้รับคำชักชวนจากเรวัต
พุทธินันทน์ ชวนให้เล่นกับวง ดิ โอเรียนเต็ล ฟังค์ ที่โรงแรมมณเฑียร ที่เขาได้รู้จักเพื่อนพ้องน้องพี่
เช่น สุรสีห์ อิทธิกุล, กฤษณ์ โชคทิพย์พัฒนา โปรดิวเซอร์อิสระให้กับมอร์อยู่,
อ.ดนู ฮันตระกูล วงบัตเตอร์ฟลายส์ และ อ.บรูซ แกสตัน เป็นต้น
เมื่อวง ดิ โอเรียนเต็ล ฟังค์ ของเรวัตยุบวงไป งานส่วนใหญ่ของอัสนีจะเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง
เคยร่วมงานกับบัตเตอร์ฟลาย เคยแต่งเพลงโฆษณาให้กรีนสปอต และรับเล่นดนตรีแบ็กอัพให้กับ
Hot Pepper ของปราจิน ทรงเผ่า
จุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้อัสนีกล้าขึ้น คือหลังจากเป็นโปรดิวเซอร์งานเพลงอัลบั้ม
แดนศิวิไลซ์ ของ ธเนศ วรากุลนุเคราะห์ และได้ไปหาประสบการณ์ทำงานด้านนี้ที่กรุงลอนดอน
เมื่อกลับมาปี 2529 ก็ผลิตงานอัลบั้ม "บ้าหอบฟาง" สร้างสรรค์เนื้อหาและดนตรีแนวร็อกที่มี
เอกลักษณ์ ลากเสียงยาว
"ผมรู้สึกกล้าขึ้นที่จะออกมายืนข้างหน้า มันเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติเหมือนเราคลิกว่า
เราทำได้นี่หว่า! จึงออกมาเป็นอัลบั้ม "บ้าหอบฟาง" ซึ่งเป็นชุดแรกที่ไม่มีเพลงรักอกหักเลย
มีแต่เพลงบ้าหอบฟาง เดือนเพ็ญ ฯลฯ" อัสนีเล่าให้ฟัง
ปัจจุบัน ลิขสิทธิ์มาสเตอร์เทปเพลง "บ้าหอบฟาง" ซึ่งไปอยู่กับไนท์สปอตมา
12 ปี อัสนีได้ซื้อคืนกลับมาทั้งหมดในปี 2541 ด้วยราคาภายในที่เจ้าตัวไม่อยากเปิดเผย
"ตัวผมนายอัสนีเป็นผู้ซื้อเอง แต่ให้แกรมมี่ดูแลชุดที่ launch ออกมาใหม่
เป็นการประกาศว่าตอนนี้มันอยู่ตรงนี้แล้ว เวลามีปลอมที่ไหนก็จะได้คุยกันให้ชัดเจน"
นี่คือลิขสิทธิ์ที่อัสนีครอบครองไว้
ตั้งแต่ปี 2530 อัสนีได้เข้ามาทำงานกับแกรมมี่เต็มตัว โดยดึงวสันต์มาร่วม
duo ออกอัลบั้มใหม่ที่ดังมากคือ ชุด "ผักชีโรยหน้า" ที่มีเพลงเด่นเช่น ก็เคยสัญญา,
หนึ่งมิตรชิดใกล้ ที่มีแนวทำนองกีตาร์โซโล
"ผมพอใจผลตอบแทนทุกอัลบั้ม มันแฟร์และสมัยก่อนผมเล่นดนตรีตามผับที่โรงแรม
ผมได้เงินเดือนประจำประมาณ 2 หมื่น เมื่อ 15 ปีที่แล้ว เมื่อออกมาทำอัลบั้มเอง
กระแสตอบรับดี เนื้อหาถูกจัดการกับเมโลดี้ ซึ่งเป็นเรื่องใหม่ของวงการดนตรี
ถามผมว่าคุ้มไหม ก็คุ้มกว่าเล่น ในบาร์อยู่แล้ว ในเวลาทำงาน 4 เดือนที่นำเสนอหน้าเวทีข้างหน้า
ไปเล่นดนตรีและคอนเสิร์ต รายรับที่ได้ช่วงแรก ประมาณ 7-8 แสนบาท" อัสนีเล่าให้ฟัง
ปี 2531 ผลงานอัสนี วสันต์ ติดอันดับยอดนิยม ชุดอัลบั้ม "กระดี่ได้น้ำ"
ก็ดังอีก ขณะที่งานเพลงของวสันต์ "กีตาร์โต๊ะ" ที่มีเพลงวสันต์แต่งเองถึง
7 เพลง เป็นแนวใช้กีตาร์โปร่งฟังสบายๆ จับใจเฉพาะกลุ่มกว่า
ปี 2532 และ 2533 อัสนี วสันต์ ยังผลิตงานชุดฟักทองและสับปะรด แต่เป็นที่นิยมน้อยกว่า
ทำให้อัสนีต้องใช้เวลาถึง 3 ปีที่จะทบทวนตัวเอง และหาความใหม่สดให้กับผลงานชุดใหม่คือ
"รุ้งกินน้ำ" ที่ได้รับรางวัลอัลบั้มยอดเยี่ยมปี 2536 จากสีสันอวอร์ด
จากรุ้งกินน้ำ ปลายปี 2538 อัสนีก็ได้ก่อตั้งบริษัท มอร์ มิวสิค และเป็นกรรมการผู้จัดการ
ที่อยู่เบื้องหลังศิลปินร็อกใหม่ๆ เช่น Loso, Blackhead, Silly Fools, โจ-ก้อง
ฯลฯ
จนกระทั่งปี 2540 อัลบั้มชุด "บางอ้อ" จึงถูกสร้างสรรค์ขึ้น โดยคำว่า บางอ้อ
หมายถึงเข้าใจดี ให้อภัยและมีความสุข เพลงที่ดังเช่น อยากได้ยินว่ารักกัน
ล่าสุด อัสนี วสันต์ เตรียมจะออกงานเพลงชุดใหม่ ที่ใช้ห้องอัดเสียงแห่งใหม่ของมอร์ทำงานอัลบั้มชุดใหม่ออกมาในไม่ช้านี้
"งานที่ออกมาของผมส่วนใหญ่จะเป็นงานใหม่ แต่มีงานเก่าแถมบ้าง"
ค่ำแล้ว บนโต๊ะทำงานของอัสนี ที่มีหนังสือเจ้าชายน้อยวางอยู่ มีคำสนทนาหนึ่งที่น่าสนใจตอนท้ายๆ
ของเล่ม เป็นบทสนทนาระหว่างสุนัขจิ้งจอกกับเจ้าชายน้อยบนโลกมนุษย์ว่า
"ลาก่อน นี่คือความลับของฉัน มันแสนจะธรรมดา เราจะมองเห็นแจ่มชัดด้วยหัวใจเท่านั้น
สิ่งสำคัญนั้นไม่อาจเห็นได้ด้วยดวงตา"