ใครๆ ก็รู้ว่า Elvis Presley เสียชีวิต เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 1977 แต่ความจริงแล้ว Elvis ยังมีชีวิตอยู่ แถมยังคงสามารถทำเงินได้อย่างมหาศาลยิ่งกว่าเดิมด้วย

ผู้ที่ทำให้ Elvis "ยังมีชีวิตอยู่" คือ Elvis Presley Enterprises (EPE) บริษัทนี้ตั้งขึ้นเพื่อจัดการทรัพย์สินทางปัญญาที่นักร้องชื่อก้องโลกผู้นี้ทิ้งไว้โดยเฉพาะ และ Elvis ที่ตายแล้ว ดูจะมีค่ามากกว่าเมื่อตอน ที่เขายังมีชีวิตอยู่ด้วยซ้ำ

วันครบรอบการจากไป 25 ปีของ Elvis ในเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้ กำลังจะกลายเป็นงานใหญ่ทั่วทั้งอเมริกา Bertelsmann Music Group (BMG) ซึ่งเป็นเจ้าของ RCA บริษัทเพลงที่ Elvis ย้ายไปเข้าสังกัดในปี 1955 หลังจากที่สร้างชื่อโด่งดังเป็นพลุแตกกับ Sun Records ได้ประกาศแผนรณรงค์การตลาดชนิดที่ "ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน" เพื่อส่งเสริมการขายบรรดาอัลบัมย้อนหลังของ Elvis จนถึงวันนี้ Elvis ยังคงเป็นศิลปินขายดีอันดับหนึ่งของ BMG อัลบัมและซิงเกิลของเขาขายได้เป็นจำนวนมากกว่าพันล้านทั่วโลก รวมเพลงฮิตชุดใหม่ล่าสุดของเขากำหนดจะออกวางตลาดในเดือนตุลาคมนี้ และเพลงฮิตของเขาหลายเพลงกำลังจะเป็นเพลงเอกในหนังเรื่องใหม่ล่าสุด ของ Disney ชื่อ Lilo and Stitch นอกจากนี้ที่ Graceland ซึ่งเปรียบเสมือนศูนย์รวมของผู้คลั่งไคล้ Elvis ยังจะมีการจัดกิจกรรมต่างๆ มากมาย ในช่วง "สัปดาห์ Elvis" ประจำปีนี้ ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 10-18 สิงหาคม

ไม่ว่าคุณจะเห็นว่า EPE เป็นผู้ดูแลรักษาชื่อเสียงอันดีงาม ของ Elvis หรือเป็นมังกรพ่นไฟจอมโหด ที่คอยเฝ้าอยู่หน้าประตูทางเข้าอาณาจักรขุมทรัพย์ของ Elvis ก็ตาม แต่ในฐานะผู้ได้รับสิทธิและผู้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ลิขสิทธิ์และสิทธิเผยแพร่ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับ Elvis EPE มีสิทธิตามกฎหมายเหนือทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับชีวิตและงานของนักร้องอมตะคนนี้ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่ Elvis ร้อง พูด เขียน เคยเป็นเจ้าของ หรือเคยสวมใส่ทุกอย่างเป็นของ EPE แต่เพียงผู้เดียว

การวิ่งเต้นของ EPE มีอิทธิพลอย่างมากที่ทำให้รัฐสภา Tennessee ตัดสินใจผ่านกฎหมายคุ้มครองสิทธิบุคคลในปี 1984 กฎหมายฉบับนี้กำหนดว่า "สิทธิเผยแพร่" ยังคงอยู่แม้เมื่อบุคคลตายไปแล้ว โดยสิทธินี้สามารถตกทอดไปยังทายาทและผู้จัดการมรดกอย่าง "ตลอดกาล" กฎหมายนี้ไม่ได้บังคับใช้กับคนธรรมดา แต่เฉพาะคนที่มีชื่อเสียงอย่าง Elvis เท่านั้น ดังนั้น กรณีของ Elvis นี้จึงกลายเป็นกรณีศึกษาเรื่องวัฒนธรรมป๊อปกับกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาที่น่าสนใจ EPE ไม่เคยเหน็ดเหนื่อยกับการปกป้องสิทธิของตนในการรักษาภาพลักษณ์หลังตายแล้วของ Elvis และนำคดีขึ้นสู่ศาลคดีแล้วคดีเล่า

ยกตัวอย่างเช่นในปี 1998 EPE ได้ฟ้องเจ้าของไนต์คลับแห่งหนึ่งใน Houston โทษฐานนำชื่อ Elvis ไปตั้งเป็นชื่อคลับไร้ระดับของตน เป็นเหตุให้ชื่อเสียงของ Elvis ต้องหมองมัว อีกครั้งหนึ่ง EPE เล่นงานผู้ผลิตรายการ "The Big El Show" ซึ่งเป็นรายการวาไรตี้บันเทิงที่มีนักร้องที่เลียนแบบ Elvis และใช้สโลแกนเกี่ยวกับ Elvis เช่น "A Tribute to Elvis Presley" ทั้งยังขายของที่ระลึกที่เกี่ยวกับรายการด้วย

เมื่อเร็วๆ นี้ EPE ยังขู่ที่จะฟ้องบริษัทพัฒนาที่ดินที่มีแผนจะพัฒนาที่ดินใน Walls รัฐ Mississippi ให้เป็นอาณาจักรศูนย์รวมผู้คลั่งไคล้ Elvis แห่งใหม่ ทำนองเดียวกับที่ Graceland เป็น โดยอาณาจักรที่ว่านี้ตั้งอยู่ห่างจาก Grace land ของ EPE เพียง 8 ไมล์เท่านั้น บริษัทดังกล่าววางแผนจะทุ่มทุนถึง 500 ล้านดอลลาร์พัฒนาที่ดินขนาด 157 เอเคอร์ ซึ่งเคยเป็นสถานที่ฮันนีมูนของ Elvis กับ Priscilla โดยส่วนที่น่าจะเป็นสิ่งดึงดูดบรรดาสาวก Elvis คือ "Elvis Dream House" ศูนย์ประชุมขนาด 1,000 ที่นั่ง ที่จะสร้างด้วยหินอ่อนสีขาว และมีสนามกอล์ฟอีก 2 สนาม ซึ่งถ้าเป็นจริงก็จะนับว่าเป็น อนุสรณ์สถานขนาดใหญ่ของนักร้องอมตะผู้นี้

แม้จะยังไม่มีข่าวว่า EPE มีแผนจะเล่นงานผู้ที่นำชื่อ Elvis ไปใช้ในต่างประเทศ แต่สำหรับใครที่กำลังทำมาหากินกับอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับ Elvis ในบ้านเราก็อย่าประมาท เผลอๆ คุณอาจต้องไปเจอกับ EPE ในศาลเข้าสักวันก็ได้