แบงก์กรุงศรีอยุธยาคลอดผลิตภัณฑ์ใหม่ จับมือพันธมิตรค้าปลีกรายใหญ่ "เซเว่น อีเลฟเว่น" ปล่อยกู้ผู้ประกอบการที่จะซื้อแฟรนไชส์ 3 ประเภท คิดอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 2 ปีแรก "MLR ลบ 2" ปีต่อไปคิดดอกเบี้ย MLR หวังขยายสินเชื่อและฐานลูกค้า เบื้องต้นผู้ประกอบการเข้าขอสินเชื่อกว่า 100 ล้านบาท แย้มเร็วๆ นี้เตรียมจับมือกับพันธมิตรแฟรนไชส์รายที่สอง มั่นใจทั้งปีสินเชื่อเกินเป้าหมายแน่

นายภุชงค์ ตัณฑศรี ผู้จัดการฝ่ายสินเชื่อที่อยู่อาศัย และรักษาการแทนผู้จัดการสินเชื่อบุคคล ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารได้ออกผลิตภัณฑ์สินเชื่อบุคคลใหม่ โดยเป็นสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกันในเชิงพาณิชย์ โดยได้ร่วมมือกับพันธมิตรรายใหญ่ ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ซึ่งเป็นร้านขายปลีกตลอด 24 ชั่วโมง โดยธนาคารจะปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการที่จะซื้อแฟรนไชส์ของร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ซึ่งจะแบ่งออกเป็นสินเชื่อ 3 ประเภท โดยคิดอัตราดอกเบี้ยพิเศษสุดๆ ระยะ 2 ปีแรกคิดอัตราดอกเบี้ยลูกค้าชั้นดี (เอ็มแอลอาร์) ลบ 2% และปีต่อไปจะคิดอัตราดอกเบี้ยเอ็มแอลอาร์ ซึ่งอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวจะใช้กับสินเชื่อทั้ง 3 ประเภทที่จะกล่าวนี้

ประเภทที่ 1 สินเชื่อประเภท A เป็นสินเชื่อเพื่อการปรับปรุง โดยผู้ประกอบการมีร้านเซเว่น อีเลฟเว่น อยู่แล้ว และต้องการที่จะปรับปรุงร้านให้สวยงามหรือขยายกิจการให้ใหญ่มากยิ่งขึ้น หากไม่มีเงินทุนในการปรับปรุง ธนาคารพร้อมที่จะปล่อยสินเชื่อให้ในวงเงินไม่เกิน 1,000,000 บาท ซึ่งการปรับปรุงร้านนั้น เซเว่นอีเลฟเว่นจะเป็นฝ่ายที่กำหนดแบบ และวงเงินที่จะปรับปรุงร้านให้กับผู้ประกอบการเอง หลังจากนั้นผู้ประกอบการจะต้องใช้วงเงินนั้นมาขอกู้จากธนาคาร

ประเภทที่ 2 แบบ B เป็นสินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการรายใหม่ที่ยังไม่มีแฟรนไชส์ของร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ต้องการที่จะซื้อแฟรนไชส์แต่ยังไม่มั่นใจกับธุรกิจดังกล่าว จึงขอทำสัญญาซื้อในระยะ 6 ปี ซึ่งกรณีดังกล่าวร้านเซเว่นอีเลฟเว่นจะคิดค่าแฟรนไชส์ ประมาณ 1,500,000 บาท โดยผู้ประกอบการสามารถเข้ามาขอเงินจากธนาคารได้ในวงเงินไม่เกิน 1,000,000 บาท ในส่วนที่เหลือลูกค้าจะเป็นฝ่ายออกเงินสดเองอีก 500,000 บาท

และประเภทที่ 3 แบบ C ผู้ประกอบการรายใหญ่ที่ต้องการจะซื้อแฟรนไชส์ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ที่เป็นโอกาสของการลงทุนระยะเวลายาว 10 ปี จะต้องซื้อแฟรนไชส์ ในราคา 2,400,000 บาท ธนาคารจะให้สินเชื่อกับผู้ประกอบการวงเงินประมาณ 1,900,000 บาท ในส่วนที่เหลือผู้ประกอบการจะต้องมีเงินสด ซึ่งการร่วมมือกับเซเว่นฯ ดังกล่าวเป็นผลิตภัณฑ์หนึ่งที่จะขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น รวมทั้งเป็นนโยบายของธนาคารที่จะร่วมกับพันธมิตรในการทำธุรกิจ ซึ่งเซเว่นมีศักยภาพสูงด้านธุรกิจค้าปลีก

นอกจากนี้ เรื่องของความเสี่ยงยังมีน้อยมาก เพราะผู้ประกอบการที่จะสามารถซื้อแฟรนไชส์ได้นั้น จะต้องได้รับการตรวจสอบหรืออนุมัติจากเซเว่นฯ ก่อน หลังจากนั้นลูกค้าจะต้องนำใบอนุญาตมาขอสินเชื่อกับธนาคาร โดยคาดว่าเบื้องต้นสามารถปล่อยสินเชื่อได้กว่า 100 ล้านบาท และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดว่าภายใน 2 สัปดาห์นี้จะเข้าไปหารือกับผู้บริหารเซเว่นฯ เพื่อทำแคมเปญร่วมกัน รวมทั้งเป้าหมายต่างๆ ซึ่งในเบื้องต้นนโยบายของเซเว่นฯ นั้น ต้องการที่จะขยายสาขาให้ได้มากที่สุดทั่วประเทศ จากปัจจุบันมีมากกว่า 2,000 สาขา และต้องการที่จะขยายสาขาไปยังสถานีบริการน้ำมัน ปตท.ทั่วประเทศด้วย

สำหรับแผนธุรกิจนั้น ธนาคารเตรียมที่จะออกผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ทั้งสินเชื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อบุคคล โดยตั้งเป้าหมายทั้งปี สินเชื่อทั้ง 2 ประเภทประมาณ 20,000 ล้านบาท เป็นสินเชื่อบุคคล 2,000 ล้านบาท และในเร็วๆนี้จะมีสินเชื่อบุคคลออกมาอีก 1 ผลิตภัณฑ์ เป็นการร่วมกับพันธมิตรในลักษณะแฟรนไชส์เหมือนกับร้านเซเว่น อีเลฟเว่น เพื่อขยายสินเชื่อของธนาคารให้เติบโตตามเป้าหมายต่อไป