ธนาคารกรุงไทยชะลอแผนการร่วมธุรกิจกับเครือซีพีในประเทศจีน ยกเลิกการลงทุน 12.55% ใน Business Development Bank และคงสัดส่วนการถือหุ้นใน บลจ.กรุงไทย 100% ด้านโบรกเกอร์มองกำไรไม่คุ้มกับการลงทุน เป็นเหตุให้พับแผนไปก่อน

หลังจากที่ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจในการร่วมลงทุนรวม 3 ฉบับ ประกอบด้วย การร่วมลงทุนใน Business Development Bank (BDB) การลงทุนในบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTAM) และความร่วมมือทางธุรกิจกับ 7-Eleven นั้น

นายสุวิทย์ อุดมทรัพย์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB กล่าวถึงความคืบหน้าของการดำเนินการตามบันทึกความเข้าใจดังกล่าวว่า ขณะนี้ธนาคารพิจารณาชะลอแผนการลงทุนในกิจการธนาคารพาณิชย์ในประเทศจีน จึงได้ยกเลิกการร่วมทุนใน Business Development Bank (BDB) จากเดิมที่มีแผนร่วมกับเครือเจริญโภคภัณฑ์เข้าไปลงทุนใน BDB จำนวนไม่เกิน 10 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นไม่เกิน 12.55% ของทุนจดทะเบียนภายหลังเพิ่มทุนแล้ว

สำหรับบันทึกความเข้าใจฉบับที่ 2 การลงทุนในบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTAM) นั้น ขณะนี้ธนาคารได้ปรับแผนการดำเนินธุรกิจใหม่ โดยยึดนโยบายการบริหารบริษัทในเครือให้เป็นเสมือนหน่วยธุรกิจของธนาคาร เพื่อสนับสนุนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงิน เสริมธุรกิจต่อเนื่องให้แก่ธนาคาร ดังนั้นจึงเห็นควรให้คงสัดส่วนการลงทุนใน KTAM ไว้ที่ 100%

ขณะบันทึกความเข้าใจเดิม ธนาคารจะลดสัดส่วนการถือหุ้นใน KTAM จาก 100% เหลือ 40% โดยเปิดทางให้เครือเจริญโภคภัณฑ์ และบริษัท ทรีนีตี้ วัฒนา จำกัด (มหาชน) เข้ามาถือหุ้นจำนวน 30 ล้านหุ้น

ส่วนบันทึกความเข้าใจฉบับที่ 3 กำหนดความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างธนาคารกรุงไทย กับบริษัท ซี.พี. เซเว่นอีเลฟเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ 7-Eleven ในการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ โดยการใช้เครือข่ายสาขาของกันและกัน เพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์และบริการของทั้งสองฝ่ายนั้น ธนาคารและ 7-Eleven มีความเห็นร่วมกันที่จะแสวงหาโอกาสทางธุรกิจที่อาจมีขึ้นในภายหน้า โดยอยู่บนพื้นฐานการเจรจาธุรกิจปกติ และเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย

ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวถึงกรณีที่ธนาคารกรุงไทยชะลอแผนการลงทุนกิจการธนาคารพาณิชย์ในประเทศจีนว่า สืบเนื่องจากธนาคารคงประเมินว่าการลงทุนไม่คุ้มกับกำไรที่จะได้รับ เพราะเห็นได้จากมีหลายธนาคารที่ปิดกิจการไปแล้วหลายสาขา รวมทั้งธนาคารมีความสัมพันธ์ในแง่ธุรกิจกับประเทศจีนไม่มากนัก

"แบงก์กรุงไทยมีความสัมพันธ์กับธุรกิจในจีนน้อยมาก และการขยายทุนไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะจีนมีศักยภาพ ดังนั้นธนาคารจึงชะลอแผนการลงทุนออกไปก่อน"

แหล่งข่าวกล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ว่าสภาพเศรษฐกิจของจีนขณะนี้อยู่ในอัตราการขยายตัวที่ดี การเข้าไปร่วมทุนหรือเข้าไปลงทุนในประเทศจีนนั้นเป็นโอกาสอันดี แต่ก็ต้องดูศักยภาพและความสามารถของธนาคารว่ามีความเหมาะสมที่จะเข้าไปร่วมลงทุนในกิจการธุรกิจประเภทไหน โดยจะต้องสามารถสร้างผลประโยชน์ให้แก่ตัวบริษัทได้

ด้านความเคลื่อนไหวราคาหุ้น KTB วานนี้ ราคาหุ้นได้ปรับตัวลดลงจากวันก่อนหน้า โดยมีราคาสูงสุดที่ 8.85 บาท ก่อนจะปรับตัวลดลงมาปิดที่จุดต่ำสุดที่ 8.70 บาท ลดลงจากวันก่อน 0.15 บาท หรือ 1.69% ปริมาณการซื้อขาย 7,252,500 หุ้น คิดเป็นมูลค่าการซื้อขายรวม 63.55 ล้านบาท