Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน16 พฤษภาคม 2548
แฉเจตนาแฝงจม.CTX จีอีกันตัวเองให้พ้นผิด             
 


   
www resources

โฮมเพจ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

   
search resources

ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่
จีอีอินวิชั่น
Airport




"สุริยะ" แบไต๋ ซื้อเครื่อง CTX ต่อ อ้างจม.จีอีที่ส่งให้นายกฯ เคลียร์ข้อหาสินบนแล้ว ส.ว.-ฝ่ายค้าน จับพิรุธจดหมายจีอียืมมือรัฐบาลไทยสร้างหลักฐาน สู้คดีผู้ถือหุ้นฟ้องฐานปกปิดความผิดจ่ายสินบน แนะนำคดีเข้าสู่กระบวนการกฎหมายอาญา "แก้วสรร" ระบุเป็นการโกงแบบโลกาภิวัตน์ ที่ฝรั่งสมรู้ร่วมคิด คนไทยปล้นคนไทย

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า การที่บริษัทจีอี อินวิชั่น ส่งจดหมายถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ไม่มีการจ่ายสินบนให้แก่เจ้าหน้าที่รัฐบาลไทย ในการขายเครื่องตรวจวัตถุระเบิด CTX9000 ทำให้บริษัทท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ (บทม.) สามารถซื้อเครื่องเอกซเรย์ CTX จากจีอีได้ตามเดิม เพราะถือว่าได้มีการตรวจสอบข้อกล่าวหาแล้ว

อย่างไรก็ตาม ยังคงจะให้ บทม.ศึกษาแนวทางการจัดซื้อเครื่องเอกซเรย์ยี่ห้ออื่น เปรียบเทียบกับ CTX และจะหาข้อสรุปโดยเร็ว

ในวันนี้ เวลา 10.00 น. นายสมชัย สวัสดิผล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย ซึ่งดูแลการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ จะแถลงข่าวชี้แจงการจ่ายเงิน 30% ของมูลค่าสัญญาก่อสร้างระบบสายพานให้แก่กลุ่มไอทีโอว่า เงินที่จ่ายไปนั้นกลุ่มไอทีโอนำไปทำอะไรบ้าง

จับพิรุธจดหมายจากจีอี

วานนี้ (15 พ.ค.) ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ได้มีการเสวนา "เกาะติดกระบวนการตรวจสอบทุจริต CTX" โดยมีผู้ร่วมเสวนา ประกอบด้วย นายเกียรติ สิทธิอมร ส.ส. ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ นายธนบูลย์ จิรานุวัฒน์ ผู้เชี่ยวชาญกฎหมายระหว่างประเทศ นายพนัส ทัศนียานนท์ ส.ว.ตาก

นายเกียรติ สิทธิอมร กล่าวถึงกรณีที่จีอีทำหนังสือถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ชี้แจงกรณีการจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิด CTX ว่า ไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐบาลไทยรับเงินนั้นไม่น่าเชื่อถือ และเป็นคนละประเด็นกับที่ก.ล.ต.สหรัฐฯ ระบุว่า ความผิดที่เกิดขึ้นมาจากส่วนต่างของราคาขายเครื่องตรวจวัตถุระเบิด ที่อาจจะนำไปจ่ายให้แก่เจ้าหน้าที่รัฐและพรรคการเมือง ซึ่งในเอกสารการตรวจสอบชี้ชัดว่ามีความพยายามที่ทำให้เกิดความผิดปกติในราคาซื้อขายที่สูงเกินจริง

นอกจากนี้ในหนังสือที่จีอีระบุว่า ในการตรวจสอบอินวิชั่นไม่ได้ทำการสัมภาษณ์ หรือปรึกษาเจ้าหน้าที่รัฐบาลไทยแต่อย่างใด และไม่ได้คำนึงถึงการวิเคราะห์ต้นทุนภายในของบทม. ซึ่งแสดงให้เห็น ว่า เมื่ออินวิชั่นไม่ได้ให้สัมภาษณ์ แล้วมาบอกว่า เจ้าหน้าที่ไทยไม่มีการรับได้อย่างไร

ส่วนที่บอกว่าไม่ได้มีการวิเคราะห์ต้นทุน แสดงถึงความไม่รับผิดชอบว่าไทยจะซื้อสูงกว่าต้นทุนหรือไม่ ดังนั้นวัตถุประสงค์ของจดหมายฉบับดังกล่าวที่จีอีทำมายังรัฐบาลก็เพื่อที่จะขายตรง และกันตนเองจากความผิดที่อาจต้องเกี่ยวข้องกับการสืบสวนต่อไปในอนาคต และมีข่าวว่า บริษัทจีอีเป็นผู้รับเหมาของโครงการไอพีสตาร์ด้วย และเรื่องนี้มีการยุติความก่อนถึงชั้นศาล เป็นคดีแรกในสหรัฐฯ และทราบมาว่ามีการจ้างบริษัท 2 แห่ง ในวอชิงตัน โดยบริษัททั้งสอง บริษัทหนึ่งมีนักการเมืองเป็นที่ปรึกษา อีกบริษัทหนึ่งเป็นของทนายที่เก่งมากในเรื่อง FCPA มีบทบาทสำคัญในการทำให้คดีนี้ยุติ

นายเกียรติ กล่าวด้วยว่า ถ้าหลังจากนี้สื่อมวลชนไปตามข้อมูลทั้งหมดจากต่างประเทศ ก็จะเข้าทาง และเป็นไปตามที่นายกรัฐมนตรีต้องการ เพราะจะชะลอกระบวนการ แต่ขณะนี้ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในประเทศไทยเวลานี้ถือว่าเพียงพอแล้ว โดยเฉพาะขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมาธิการที่ตรวจสอบเรื่องนี้ เริ่มพบความไม่ชอบมาพากลผุดขึ้นมาเรื่อยๆ ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องรอข้อมูลที่มาจากสหรัฐฯ โดยส่วนตัวเห็นว่าข้อมูลที่จะขอไปยังสหรัฐฯถือว่าเป็นข้อมูลที่ดี แต่จะต้องไม่เป็นเงื่อนไขที่ทำให้กระบวนการตรวจสอบของไทยหยุดชะงัก

นายเกียรติ กล่าวว่า กรณีที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเรื่องนี้ โดยยืนยันว่าผลการตรวจสอบจะสามารถทราบได้ภายใน 15 วัน ขณะนี้ครบตามกำหนด จึงอยากทราบว่า ผลที่มีการตรวจสอบเป็นอย่างไร หากผลออกมาว่า เรื่องนี้ไม่มีใครผิด ก็ให้พิจารณาได้เลยว่า คณะกรรมการชุดดังกล่าวไม่เก่ง หรือไม่ก็สมรู้ร่วมคิดด้วย

นายธนบูลย์ กล่าวว่า ในกรณีของ CTX ที่เกิดขึ้นนั้น หากตรวจสอบบริษัทที่ทำสัญญา ก็ควรที่จะกลับไปหาข้อมูลของ 3 บริษัทได้แก่ บริษัท อิตาเลียน-ไทย บริษัท ทาเคนนากา และ บริษัท โอบายาชิ ซึ่งทั้ง 3 บริษัทที่เข้าประมูลไม่ได้มีการกล่าวถึงว่า บริษัทใดได้ประมูลในส่วนของงานอะไรบ้าง โดยตนเชื่อว่า เมื่อทั้ง 3 บริษัทได้รับการประมูลไปแล้ว และได้แบ่งงานเป็นส่วนๆ และมีบริษัทมารับช่วงงานต่อจากทั้ง 3 บริษัทนี้ โดยทั้งอาจจะมีบริษัทของผู้ที่มีอำนาจทางการเมืองผู้ใดผู้หนึ่งเข้าไปสอดแทรกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

"ถ้าหากเราต้องการจะรู้ว่า โครงการสนามบินสุวรรณภูมิเป็นอย่างไร ขอเสนอว่าอย่าดูเพียงแค่เครื่อง CTX เท่านั้น แต่อยากให้ไปดูโครงการก่อสร้างทั้งหมด"

แนะส่งเข้าพิจารณาตามกม.คดีอาญา

ด้านนายพนัส ทัศนียานนท์ ส.ว.ตาก ในฐานะหนึ่งในคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษา ตรวจสอบเรื่องทุจริตประพฤติมิชอบ วุฒิสภากล่าวว่า เรื่องนี้น่าจะใช้อำนาจสอบสวนเรื่องดังกล่าวตามกฎหมายคดีอาญาได้แล้ว เพราะเพียงเท่านี้ก็ถือว่ามีหลักฐานมากเพียงพอ

การที่นายวิษณุ ระบุว่าสอบสวนไม่ได้ เพราะยังไม่มีความผิดทางอาญาเกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลไม่มีความตั้งใจที่จะทำให้เรื่องนี้เกิดความกระจ่าง ขณะที่นายกรัฐมนตรีเองยังคงต้องการให้กระจ่างตามมิติของตัวเอง คือให้จีอีออกมาเคลียร์ให้ได้ ตนเห็นว่ารัฐบาลน่าจะอาศัยสนธิสัญญาความร่วมมือทางอาญาระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ดำเนินการในเรื่องดังกล่าว ก็จะสามารถได้ข้อเท็จจริงทันที

สำหรับกรณีที่บริษัทจีอี ยอมออกหนังสือให้แก่รัฐบาลไทยตนเข้าใจว่าเป็นเพราะจีอีต้องการจะขายของให้ประเทศไทย เมื่อทางไทยขออะไรไปจีอีจึงต้องรีบทำให้ เพราะขณะนี้บริษัทจีอีกำลังถูกผู้ถือหุ้นฟ้องเรียกค่าเสียหายจำนวนมหาศาลในสหรัฐฯ โดยคดีต่างๆ จะเริ่มมีการไต่สวนในเดือนก.ค.นี้ บริษัทจีอีจึงต้องรีบเคลียร์ตัวเองให้ได้มากที่สุด

ชี้ฝรั่งสมรู้ร่วมคิดปล้นคนไทย

ด้านนายแก้วสรร อติโพธิ ส.ว.กทม.กล่าวว่า เรื่องนี้มีหลายคำถามที่ต้องการคำตอบ อาทิ กรณีที่บางสัญญาอัยการไม่ได้ตรวจก่อนลงนาม หรือเมื่อแพตทริออทถูกยกเลิกสัญญาทำไมยังมีการตรวจรับและจ่ายเงินให้บริษัทนี้อีก หากอ่านรายงานของ ก.ล.ต.สหรัฐฯ จะเข้าใจว่านี่คือการสมคบกันโกงประเทศโดยที่ฝรั่งรู้เห็น

"คนทำร้ายประเทศไทยไม่ใช่ฝรั่ง แต่เป็นพวกเรากันเองดังนั้น ประเด็นที่บริษัทจีอีชี้แจงในจดหมายที่นายกฯอ้างจึงเป็นคนละเรื่อง"

นอกจากนี้ ที่นายกฯบอกว่าหนังสือจากจีอี ผ่านการตรวจทานจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯแล้ว แต่ที่เห็นเขาแค่ทำสำเนาส่งกระทรวงยุติธรรมเพื่อทราบเท่านั้น อย่างไรก็ตาม หากเรื่องนี้ทางรัฐบาลไม่ดำเนินการให้ชัดเจน หากทางวุฒิสภาในชุดของ พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ สรุปว่าเรื่องมีมูล ก็จะส่งฟ้องเพื่อให้คดีเข้าสู่กระบวนการทางอาญา

"ผมเข้าใจว่า ที่จีอีวิ่งมาพบรัฐบาลไทยบ่อยครั้ง เพราะเขาต้องการข้อเท็จจริงจากฝ่ายไทยว่าสัญญาที่แท้จริงมันเท่าใดกันแน่ เพราะทางจีอีต้องการข้อมูลจากรัฐบาลไทยไปสู้คดีในศาลที่ถูกผู้ถือหุ้นฟ้องอยู่ ซึ่งคาดว่าจะมีค่าเสียหายคิดเป็นเงินไทยเป็นหมื่นล้านบาท ในขณะที่ศาลสหรัฐฯเองก็ต้องการหลักฐานจากฝ่ายไทยเช่นกัน คดีนี้จึงกลายเป็นคดีโลกาภิวัตน์ไปแล้ว ไม่จบง่ายๆ จึงต้องติดตามตัวละครให้รอบด้านเพื่อที่จะหาตอนจบ" นายแก้วสรรกล่าว

เอแบคโพลล์ชี้ คนเชื่อหนองงูเห่าโกง

สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขต กทม. และต่างจังหวัดจำนวน 1,975 ตัวอย่าง เกี่ยวกับ "2 วาทะนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยปัญหาคอร์รัปชันในสายตาประชาชน" โดยส่วนใหญ่ร้อยละ 66.3 เห็นว่าปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน ในหน่วยราชการไทยมีความรุนแรง เพราะอาศัยช่องโหว่ของกฎหมายแสวงหาผลประโยชน์ โดยประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 65.1 ระบุว่าโครงการสนามบินสุวรรณภูมิไม่ซื่อสัตย์สุจริต ส่วนภาพลักษณ์ความซื่อสัตย์สุจริตในการทำงานของฝ่ายการเมืองนั้นประชาชนยังให้ความเชื่อมั่นถึงร้อยละ 57.1 ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีความซื่อสัตย์สุจริตมากที่สุด ส่วนนักการเมืองนั้น ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 73.9 เห็นว่าไม่มีความซื่อสัตย์สุจริต และร้อยละ 54.8 เห็นว่ารัฐมนตรีไม่ซื่อสัตย์สุจริต

ส่วนวาทะของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในทำนองที่ว่า "ถ้ามีข่าวทุจริตคอร์รัปชัน แม้ไม่มีใบเสร็จ ผมจะขจัดพวกมันที่ทุจริตออกไปไม่เลี้ยงไว้แน่" นั้น ปรากฏว่าประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 83.7 เห็นด้วย ส่วนวาทะที่ว่า "การพาคณะกรรมการและคนออกสเปกซื้อของ ไปกินฟรี เลี้ยงดูปูเสื่อ เป็นเรื่องธรรมดา" นั้น ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 57.5 ไม่เห็นด้วย นอกจากนี้ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 56.7 ไม่มั่นใจว่ารัฐบาลภายใต้การนำของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะทำสงครามปราบคอร์รัปชันให้หมดสิ้นไปจากสังคมไทยได้อย่างแท้จริง และมีเพียงร้อยละ 35.9 ที่มีความมั่นใจ   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us