Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน11 พฤษภาคม 2548
เมเจอร์ผนึกโนเกียเปิดโรงใหม่ลุยเซกเมนเตชันตั๋ว 170 บาท             
 


   
www resources

โฮมเพจ เมเจอร์ซินีเพล็กซ์
โฮมเพจ โนเกีย ประเทศไทย

   
search resources

โนเกีย (ประเทศไทย), บจก.
เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป, บมจ.
Theatre
เมเจอร์ ซีนีแอด, บจก.




เมเจอร์เน้นทำเซกเมนเตชัน ล่าสุดจับมือโนเกียเปิดโรงภาพยนตร์แพลทินัม หวังกระตุ้นยอดรายได้โตเท่าตัว คาดยอดลูกค้าปีแรก 5 แสนราย เผยลูกค้าหันใช้สื่อในโรงภาพยนตร์มากขึ้น เพราะราคาถูกและเข้าถึงกลุ่มลูกค้า พร้อมตั้งเป้ายอดรายได้สื่อโฆษณาในโรงภาพยนตร์ปีนี้โต 70-80%

นายอนวัช องค์วาสิฏฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่ บริหารฝ่ายการตลาด บริษัทเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปีนี้เมเจอร์เน้นการทำการตลาดแบบเซกเมนเตชัน โดยแบ่งออกเป็น 5 กลุ่ม คือ 1. แบ่งตามคน ด้วยการทำ เอ็ม คลับ เพื่อเป็นเครื่องมือวัดพฤติกรรมของลูกค้าว่านิยมไปดูภาพยนตร์ที่ไหน เป็นต้น 2. การทำโปรโมชันให้แก่โรงภาพยนตร์ ซึ่งแต่ละแห่งจะทำไม่เหมือนกัน 3. การจัดอีเวนต์ต่างๆ เช่น จัดงานตามหนังที่ฉาย 4. ด้านฮาร์ดแวร์ เช่น การแบ่งโรงภาพยนตร์เป็นแพลทินัม หรือโกลด์คลาส และการสร้างแบรนด์ เป็นต้น

ล่าสุดเมเจอร์ ซีนีแอดได้ร่วมมือกับโนเกีย ในการเป็นพันธมิตรร่วมกัน โดยทางโนเกีย ได้ใช้โรงภาพยนตร์แพลทนัมของเมเจอร์ เปิดภายใต้ชื่อใหม่ "โนเกีย แพลทินัม สกรีน" จำนวน 2 สาขา คือ ที่เมเจอร์ รัชโยธิน 2 โรง และเซ็นทรัล เวิลด์ พลาซ่า 1 โรง ซึ่ง 1 โรงจะมี จำนวน 100 ที่นั่ง โดยราคาตั๋ว 170 บาท คาดว่ารายได้จากโรงภาพยนตร์แพลทินัมจะเพิ่มขึ้นเท่าตัวและจำนวนลูกค้าปีแรกคาดว่า 5 แสนราย

ทั้งนี้ ความร่วมมือกันในครั้งนี้เกิดจากการที่โนเกียและเมเจอร์เป็นพันธมิตรร่วมกันมานานกว่า 5 ปี และทั้ง 2 บริษัทยังมีคอนเซ็ปต์ตรงกัน อาทิ แบรนด์ทั้งของโนเกียและเมเจอร์ที่มีความเป็นพรีเมียมเหมือนกัน, ภาพลักษณ์ของสินค้าตรงกัน, การมีเทคโนโลยีใหม่ๆ อยู่เสมอ และนโยบายทางการตลาดที่เหมือนกัน ซึ่งที่ผ่านมาทั้ง 2 บริษัทมีการทำการตลาดร่วมกันมาหลายครั้งแล้ว ทั้งกิจกรรมและโฆษณา เป็นต้น

นายบ็อบ แมคดูกอล กรรมการผู้จัดการฝ่ายบริหารลูกค้าและการตลาด บริษัทโนเกีย (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ความร่วมมือครั้งนี้เพื่อเป็นการสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้แก่ลูกค้าของโนเกีย โดยเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ลูกค้าจะได้สิทธิพิเศษ เช่น การทำภาพยนตร์หรือหนังสั้นผ่านทางมือถือของโนเกีย ซึ่งขณะนี้โนเกียมีมือถือกว่า 18 รุ่น ที่มีกล้องและสามารถถ่ายภาพได้

นายนิธิ พัฒนภักดี ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เมเจอร์ ซีนีแอด จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจบริหารสื่อโฆษณาครบวงจร ในเครือบริษัทเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากปัจจัยลบต่างๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะทั้งราคาน้ำมัน หรืออัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้เจ้าของสินค้าบางรายตัดงบประมาณที่ใช้ผ่านโทรทัศน์และวิทยุ แต่หันมาใช้สื่อและจัดกิจกรรมในโรงภาพยนตร์แทน เนื่องจากมีอัตราค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่า และสามารถเข้าถึงผู้บริโภคเฉพาะกลุ่ม (นิช มาร์เกต) ได้มากขึ้น จึงทำให้ไตรมาสแรกที่ผ่านมาบริษัทฯ มีรายได้จากการขายสื่อเพิ่มขึ้น100% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยอัตราค่าใช้จ่ายสื่อโฆษณาผ่านทีวีจะมีค่าใช้จ่าย 100,000 บาทต่อครั้ง ส่วนสื่อโรงภาพยนตร์จะอยู่ที่ 20,000 บาทต่อ 30 วินาทีต่อสัปดาห์

สำหรับยอดรายได้ปีที่แล้วของบริษัทเมเจอร์ ซีนีแอด จำกัด มีรายได้ 250 ล้านบาท ปีนี้คาดว่าจะโตขึ้น 70-80% จากการที่ลูกค้าหันมา จัดกิจกรรมบีโลว์ เดอะ ไลน์ควบคู่การใช้สื่อ มีเดียในโรงภาพยนตร์มากขึ้น เนื่องจากค่าใช้จ่ายสื่อในโรงภาพยนตร์มีราคาถูก เริ่มต้นประมาณ 5 แสน-10 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ลูกค้าที่มาใช้บริการของบริษัทฯ มีครอบคลุมทุกกลุ่มแล้ว ทั้งกลุ่มไอที, มือถือและค่ายโอเปอเรเตอร์ เป็นต้น อีกทั้งขณะนี้มีลูกค้าใหม่กำลังเจรจาอยู่ เช่น ยูนิลีเวอร์ และธุรกิจประกันภัย ส่วนยอดรายได้การจำหน่ายตั๋วปี 2547 ของเมเจอร์มียอด 20 ล้านใบ ปีนี้คาดว่าจะเพิ่มเป็น 25 ล้านใบ   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us