โลกในทศวรรษนี้ ถ้าใครไม่รู้จักคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (Personal Computer) ก็ดูจะล้าสมัยเสียเหลือเกิน

บทความในนิตยสารส่วนมากมักจะอ้างอิงถึงการใช้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลมาประยุกต์ใช้กับงานด้านต่างๆ

บทความทางวิชาการก็จะชี้ให้เห็นถึงข้อดีของเครื่องต่างๆ มากมาย ซึ่งอาจทำให้หลายท่านรู้สึกสนใจที่จะนำคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเข้ามาช่วยในกิจการของท่าน ท่านเองก็อาจเป็นบุคคลหนึ่งซึ่งอาจหลงเชื่อไปกับคำโฆษณาต่างๆ ทำให้เลือกใช้เครื่องที่ไม่เหมาะสม จนอาจทำให้งานประจำนั้นช้าหรือยุ่งยากกว่าเดิมก็เป็นได้ หลายท่านอาจหมดความเชื่อถือในความสามารถของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลไปเลย ซึ่งอาจเป็นผลร้ายสำหรับการพัฒนาเทคโนโลยีเพราะคอมพิวเตอร์มิใช้เรื่องยุ่งยากเกินไปสำหรับท่านหรือกิจการของท่าน ขอเพียงให้ท่านเลือกเครื่องที่เหมาะสมกับงาน ท่านก็จะได้รับประโยชน์อย่างน่าพอใจจากเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล

อย่าซื้อ PC ถ้า...

การซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลนั้นมิใช่การเลือกซื้อของในซูเปอร์มาร์เก็ต ที่จะฟังเพียงแต่โฆษณาเท่านั้น ท่านจะต้องมีความรู้ความเข้าใจรายละเอียดบางประการก่อนตัดสินใจซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล หลายท่านอาจเลือกซื้อโดยพิจารณาเพียงบางด้านของเครื่องเท่านั้นทำให้ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรในการใช้งาน

ดังนั้นจึงขอเสนอว่า อย่าซื้อ PC ถ้า...

- ระบบงานของท่านยังไม่สับสนไม่เป็นระบบ เพราะไม่มีประโยชน์อันใด ถ้างานปัจจุบันยังยุ่งเหยิงแม้แต่ท่านเองยังไม่แน่ใจในขั้นตอนของงาน แล้วท่านจะหวังให้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลมาช่วยจัดงานของท่านให้เป็นระบบได้อย่างไร

- งานของท่านยังมีข้อมูลไม่เพียงพอ หรือขาดการรวบรวม ท่านก็ควรจัดระบบการเก็บข้อมูลโดยใช้พนักงานของท่านให้ดีเสียก่อน แล้วจึงเริ่มนำคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลมาใช้ในขั้นตอนต่อไป เพราะหลายท่านมักเข้าใจว่าคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลนี้ ทำงานได้ทุกอย่างตามที่ท่านต้องการ ส่วนหนึ่งที่สำคัญสำหรับการนำคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเข้ามาใช้งานก็คือ ข้อมูล ท่านต้องการให้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลช่วยตอบคำถามท่าน ท่านก็จะต้องใส่ข้อมูลเบื้องต้นให้แก่เครื่องเสียก่อน

- คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลราคาแสนจะถูก ท่านอาจได้ยินโฆษณาเกี่ยวกับ PC ว่าราคาเพียงไม่กี่หมื่นบาท ท่านอาจนึกว่า PC ชุดนั้นสามารถช่วยงานของท่านได้สารพัด แต่ที่ไหนได้เมื่อลงทุนซื้อมาใช้จริงกลับกลายเป็นของเด็กเล่นไปได้ ท่านโปรดอย่าเข้าใจผิดว่า PC ไม่สามารถช่วยงานทางธุรกิจได้ เพราะที่จริงแล้ว เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลมีมากมายหลายขนาด ท่านควรพิจารณาให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ โดยพิจารณาจากข้อมูลที่ท่านต้องการคำนวณ อุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้

- ท่านอาจได้เห็นการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลมาแล้วทำให้ท่านติดใจความสามารถจนคิดว่า การใช้เครื่องดูท่านจะไม่ยุ่งยากนัก บริษัทตัวแทนจำหน่ายก็บอกาใช้เวลาเพียง 2 วันเท่านั้น ท่านก็จะเป็นผู้ควบคุมเครื่องที่สามารถ หลังจากเป็นเจ้าของเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลจริงๆ แล้ว อาจประสบกับความยุ่งยากในการใช้เครื่อง ท่านจึงควรสังวรให้ดีก่อนเลือกซื้อเครื่อง

- ท่านเคยเห็นโปรแกรมสำเร็จรูปที่สามารถช่วยงานท่านได้อย่างวิเศษ ท่านอาจรีบซื้อทันที เพราะผู้ขายบอกว่า คิดส่วนลดพิเศษเมื่อท่านซื้อเครื่องเท่านั้น แต่ความเป็นจริงแล้วบางบริษัทแจกโปรแกรมสำเร็จรูปเหล่านี้ฟรีแก่ลูกค้า เพื่อดึงดูดลูกค้าก็มี ดังนั้นจึงไม่ควรผลีผลามเลือกซื้อโปรแกรมสำเร็จรูปก่อนที่จะได้มีการวิเคราะห์งานของท่านและพิจารณารายละเอียดของโปรแกรมสำเร็จรูปนั้นอย่างดีพอ จนแน่ใจว่าสามารถใช้กับงานของท่านได้

Home Computer VS. Personal Computer

เมื่อพิจารณาขอบเขตของท่านแล้ว และมีเหตุผลเพียงพอที่จะตัดสินใจซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลมาช่วยงานท่านก็จะประสบปัญหาในการเลือกซื้อเครื่องเข้าอีก ปัญหานี้พอที่จะแยกออกเป็น 2 ส่วนคือ Hardware และ Software

ส่วนของ Hardware นี้ก็คือ ตัวเครื่องที่เห็นๆ กันอยู่ อันประกอบด้วย จอภาพซึ่งอาจจะเป็นจอสีเขียว (Monochrome Display) หรือ จอสี (Color Display), แป้นพิมพ์ (Keyboard) หน่วยความจำ ซึ่งอาจมี 1 หรือ 2 ชุด และ System Unit อันเป็นหัวใจของระบบ

ปัญหาที่ได้กล่าวไว้ตั้งแต่ส่วนแรกนั้น ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการเลือกซื้อเครื่องที่ไม่เหมาะสมกับงาน ดังนั้นจึงขอกล่าวถึงการแบ่งประเภทของเครื่องออกเป็น 2 ระบบอย่างง่ายก็คือ

- Home Computer

- Personal Computer

เครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ในยุคแรกๆ ที่ออกมาสู่ตลาด ส่วนใหญ่จะเป็นเครื่อง Apple ซึ่งเป็นเครื่องขนาดเล็ก เหมาะกับการใช้งานเพื่อความสนุกสนาน เช่น เล่นเกมส์ต่างๆ ต่อมาก็ได้มีการพัฒนาการใช้งานให้เข้ามาช่วยกิจกรรมบางอย่างในชีวิตประจำวัน เช่น การลงบัญชีประจำบ้าน หรือทำเป็นดัชนีค้นหาเบอร์โทรศัพท์ประจำบ้าน ฯลฯ จนถึงบัดนี้ได้มีการพัฒนาขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง คือการใช้คอมพิวเตอร์ขนาดเล็กนี้ช่วยในการสอนหนังสือ (Computer Aid Instruction) หรือที่เรียกว่า CAI จะเห็นได้ว่าขอบเขตการใช้งานของเครื่องเหล่านี้อยู่ในกลุ่มที่เรียกว่า Home Computer ตลาดของเครื่องในกลุ่มนี้ใหญ่พอสมควร จะเห็นได้จากการที่ IBM ได้กระโจนเข้ามาร่วมด้วย โดยออกไมโครคอมพิวเตอร์รุ่น IBM PC JUNIOR ซึ่งเพิ่งจะออกวางตลาดเมื่อต้นปี 1984 นี้เอง

ขอบเขตการใช้งานของเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ได้ขยายอกไปในทางด้านธุรกิจ โดยผู้ใช้เครื่องขนาดเล็กได้ทดลองนำเครื่องไปใช้ในงานสำนักงานบางอย่าง แต่เนื่องจากประสิทธิภาพอันจำกัดของเครื่อง ทำให้การใช้งานไม่ได้ประโยชน์เต็มที่ จึงได้พัฒนาเครื่องใช้มีขนาดใหญ่ขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพของ CPU โดยใช้ 16-bit microprocessor เข้ามาแทนที่ตัวเดิม ตลาดในด้านนี้ได้เริ่มตื่นตัวมากเมื่อ IBM ได้ออก IBM PC ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่มีประสิทธิภาพสูงเข้าสู่ตลาด โปรแกรมสำเร็จรูปในทางธุรกิจได้เริ่มนำเข้าสู่ตลาด ทำให้ธุรกิจแทบทุกประเภทได้ทดลองนำคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลนี้เข้ามาช่วยในงานธุรกิจประจำวัน เครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ในกลุ่มนี้จัดเป็นกลุ่มที่เรียกว่า เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล หรือ PERSONAL COMPUTER

จากการแบ่งเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ออกเป็น 2 กลุ่มดังกล่าวแล้ว คงจะมีประโยชน์ต่อท่านในการเลือกซื้อเครื่อง ควรจะพิจารณาให้ดีถึงขนาดของงานที่ท่านต้องการใช้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลนี้เข้าไปช่วยทั้งในขณะนี้และในอนาคต นอกจากนี้ยังควรพิจารณาถึงการบริการหลังการซื้อ ว่าตัวแทนจำหน่ายใดจะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาได้ดีกว่ากัน จากข้อสังเกตเหล่านี้คงพอที่จะเป็นแนวทางในการเลือกซื้อเครื่องแก่ท่าน

MAKE OR BUY

เมื่อท่านได้เลือกซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลแล้ว ขั้นตอนต่อไปที่ท่านต้องพิจารณาก็คือ SOFTWARE คำว่า SOFTWARE นี้เป็นคำที่มีความหมายค่อนข้างกว้าง แต่พอที่จะแยกออกได้เป็น 3 ส่วน คือ

- OPERATING SYSTEM

- COMPILER

- APPLICATION PROGRAM

ส่วนที่ค่อนข้างจะมีปัญหาก็คือ Application Program เพราะโปรแกรมเหล่านี้เป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้การนำคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลมาช่วยงานดำเนินไปได้ด้วยดี สำหรับท่านที่ไม่สามารถเขียนโปรแกรมเหล่านี้ได้เอง หรือบางท่านอาจไม่มีเวลาพอ ท่านก็คงต้องตัดสินใจดำเนินการประการใดประการหนึ่งจากทางเลือก 2 ประการนี้คือ

- MAKE

- BUY

ที่ว่า MAKE นั้นมิใช่ว่าท่านจะต้องลงมือเขียน Application Program เอง แต่หมายความว่าท่านจะต้องว่าจ้างนักวิเคราะห์ระบบมาทำการศึกษาระบบปัจจุบันของท่าน แล้วออกแบบโครงสร้างการใช้คอมพิวเตอร์ในระบบงานของท่านจนถึงเขียนโปรแกรม การดำเนินการเช่นนี้จะทำให้ท่านสามารถใช้โปรแกรมที่เหมาะกับระบบงานของท่านอย่างยิ่ง แต่มีข้อพึงสังวร 2 ประการ คือ

- ใช้เวลาในการพัฒนาระบบค่อนข้างนาน

- ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง

จากข้อสังเกตดังกล่าวนี้ ทำให้หลายท่านอาจจะเลือกแนวทางที่ 2 คือ การซื้อโปรแกรมสำเร็จรูป ซึ่งส่วนมากจะพัฒนามาจากต่างประเทศวิธีนี้จะดูสะดวกและประหยัดเวลา เพราะเมื่อท่านซื้อโปรแกรมนี้มาท่านก็สามารถใช้งานได้ทันที แต่ก็ยังมีขีดจำกัดบางประการที่ต้องพิจารณาให้ดี คือ

- ขาดฟังก์ชันการทำงานบางอย่าง ทำให้งานไม่ได้เต็มที่ ซึ่งเกิดจากระบบการทำงานของประเทศผู้พัฒนาโปรแกรมอาจแตกต่างกับระบบงานในบ้านเรา

- ฟังก์ชันการทำงานบางอย่างมีมากเกินไป ทำให้การทำงานอืดอาด

แนวทางทั้งสองนี้ ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียด้วยกัน จึงจำเป็นที่ต้องพิจารณาผลได้ผลเสีย (TRADE OFFS) ให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ

โปรแกรมสำเร็จรูปยอดนิยม

หลายท่านอาจสงสัยว่าการใช้โปรแกรมสำเร็จรูปในบ้านเรามีความนิยมเพียงไร ดูเหมือนว่าทุกท่านที่ซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลมาไว้ อาจได้มาจากการซื้อหรือแถมมาให้ก็ได้ อาจจะเป็นโปรแกรมที่พัฒนามาจากต่างประเทศหรือพัฒนาขึ้นในประเทศบ้าง ก็สุดแล้วแต่ กระนั้น พอที่จะสรุปแนวทางการใช้งานออกได้เป็น 3 กลุ่ม คือ

- WORD PROCESSOR

- ELECTRONIC SPREADSHEET

- DATABASE

ในแต่ละกลุ่มก็จะมีโปรแกรมสำเร็จรูปที่แตกต่างกันไปอีกมาก หลายท่านอาจสงสัยว่าในแต่ละกลุ่มนี้ใช้ทำงานอะไรได้บ้าง อาทิ WORD PROCESSOR ก็ใช้สำหรับงานพิมพ์จดหมายหรือเอกสารต่างๆ มีข้อดีกว่าการใช้พิมพ์ดีดก็ตรงสามารถลบหรือเพิ่มคำหรือข้อความได้ค่อนข้างสะดวก หรืออาจย้ายข้อความไปได้ในที่ต่างๆ ทำให้เป็นที่นิยมในหมู่เลขานุการที่ต้องใช้พิมพ์ดีดอยู่เดิม นายจ้างหลายท่านเล็งเห็นประโยชน์ของโปรแกรมนี้ เพราะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเลขานุการ

กลุ่มสุดท้าย เป็นการใช้งานด้านระบบฐานข้อมูล กล่าวคือ เป็นการเก็บข้อมูลไว้ในรูปแบบที่เหมาะสมสำหรับการเรียกออกมาใช้ในโอกาสต่อๆ ไป ตัวอย่างก็คือ การเก็บชื่อ, ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ผู้ที่ต้องติดต่อธุรกิจกับท่านอยู่เป็นประจำหรือการเก็บข้อมูลด้านบุคคล เป็นต้น

ท่านคงจะเห็นประโยชน์ของโปรแกรมสำเร็จรูปบ้าง แต่มิใช่ว่าโปรแกรมสำเร็จรูปจะใช้งานได้เพียงเท่านี้ ยังอาจใช้งานด้านอื่นๆ ได้อีกมากมาย สุดแล้วแต่ความสามารถของท่านที่จะนำคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเข้าไปช่วยงานด้านต่างๆ

เมื่อกล่าวถึงโปรแกรมสำเร็จรูป ก็อดที่จะกล่าวถึงโปรแกรมสำเร็จรูปที่เป็นที่นิยมในอเมริกา เหตุที่ต้องอ้างอิงถึงอเมริกาก็เพราะการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลในบ้านเราเพิ่งเริ่มต้น ข้อมูลต่างๆ ยังไม่มีการรวบรวม จึงต้องอาศัยอ้างอิงตัวเลขของประเทศที่พัฒนาด้านนี้ไปแล้ว อย่างเช่นอเมริกา

การจัดอันดับโปรแกรมสำเร็จรูปยอดนิยมนั้นได้แบ่งออกเป็น 2 ส่วนตามลักษณะการใช้งานคือ โปรแกรมสำเร็จรูปสำหรับธุรกิจ (Business Package) และโปรแกรมสำเร็จรูปสำหรับงานทั่วไป (General-use Package) อันดับของโปรแกรมสำเร็จรูปยอดนิยมได้แสดงไว้ในตารางข้างล่างนี้

อันดับโปรแกรมสำเร็จรูปยอดนิยม

โปรแกรมสำเร็จรูปสำหรับธุรกิจ

1. LOTUS 1-2-3

2. PFS:FILE

3. VISCALC

4. WORDSTAR

5. PFS:GRAPH

โปรแกรมสำเร็จรูปสำหรับงานทั่วไป

1. CHECK EASE

2. TYPE ATTACK

3. MASTER TYPE

4. HOME FINANCIAL MANAGEMENT

5. THE HOME ACCOUNTANT