|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ พฤษภาคม 2527
|
|
วิลเลียม อาจี และ แมรี คันนิงแฮม นักบริหารมือโปรคู่หญิง-ชายคู่หนึ่งในวงการบริหารระดับสูงของสหรัฐฯ ที่เคยสร้างความฮือฮาในเรื่องสัมพันธ์สวาทออกจากใจกลางเวทีของหน่วยงานที่ตนสังกัด
วิลเลียมออกมาทางซ้ายหลังจากที่ต้องเสียบริษัท เบนดิกซ์ไปให้กับกลุ่มอัลลายด์ ส่วนแมรีเดินออกมาทางขวาหลังจากที่บริษัทซีแกรมได้กวาดซื้อเอาธุรกิจขายไวน์ของบริษัทโคคา โคลา ไป โดยยื่นหนังสือลาออก
ทั้งคู่ได้ร่วมมือกันจัดตั้งบริษัทเงินทุนร่วมใช้ชื่อว่า เซมเปอร์ (SAMPER) อันเป็นภาษาละตินที่มีความหมายว่าเสมอๆ และจากหัวคิดทั้งสองคนก็ได้ตระเตรียมหาหนทางเงียบๆ ที่เคปคอดอยู่เป็นนานสองนาน ก่อนที่วิลเลียมจะปรากฏโฉมขึ้นอีกครั้งที่โรงแรมเฮล์มสลีย์ พาเลซ เพื่อประกาศให้โลกรับรู้ถึงโครงการยิ่งใหญ่อันแรกของบริษัทเซมเปอร์อันเกี่ยวโยงกับธุรกิจคอมพิวเตอร์ที่กำลังฮิตติดตลาดในขณะนี้ โดยแยกออกมาเป็นบริษัทย่อยชื่อ เซมเปอร์ เอนเตอร์ไพรซ์ และมีแผนการที่จะทำโครงการที่เรียกว่า ยูนิฟอร์ม ซอฟต์แวร์ ซีสเทมส์ ซึ่งจะสร้างโปรแกรมต่างๆ ที่สามารถนำไปเชื่อมโยงกับระบบการใช้งงานของคอมพิวเตอร์ที่เข้ากันไม่ได้กับส่วนอื่นๆ
ก็อย่างเดิมนั่นแหละคนอย่างวิลเลียมคิดการเล็กไม่เป็น เขากล่าวว่า “การฝันว่า จะมีบริษัทซึ่งขายซอฟต์แวร์ได้ถึงวงเงินกว่า 500 ล้านเหรียญในไม่กี่ปีข้างหน้านี้ไม่ใช่เรื่องที่ไร้สาระ และเราหวังจะเป็นหนึ่งในกลุ่มนั้นให้ได้” วิลเลียมซึ่งในขณะนี้ครอบครองตำแหน่งเก้าอี้ประธานบริษัทอื่นอีกสองแห่งในดาว โจนส์ และ มอริสัน นัดเซน จะใช้เวลาเพียงหนึ่งในห้าของเขาที่จะเข้ามาบริหารงานชิ้นใหม่นี้
แมรีเองจะเข้าๆ ออกๆ เป็นครั้งคราวด้วย ดังนั้น การบริหารส่วนใหญ่จะต้องเป็นภาระของ ปีเตอร์ จี เวอร์เนอร์ ซึ่งเคยเลื่องลือมาก่อนในวงการคอมพิวเตอร์เมื่ออยู่ที่บริษัทแรนด์ และอีกคนที่จะเข้ามาช่วยเต็มไม้เต็มมือก็คือ ปีเตอร์ ซี เวนสเบิร์ก อดีตมือบริหารของกลุ่มอาตาริ
ทั้งวิลเลียมและแมรีต่างก็มีงานที่จะต้องบริหารอีก 7 หน่วยงาน และยังไม่พออีก ทั้งคู่ได้คิดริเริ่มหากองทุนร่วมเพื่อทำโครงการใหม่ๆ แก่ผู้ลงทุนภายนอกที่สนใจ วิลเลียมเองดูจะพออกพอใจเป็นพิเศษจากการหลุดพ้นจากสภาพนักโทษที่ต้องติดคุกปฏิทินงานประจำวันในการปฏิบัติหน้าที่ที่แสนจะหนักอึ้งมาเสียได้ เขากล่าวว่า “มันไม่ปรากฏแม้แต่ในสามหน้าแรกของวัตถุประสงค์ระยะยาวของผมที่จะดำเนินบรรษัทขนาดใหญ่อื่นๆ อีก
|
|
|
|
|