|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ มิถุนายน 2527
|
|
- ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ของเอ็นซีอาร์ที่ยังเปิดตลาดอยู่มีอะไรบ้าง พวกแคชรีจีสเตอร์แบบแมกคานิคมีขายอยู่ไหม?
- แคชรีจีสเตอร์แบบแมกคานิค...ไม่มี เขาเลิกใช้กันแล้ว ถ้ามีขายก็น้อยมากพวกลูกค้าต่างจังหวัด ไม่มีไฟฟ้าใช้แต่น้อยมาก แทบจะไม่มีแล้วในปัจจุบัน ส่วนใหญ่แคชรีจีสเตอร์ขณะนี้จะเป็นเรื่องของอิเล็ทรอนิกส์ทั้งหมด ในแคชรีจีสเตอร์มันก็แบ่งเป็น 2 ส่วนนะ อันแรกเรียกว่าโลว์แคชรีจีสเตอร์ (LOW-END CASH REGISTER) ส่วนอีกอันเรียกว่าไฮแคชรีจีสเตอร์ (HIGH-CASH REGISTER ข้อแตกต่างระหว่าง 2 ส่วนนี้คือ โลว์เอนด์มันเก็บเงินอย่างเดียวก็อย่างที่เห็นทั่วไป...
- ตามห้างสรรพสินค้า....
- ครับ ตามห้างสรรพสินค้า ตามร้านขายของเล็กๆ แต่บางห้างสรรพสินค้าบางแห่งเป็นไฮเอนด์คือพวกนี้ต่างจากโลว์เอนด์ตรงที่มันมีคีย์ไพร้ซ์ มีไพโรกราฟมากขึ้น พวกภัตตาคารร้านอาหารใหญ่ๆ หรือโรงแรมจะใช้พวกนี้ เพราะคุณสามารถเซตราคาเอาไว้เรียบร้อย พอกดปุ่มตามออร์เดอร์นี่มันจะคำนวณเสร็จว่าเท่าไร แล้วมันยังสามารถต่อเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ ทำหน้าที่เป็นเทอร์มินัลตัวหนึ่ง สามารถคีย์แล้วนำข้อมูลไปเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์หรือเอาข้อมูลจากคอมพิวเตอร์มาใช้ก็ได้ อย่างพวกซูเปอร์มาร์เก็ตต่อไปเขาก็จะต้องเริ่มใช้พวกไฮเอนด์แคชรีจีสเตอร์ ซึ่งตอนนี้เรากำลังเสนอให้พิจารณาหลายที่ โดยเฉพาะพวกที่เรียกว่ายูพีซี (UPC-UNIVERSAL PRODUCTS CODE) พวกนี้จะต้องใช้กับพวกไฮเอนด์โดยต่อพ่วงเข้าด้วยกัน คือ ซูเปอร์มาเก็ตขณะนี้จะพบว่าเวลาคนซื้อของเขาจะซื้อครั้งละมากๆ เป็นคันรถเข็น ถ้าใช้แคชรีจีสเตอร์ธรรมดา กดเอามันช้า คนเข้าคิวรอจ่ายเงินรอยาวเหยียด ก็ต้องใช้ระบบที่พัฒนาขึ้นซึ่งใช้กันมากในต่างประเทศ คือใช้เครื่องอ่านสินค้าแต่ละอย่างกันทีเดียว...
- หมายถึงเครื่องออปติคอลคาแร็คเตอร์รีดเดอร์ (OPTICAL CHARACTER READER-OCR)
- คือออปติคอลคาเร็คเตอร์รีดเดอร์หรือโอซีอาร์นั้นมันมี 2 ส่วน โอซีอาร์ปกติเขาใช้ในดีพาร์ตเมนต์สโตร์ ไม่ได้ใช้ในซูเปอร์มาร์เก็ต อันนั้นการทำงานมันจะช้ากว่ากัน ต้องทำเป็นเครื่องหมายแล้วมีปืนสำหรับใช้มือจับอ่านเครื่องหมายอีกที แต่ยูพีซีมันต่างออกไป มันเป็นโต๊ะตั้ง เพียงเอาผ่านบนโต๊ะมันก็อ่านได้แล้วราคามันจะขึ้นมาที่เครื่องทันที มันจึงสะดวก คุณเอาของจากรถเข็นวางผ่านบนโต๊ะเท่านั้น มันอ่านได้เก่งกว่าโอซีอาร์ คือโอซีอาร์จะต้องอ่านของเรียบๆ พื้นเรียบยับยู่ยี่มันอ่านผิดได้ง่ายๆ อ่านถอยหน้าถอยหลังได้ทั้งนั้น แต่พื้นต้องเรียบแต่ถ้าเป็นสินค้าในซูเปอร์มาร์เก็ตเป็นห่อยับยู่ยี่อย่างพวกบะหมี่มาม่าอะไรพวกนี้โอซีอาร์อ่านลำบาก แต่ยูพีซีอ่านสบาย รูปทรงสินค้าเป็นอย่างไรมันอ่านได้หมด
- เครื่องยูพีซีที่ว่านี้จะต้องพ่วงกับคอมพิวเตอร์ขนาดไหน
- ต่อกับเครื่องซูเปอร์ไมโครก็ทำได้แล้ว
- ราคาประมาณเท่าไหร่?
- เราขายเป็นเซต อยู่ในซูเปอร์มาร์เก็ตเราจะดูว่าต้องใช้กี่เลน 3 เลน 5 เลน อันนี้ขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของลูกค้า ในเซตหนึ่งมันก็จะมีซูเปอร์ไมโครหนึ่งตัว ส่วนใหญ่เฉลี่ยแล้วก็ใช้กัน 4 เลน ต่ำกว่า 4 เลนมันไม่ค่อยคุ้มกับการลงทุน ถ้าเป็นเซตอย่างนี้ก็ตกประมาณ 2-3 ล้านบาท
- จะเริ่มออกตลาดเมื่อไร?
- ปีนี้ละครับ เราจะเริ่มออกตลาดก็คาดว่าพวกดีพาร์ตเมนต์สโตร์ที่กำลังเปิดใหม่ๆ นี้ เขาคงอยากได้เทคโนโลยีใหม่ๆ ไปใช้เพื่อจะให้บริการที่ดียิ่งขึ้น เราก็จะไปทางนี้ทางหนึ่ง
- ทีนี้ด้านพวกเครื่องคอมพิวเตอร์ ที่ผ่านมาเอาพวกเครื่องขนาดไหนเข้ามาขาย
- ก็พวกมินิคอมพิวเตอร์เป็นเมนหลัก นี่ถ้าพูดเฉพาะคอมพิวเตอร์
- เมนเฟรมมีไหม
- เอ็นซีอาร์มี แต่เราไม่ได้นำมาขาย เมืองนอกมีแยะไป โปรดักส์ของเอ็นซีอาร์มีมากป็นร้อยๆ อย่าง มาปีนี้เราก็มีโปรดักส์ใหม่อีก 2 ตัว เป็นซูเปอร์ไมโคร เป็นโปรดักส์ที่จะน่าจะไปได้ดีในอนาคต
- เฉพาะไมโครมีไหม?
- มี…เป็นพวกเปอร์ซอนคอมพิวเตอร์ แต่เราไม่ได้สั่งเข้ามา เท่าที่เราขายป็นพวกมินิฯ คืออย่างว่า เราไม่สามารถขายทุกอย่าง โปรดักส์มันเยอะ ด้านไฟแนนซ์ ด้านแบงกิ้ง อะไรต่ออะไรมากมาย เพราะฉะนั้นเราจะเจาะเป็นอย่างๆ ไปอย่างเช่นปีนี้เราจะมีพวกซูเปอร์ไมโครเข้าตลาด ตัวนี้มันมีความสามารถเท่าๆ กับมินิคอมพิวเตอร์ แต่ราคาถูกกว่าก็ทาวเวอร์ (TOWER) ไง เห็นรึยัง...ว่าที่จริงความสามารถมันอาจจะสูงกว่ามินิคอมพิวเตอร์ด้วยซ้ำ แต่ราคาถูกกว่ากันเป็นเท่าตัว ถ้าเทียบราคากันนะ ขนาดที่เราจะนำออกตลาดราคาเพียง 8 แสนบาท ถ้าเป็นราคาของมินิฯ ในคอนฟิกุเรชั่นเดียวกันจะต้องตกถึง 1ล้าน 5 หรือ 1 ล้าน 6 เมื่อปีที่แล้วหรือปีก่อน
- ตั้งใจจะนำซูเปอร์ไมโครตัวนี้บุกให้หนัก
- ครับ คือฟีเจอร์มันมีมากเหลือเกิน มันสามารถขยายใหญ่จนเกือบเท่าเมนเฟรม
- ต่อพ่วงได้สูงสุดกี่เทอร์มินัล
- ตอนนี้ถ้าต่อตรงได้เลย 16 เทอร์มินัล ไม่พูดถึงว่าถ้าเรามีมัลติเฟลกเซอร์หรืออะไรพวกนี้ ต่อเพิ่มมากกว่านี้ได้อีก โดยทั่วไปถ้าพวกธุรกิจซื้อไปใช้ก็คงต่อประมาณ 10 เทอร์มินัล ไม่ค่อยจะเกินจากนี้ แต่ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ว่าจะต่อกี่จอหรือกี่เทอร์มินัล มันอยู่ที่สตอเรจ (STORAGE) การที่เปอร์ซอลนัลคอมพิวเตอร์มันเอาไปใช้งานใหญ่ๆ ไม่ได้ก็อยู่ที่สตอเรจ สตอเรจของพวกพีซีจะอยู่ที่ 300 เค 360 เค หรืออย่างสูงสุดก็ 700 เค แต่ซูเปอร์ไมโครตัวนี้มันเริ่มต้นก็ 30 เมกะไบต์เข้าไปแล้ว อย่างรายงานล่าสุดเมื่อเร็วๆ นี้มันก็ขยายไปได้ 764 เมก
- มีออร์เดอร์ซูเปอร์ไมโครตัวนี้เข้ามาบ้างแล้วหรือยัง?
- มีแล้ว ปลายปีนี้คงติดตั้งเครื่องแรก ซึ่งออร์เดอร์เรียบร้อยแล้ว คาดว่าปีนี้เราคงขายประมาณ 10 เครื่องเป็นอย่างต่ำ อย่างสูงเราประเมินไว้ 20 เครื่อง
- สำหรับพวกมินิคอมพิวเตอร์ก็ต้องปิดตลาด
- ครับ ก็เอาตัวนี้ไปแทน เพราะต่อไปมินิฯ มันจะอยู่ไม่ได้ ตัวนี้จะมาแทนที่มินิฯ มินิฯ มินิฯ ที่ขายๆ อยู่นั้น มันขายสูงสุดได้ 84 เมกะไบต์ แต่เครื่องนี้เฉพาะฮาร์ดดิสก์ตัวเดียว เล็กจิ๋วนิดเดียวมันก็ 84 เมกแล้ว มันใช้เทคโนโลยีใหม่หมด ทำให้มันเล็กลงประสิทธิภาพมากขึ้นแล้วราคาถูกกว่า
- ที่บอกว่ามีโปรดักส์ 2 ตัว หมายถึงซูเปอร์ไมโครนี้แล้ว ยังมีอะไรอีกอย่าง
- คือหมายถึงซูเปอร์ไมโครตัวนี้จะเป็นเมนหลัก แต่โปรดักส์เดี๋ยวนี้เราจะขาย 2 แบบ แบบหนึ่งขายทั่วๆ ไป บริษัทไหนก็แล้วแต่ อยากซื้อเอาไปใช้ก็ว่าไป อีกแบบเป็นเวอร์ติคัลโปรดักส์ (VERTICAL PRODUCTS) คือนอกจากตัวซูเปอร์ไมโครทาวเวอร์แล้ว เรายังมีโปรแกรมเฉพาะงานด้านนั้นๆ ให้อีก อย่างขณะนี้เราทำพวกระบบของโรงงานผลิตและขายยาเราจะเน้นพวกนี้ คือเอาเครื่องนี้ให้กับบริษัทผลิตและขายยาเอาไปใช้เรามีโปรแกรมการทำงานทุกอย่างที่ผลิตและขายยาเขาทำกันให้พร้อม โปรแกรมพวกนี้เราใช้เวลาถึง 3 ปีพัฒนาขึ้นมา ทดสอบแล้วทดสอบอีกจากของจริง ได้ผลดีมาก
- เพราะฉะนั้นบรรดาบริษัทผลิตและขายยาก็เป็นทาร์เกตกรุ๊ปของเวอร์ติคัลโปรดักส์ตัวนี้
- ใช่ เป็นทาร์เกตกรุ๊ปในขณะนี้
- ฟังมาว่าเครื่องฝากถอนเงินอัตโนมัติหรือเครื่องเอทีเอ็มของเอ็นซีอาร์ดังมาก ทำไมจึงไม่ประสบความสำเร็จ ประกบกับไอบีเอ็มไม่ได้
- ที่จริงเราเอาเข้ามาแล้วก็แข่งขันกันอยู่ แต่ไม่รู้เหมือนกันนะ อยู่ๆ มันพลิกล็อก แล้วไอบีเอ็มนี่พูดจริงๆไม่ใช่ของเอ็นซีอาร์นะ คู่แข่ง...โปรดักส์เราเหนือกว่าไอบีเอ็มเยอะ คู่แข่งของเราคือฟิลิปส์ ดูเหมือนจะยี่ห้อดีโบซึ่งบริษัทไฟฟ้าฟิลิปส์เป็นตัวแทนจำหน่าย พวกนั้นแหละที่มีฟีเจอร์มีฟังก์ชันที่มีความสามารถสู้กับเราได้ ในการทำงานของเอทีเอ็ม
อย่างที่ธนาคารกรุงเทพ เราก็เสนอตัวเข้าไปขายเหมือนกัน เขาจะซื้อทีเดียว 150 ตัว แต่ตอนนี้ ตกลงจะเอาฟิลิปส์ไปลอง คือไม่รู้ว่ามันชอบมาพากลอย่างไร...
- ที่ธนาคารกรุงเทพจะติดตั้งเป็นเครื่องเอทีเอ็มของฟิลิปส์
- ใช่ (พยักหน้า)
- เมื่อตอนที่ธนาคารไทยพาณิชย์จะติดตั้งเครื่องเอทีเอ็ม ทางเอ็นซีอาร์เสนอตัวเข้าไปด้วยหรือเปล่า?
- ไม่ได้เสนอ...ของธนาคารกรุงเทพตอนนี้ผมก็ยังแปลกใจอยู่นะ ทำไมเขาเอาฟิลิปส์
- ก็ฟิลิปส์เขาเข้าไปตั้งแต่ไมโครคอมพิวเตอร์ซีสเต็ม 25 แล้วไม่ใช่หรือ?
- ตั้งแต่ตัวเล็กๆ พวกเทอร์มินัล พวกเทลเลอร์ทั้งหลาย โอ.เค.ที่บอกแปลกใจ หมายถึงว่า คือเอทีเอ็มนี่ปกติมันจะต้องมีตัวคอมพิวเตอร์ที่จะทำงานควบคุมเอทีเอ็มทั้งหมด แต่ฟิลิปส์เขาไม่มีคอมพิวเตอร์ เขาจะขายแต่เอทีเอ็ม ไม่มีตัวคอมพิวเตอร์ที่ใช้ควบคุมการทำงาน ก็ต้องไปฮุกกับคอมพิวเตอร์ของคนอื่น ซึ่งโดยทั่วไปเขาจะฮุกกับไอบีเอ็มบ้างอะไรบ้าง ของธนาคารกรุงเทพที่เอ็นซีอาร์เสนอไปเราใช้คอนเซ็ปต์แบบเดียวกับที่ธนาคารในฮ่องกงเขาใช้อยู่ในขณะนี้ ฮ่องกงเรามีมาร์เก็ตแชร์ 98-99 เปอร์เซ็นต์เฉพาะเอทีเอ็ม โอ.เค.คอนเซ็ปนี้ก็คือ จะต้องมีคอมพิวเตอร์อีกตัวหนึ่งต่างหากสำหรับควบคุมการทำงานของเอทีเอ็ม ไม่ใช่เอาไปฮุกกับตัวเมนเฟรมที่ใช้ๆ อยู่เพราะตัวเมนเฟรมจะต้องคอยดูตัวเทลเลอร์อยู่แล้ว เอทีเอ็มมันเป็นอีกเรื่องหนึ่ง มันทำงานไม่เหมือนเขา มันทำตลอด 24 ชั่วโมงบ้างทำตอนกลางคืนบ้าง ไม่งั้นคุณจะไปแย่งงานส่วนอื่นหมด และการทำงานของเอทีเอ็มมันไม่เหมือนกับเทลเลอร์ เทลเลอร์คุณไม่ต้องมานั่งตรวจว่าโค้ดรหัสคนนี้ถูกไหม มีใครเอาเปอร์ซอนนอลคอมพิวเตอร์ไปเจาะเอาเอทีเอ็มของคุณแล้วก็บอกว่าติดขัดไม่จ่ายเงิน เพราะฉะนั้นพวกนี้จะต้องมีคอมพิวเตอร์พิเศษอีกตัวดูแลอยู่ ทีนี้แบงก์กรุงเทพเขาแปลก คือเขาเอาเอทีเอ็มของฟิลิปส์แล้วเอาคอมพิวเตอร์ของแฮนดอมซึ่งยังไม่มีในเมืองไทยนะเขาจะเอาเข้ามา ส่วนใหญ่เจ้าแฮนดอมในต่างประเทศเขาใช้ตัวสวิตชิ่ง ก็จะเอาเข้ามาสำหรับฮุกกับเครื่องเอทีเอ็มของฟิลิปส์
ตัวที่สำคัญมากกว่านั้นก็คือตัวโปรแกรมที่จะทำงานเอทีเอ็ม ดูเหมือนมีซอฟต์แวร์เฮาส์ที่สิงคโปร์ ชื่อเอซีไอ เป็นคนดีเวลล็อบโปรแกรมนี้ให้ธนาคารกรุงเทพ แต่ของที่เราเสนอนั้นมีครบหมดทั้งเซต รวมทั้งโปรแกรมที่เราใช้รันอยู่ที่ฮ่องกง ยกมาสวมได้ทันที
ที่จริงธนาคารกรุงเทพจะใช้เอทีเอ็มของฟิลิปส์ก็ยังคงอยู่ในขั้นทดลอง คือคอนเซ็ปต์ของเขาทางแบงก์อิชชุเล็ตเตอร์ออฟอินเทนท์ให้ แล้วก็ให้เอามาทดสอบในช่วงแรกดู 15 ตัวอะไรอย่างนี้ คือ ลองทำดูซิ ได้หรือไม่ได้ ถ้าไม่ได้ก็เลิก ไม่เอา อะไรอย่างนี้
- ที่ธนาคารกรุงเทพไม่เอาเอ็นซีอาร์เป็นเพราะราคาแพงเกินไปหรือเปล่า เนื่องจากเอ็นซีอาร์เสนอไปเป็นเซตอย่างนั้น
- ราคามันก็พอๆ กัน แต่ถ้าลองเทอมแล้วรวมทุกอย่างนะ ผมว่าเขาแพงกว่าเราเสียอีก เพราะคอมพิวเตอร์ของเขายังไม่มีในบ้านเรา ค่าบำรุงรักษา การเตรียมสแปร์พาร์ท การเตรียมช่างที่จะต้องดูแล แล้วก็ระบบแบ็กอัพ ผมว่าเขาก็ต้องชาร์จค่าใช้จ่ายพวกนี้มาก ไม่งั้นอยู่ไม่ได้หรอก
- แล้วที่ธนาคารทหารไทยเอ็นซีอาร์เสนอตัวเข้าไปหรือเปล่า?
- ไม่ได้เสนอ
- ทหารไทยคงเลือกใช้ไอบีเอ็ม
- ทหารไทย…ขณะที่ทุกคนบอกว่าเอทีเอ็ม เขาบอกเขาจะเอาเอทีเอ็ม ตอนโน้นนะ คือ เอทีเอ็มของเขาก็คือเครื่องถอนเงินนั่นเอง ไม่ต้องรับฝากเงิน เพราะจากการวิจัยตลาดแล้วพบว่าการทำงานของเอทีเอ็มมันมีแต่ถอนไม่ค่อยมีฝาก เพราะฉะนั้นก็จะตัดส่วนที่ทำงานด้านฝากเงินออกไป เอาแต่ถอนอย่างเดียวเพื่อให้ค่าใช้จ่ายถูกลง แต่จริงๆ แล้วมันไม่ถูกลงเท่าไหร่หรอกครับ คือเครื่องมันแพงที่ถอนไม่ใช่แพงที่ฝาก ฝากนี่มันไม่มีอะไรมาก แต่ถอนมันเป็นคอมพิวเตอร์ไรซ์หมด มันจะต้องไปดูบาลานซ์ว่าเงินมีไหม ถอนแล้วก็ต้องตัดบัญชีมันยุ่งที่สุดตรงนี้ แพงก็แพงตรงนี้
- เพราะฉะนั้นทหารไทยจึงเปลี่ยนใจใช้เอทีเอ็ม
- ครับ...แต่จริงๆ แฟกซิลิตี้ของเอทีเอ็มมันมีมากนะ อย่างผมก็เอาเงินไปฝากเพราะยังไงมันก็เร็วกว่าฝากที่เคาน์เตอร์ แต่อย่างว่า เมืองไทยเรื่องออนเนอร์ซีสต็มเรายังกลัว กลัวฝากเงินมีปัญหา ถ้าลองธนาคารไหนบอกว่าไม่ต้องฝากเงินสด รับฝากเช็คด้วย ผมว่าคนฝากกันเยอะ
- ทำไมเอ็นซีอาร์ไม่เสนอตัวเข้าไปตอนที่ไทยพาณิชย์จะติดตั้งเครื่องเอทีเอ็ม?
- คืองานเรามากนะ ตลาดเราก็เยอะเหลือเกิน เราก็เลยไม่ได้เปิดตลาดนี้ตอนนั้น
- ปกติก่อนจะติดตั้งเอทีเอ็ม จะต้องทำการวิจัยนานไหม?
- ผมว่าดูจากไทยพาณิชย์นี่ก็คงสรุปได้ว่า เขาล้ามากและเรื่องการวิจัยก็คงไม่ต้องทำมากนัก เพราะใกล้ๆ บ้านเราอย่างสิงคโปร์เขาก็ตั้งเกลื่อนไปหมด มันเห็นประโยชน์ได้ไม่ยาก มันอยู่ที่ว่าเราจะลงทุนหรือเปล่า ส่วนธนาคารกรุงเทพเหตุที่เขาคิดก่อนแต่ทำช้ากว่าไทยพาณิชย์ ผมว่าความใหญ่ของเขาเป็นสาเหตุ เขาจะทำนิดหน่อยมันไม่ได้ จะทำใหญ่มันก็ต้องคิดกันนานต้องใช้เวลาพัฒนา ส่วนไทยพาณิชย์ขนาดเขาเหมาะมาก ตั้งเอทีเอ็มแค่ 10 ตัวนี่มันมีความหมายนะครับ แต่ธนาคารกรุงเทพ 10 ตัวนี่ไม่มีความหมาย เห็นไหมเขาลงทีนึง 150 ตัว (หัวเราะ)
- คิดว่าโครงการติดตั้งเอทีเอ็มจะถูกยับยั้งโดยแบงก์ชาติและกระทรวงการคลังไหม?
- ผมว่าคงยับยั้งเขาไม่ได้หรอก นี่ตามความเห็นผมนะ แล้วอย่างที่แบงก์ชาติพูดออกมาเรื่องพูลเอทีเอ็มเอย อะไรเอยซึ่งทำกันในฮ่องกง มันจะทำกันอยู่ในระดับธนาคารเล็กๆ ธนาคารใหญ่คุณไปพูลกับเขาไม่ได้ ธนาคารเล็กเขาไม่สามารถจะมีเอทีเอ็มได้ เขาก็พูลกัน เพราะไม่งั้นเขาก็ไม่มีใช้ แต่ถ้าธนาคารใหญ่ไปพูลกับธนาคารเล็ก พวกธนาคารเล็กก็ขาดทุนซิ อย่างสมมุติคุณเป็นธนาคารเล็กคุณมาพูลกับธนาคารกรุงเทพ กรุงเทพเขามีแอคเคาท์อยู่เป็นหมื่นเป็นแสนแอคเคาท์ ไม่ทันไรเครื่องคุณเงินหมดแล้ว เพราะเครื่องเอทีเอ็มเครื่องหนึ่งมันจุเงินได้จำกัด คุณตั้งไว้เครื่องหนึ่งแต่คนของธนาคารกรุงเทพมาถอนหมด คนของธนาคารคุณไม่ได้ถอนหรอกก็มันพูลกัน ใครไปถอนเครื่องไหนก็ได้ใช่ไหม เพราะฉะนั้นถ้าจะพูลกันมันจะต้องเป็นธนาคารที่มีขนาดใกล้เคียงกัน
- แล้วปัจจุบันผมว่าขณะที่ไทยพาณิชย์มีเอทีเอ็มแล้วอย่างนี้ คุณว่าธนาคารกรุงเทพอยู่ไหวหรือมันจะดึงลูกค้าไปหมด
- ครับ อย่างผมก็ต้องใช้เอทีเอ็ม บัญชีธนาคารอื่นผมปิดหมด
- ทางเอ็นซีอาร์ยังจะสู้ต่อไปไหม ด้านแบงกิ้งโดยเฉพาะเครื่องเอทีเอ็ม
- ก็คงต้องเป็นอย่างนั้น เพราะอย่างเอทีเอ็มของเรานี่นะ พูดไปแล้วเราไม่ได้ซัปพอร์ตโดยทีมเอ็นซีอาร์ในนี้ โปรดักส์พวกนี้มันจะเป็นอินเตอร์เนชั่นเนลโปรดักส์ คือเอ็นซีอาร์ก็คงไม่อยากให้มันมีปัญหา เพราะฉะนั้นเวลาเสนอตัวก็จะเสนอโดยบริษัทเอ็นซีอาร์เป็นทีมงานต่างประเทศ ดูแลเรื่องเอทีเอ็มโดยเฉพาะ การเสนอตัวจึงใช้จ่ายสูงมาก มากันแบบยกทีมและเสนอกันเป็นเซตไม่ใช่ตัวสองตัว ทำกันแบบโปรเฟสชั่นนอล คือพูดถึงเอทีเอ็มแล้ว ทั่วโลกเอ็นซีอาร์ยังขายได้มากสุด ในสหรัฐฯ ยี่ห้อดีโบที่ฟิลิปส์เป็นตัวแทนจำหน่ายครองตลาดมากที่สุด ส่วนย่านอื่นๆ เป็นของเรา
|
|
|
|
|