"ทีเอ ออเร้นจ์" พลิกกลยุทธ์การตลาดระลอกใหม่ทุ่มตลาดระบบพรีเพด
หวังดันยอดขายผนึกระบบโพสต์เพด เติบโตเข้าเป้าประเดิมให้บริการปีแรก วางแผนยาวสร้างสัดส่วนระหว่างสองระบบ
50:50
ชิมลางแยกขายซิมการ์ดจัสทอล์คเจาะกลุ่มนักศึกษาและผู้ใช้ทั่วไป รับมือผู้ให้บริการคู่แข่งโหมโรงแยกขายซิมการ์ดโกยยอด
ขายพุ่งพรวด หลังแนวโน้มตลาดโพสต์เพดนิ่ง นายอติรุฒม์ โตทวีแสนสุข
ผู้อำนวยการสายงานธุรกิจ บริษัท ทีเอ ออเร้นจ์ จำกัด เปิดเผย ว่ากลยุทธ์การทำตลาดซิมการ์ดของออเร้นจ์
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการทำตลาดแนวใหม่ด้วยการแยกจำหน่ายซิมการ์ดโทรศัพท์บัตรเติมเงิน
เพื่อให้ผู้บริโภคมีทางเลือกในการใช้บริการหลากหลายยิ่งขึ้น ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม
เนื่องจากขณะนี้ผู้ให้บริการทุกรายได้แยกขายซิมการ์ดทั้งสามราย โดยทางทีเอออเร้นจ์ได้เปิดตัวแคมเปญส่งเสริมการขายซิมการ์ดเมื่อวันที่
10 มิถุนายน 2545 ที่ผ่านมา
สำหรับบริการจ่ายแล้วโทร.หรือจัสทอล์ค 2 รายการ คือ "ออเร้นจ์ ออนแคมปัส"
สำหรับกลุ่ม นิสิต นักศึกษาโดยเฉพาะ และ "จัสทอล์ค ออเร้นจ์ คิท"
สำหรับบุคคลทั่วไป นายอิตรุฒม์
กล่าวว่าจากการสำรวจพบว่ามีเสียงตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี แม้ว่าทางบริษัทจะเพิ่งเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ
และนับเป็นแคมเปญใหญ่ที่สองหลังจากการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของบริษัท ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เน้นทำตลาดลูกค้าของโทรศัพท์ทีเอเป็นหลัก
จนออเร้นจ์มีอัตราการเติบโตในระบบโพสต์เพดเป็นหลัก
การขายซิมการ์ดถือว่าเป็นการช่วงชิงตลาดในขณะนี้ เนื่องจากผู้ประกอบการทุกรายต่างกระโดดลงมาเล่น
สังเกตได้จากขณะนี้ยอดการเบอร์ใหม่จากการขายซิมการ์ดนั้น
จะมีมากในกลุ่มโทรศัพท์ระบบพรีเพด ส่วนระบบโพสต์เพดมีผู้จดทะเบียนใหม่น้อยกว่ามาก
ทำให้ทีเอออเร้นจ์เห็นว่าการเปิดตลาดขายซิมการ์ดในระบบพรีเพดจะทำให้เกิดการใช้งานอย่างแพร่หลาย
ที่สำคัญออเร้นจ์มองว่าเป็นการให้ลูกค้าได้ ทดลองตลาด ก่อนที่จะตัดสินใจใช้โทรศัพท์มือถือทีเอออเร้นจ์
"การแยกจำหน่ายซิมการ์ด สะท้อนถึงกลยุทธ์ของออเร้นจ์ที่ต้องการเปิดตลาดให้เป็นแบบเสรี
เพื่อให้ผู้บริโภคเป็นคนตัดสินใจเลือกใช้บริการของผู้ให้บริการรายใดรายหนึ่งได้ตามความต้องการ
โดยเฉพาะผู้ที่มีเครื่องโทรศัพท์มือ ถืออยู่แล้ว
สามารถซื้อเฉพาะซิมการ์ดโทรศัพท์ชนิดบัตรเติมเงินของออเร้นจ์ จุดนี้จะมีส่วนสำคัญในการช่วยผลักดันตลาดของออเร้นจ์ไปในตัว"นายอติรุฒม์กล่าว
ปัจจุบันออเร้นจ์มีลูกค้าใช้บริการทั้งสิ้น 4.4 แสนราย
โดยแยกเป็นระบบโพสต์เพด 70% และระบบพรีเพด 30% สัดส่วนดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าออเร้นจ์มีลูกค้าที่ให้ความเชื่อถือในการเป็นลูกค้าระบบโพสต์เพด
ซึ่งส่วนนี้ถือเป็นรายได้หลักและรายได้ระยะยาวของออเร้นจ์ "การเติบโตของออเร้นจ์สวนทางกับผู้ให้บริการรายอื่นที่โตเฉพาะระบบพรีเพดเป็นหลักอยู่ในขณะนี้
ขณะที่ออเร้นจ์มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในระบบโพสต์เพด" นายอติรุฒม์กล่าว
อย่างไรก็ตาม ทางออเร้นจ์หวังที่จะผลักดันตลาดในส่วนของพรีเพดให้เติบโตเพิ่มมากขึ้น
โดยอาศัยแคมเปญแยกขายซิมการ์ดออกสู่ตลาด ซึ่งทางออเร้นจ์ตั้งเป้าหมายว่าในอนาคตสัดส่วนของตลาดโพสต์เพดและพรีเพดน่าจะอยู่ที่ประมาณ
50:50
สำหรับรูปแบบการขายซิมการ์ดของทีเอออเร้นจ์ในสองรูปแบบนั้น ออเร้นจ์ ออน
แคมปัส
ผู้สนใจใช้บริการสามารถนำบัตรประจำนิสิตนักศึกษาติดต่อขอซื้อซิมการ์ดโทรศัพท์ชนิดบัตรเติมเงินบริการจัสทอล์คจำนวน
2 ใบได้ในราคาพิเศษ 400 บาท ใช้โทรได้รวมมูลค่า 400 บาท
ซึ่งผู้ใช้บริการจะใช้โทรได้ทันที 200 บาทเมื่อเปิดใช้บริการและรับเงินเติมอีก
200 บาทในวันที่ 31 นับจากวันที่เปิดใช้บริการ นอกจากนี้ออเร้นจ์ยังคิดอัตราค่าโทร.พิเศษ
สำหรับการโทร.ไปยังหมายเลขในเครือข่ายออเร้นจ์ นาทีละ 2 บาทและค่าโทร.ไปยังหมายเลขทั่วไปนาทีละ
4 บาท ส่วนแคมเปญสำหรับลูกค้าไปชนิดบัตรเติมเงิน จัสทอล์ค ออเร้นจ์ คิท ในราคา
400 บาท
โดยจะได้รับสิทธิพิเศษในการเติมเงินสำหรับโทร.ทันที 200 บาทเมื่อเปิดใช้บริการ
และรับเงิน เติมอีก 200 บาทในวันที่ 31 นับจากวันที่เปิดใช้บริการ นายอติรุฒม์
กล่าวว่าทีเอออเร้นจ์พยายาม
สร้างแบรนด์ให้มีความน่าเชื่อถือในบริการให้มาก ที่สุด เนื่องจากการแข่งขันในตลาดในช่วงต่อไปนั้นผู้ให้บริการทุกรายต้องยกเรื่องของคุณภาพและบริการมาเป็นจุดขายสำคัญ
ประกอบกับการ
ขายสินค้าในช่วงครึ่งปีหลังทุกค่ายจะหันมาโฟกัส ตลาดเฉพาะกลุ่มมากขึ้น โดยทางออเร้นจ์เตรียม
ผนึกกับศักยภาพของผู้ถือหุ้นทุกรายในการจัดแคมเปญและกิจกรรมการตลาดใหม่ต่อไป