Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กุมภาพันธ์ 2527








 
นิตยสารผู้จัดการ กุมภาพันธ์ 2527
เก็บตกจากถังขยะ...ธุรกิจสื่อข่าวสารธรรมดาๆ จาก FROM TRASH TO CASH, OR, JUST PHONE MY COMPUTER             
 


   
search resources

Telecommunications
Computer
กอร์ดอน แมททิวส์
VMX, inc.




กอร์ดอน แมททิวส์ บุรุษรูปร่างสูงจากรัฐเทกซัส ท่าทางสุภาพเรียบร้อยแฝงด้วยมาดของชายหนุ่มมีรสนิยมโดยสังเกตจากเครื่องดื่มของเขาเพราะเป็นไวน์ชั้นดี ถ้าดนตรีก็ต้องเป็นแนวคลาสสิก หรือภาพยนตร์ทีวีก็ต้อง DALLAS เขาเป็นทั้งนักประดิษฐ์และนักการค้า เป็นบุคคลที่ได้รับสมญานามในครั้งหนึ่งว่า “ชายหนุ่มจากยุคฟื้นฟูยุโรปรุ่นใหม่” ในวันหนึ่งในปี 1978, นั่นเป็นวันที่เขาพบว่าตัวเองมุดอยู่ภายใต้กองขยะที่สูงขึ้นมาท่วมคอหอยเขา

ขณะนั้นเขายังดำรงตำแหน่งรองประธานอาวุโสของบริษัท Action Communication System บริษัทซึ่งเขาจัดตั้งขึ้นเอง ในระหว่างเกิดเหตุ เขากำลังอยู่ในระหว่างไปเยี่ยมเยียนโรงงานของลูกค้าของเขาแห่งหนึ่ง คือบริษัท John-Manville Corp (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น Manville Corp.) เขากล่าวถึงความหลังว่า “ตอนนั้นผมสังเกตเห็นถังขยะใบหนึ่งสูงราว 10 ฟุต, กว้าง 3 ฟุตและลึกประมาณ 5 ฟุต ผมเดินเข้าไปดู มันเต็มไปด้วยกระดาษจดบันทึกและจดหมายที่ทิ้งแล้ว โดยปกติผมไม่เคยสนใจถังขยะใบนั้น แต่วันนั้นบังเอิญผมสะดุดมันเข้าจริงๆ” เขาจำได้ว่ากระดาษแต่ละแผ่นที่ทิ้งไปนั้นมีค่าถึงแปดเหรียญซึ่งคิดดูว่ามันเป็นการสูญเปล่าเพียงใดเพราะหลังจาก ขีดๆ เขียนๆ แล้วก็ทิ้งไป

เขาคิดว่าปัญหาการติดต่อสื่อสารโดยวิธีนี้ทำให้เสียเวลาเสียเงินเสียทองและไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอโดยเฉพาะกระดาษจดบันทึกโทรศัพท์ (MEMOS) “ก่อนหน้านี้ผมไม่สามารถตามหาตัวคนที่ผมต้องการใช้งานได้ในทันทีที่ผมต้องการพวกเขา” เขากล่าว “ผมคิดว่าถ้าผมสามารถออกแบบคอมพิวเตอร์ซึ่งคุณสามารถติดต่อเข้ามาได้จากโทรศัพท์ทั่วโลกในทุกเวลาที่ต้องการและส่งข้อความที่เป็นเสียงไปยังคนที่คุณต้องการ นั่นเพราะจะเป็นวิธีที่เยี่ยมที่สุด” ในวันนั้นแมททิวส์รีบแจ้นกลับบ้านเพื่อบอกกับภรรยาเขาว่าเขาจะตั้งโรงงานขึ้นใหม่

ห้าปีหลังจากนั้น เครื่องส่งข่าวทางเสียงหรือที่เขาเรียกว่าไปรษณีย์เสียงอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Voice Mail) ก็กำเนิดขึ้นและทำยอดขายได้ประมาณ 20-30 ล้านเหรียญต่อปีและนักวิเคราะห์เชื่อว่าก่อนสิ้นทศวรรษนี้จะสามารถทำยอดขายได้ถึงพันล้านดอลลาร์ทีเดียว ผู้นำตลาดสินค้าตัวนี้คือบริษัท วีเอ็มเอ็กซ์ (VMX inc.-Voice Massage Exchange) ซึ่งนำทีมโดยกอร์ดอน แมททิวส์ แม้ว่าเขาจะพบกับคู่แข่งที่น่ากลัวอย่างเช่น IBM, WANG LABORATORIES และ ROLM แต่ VMX ก็ยังคงเป็นเจ้ายุทธจักรเพราะส่วนแบ่งตลาดที่คะเนว่าสูงถึง 70%

ในขณะที่บริษัทต่างๆ เริ่มค้นพบว่า Voice Massaging เป็นอุปกรณ์สำนักงานอีกชิ้นหนึ่งที่ช่วยลดต้นทุนและเวลาให้พวกเขาได้นั้น บริษัทใหญ่ๆ เช่น 3M, CORNING GLASS WORKS, AMERICAN EXPRESS และ WESTINGHOUSE ELECTRIC คือผู้ได้รับประโยชน์เป็นกลุ่มแรกต่อจากนั้นจึงมีธุรกิจขนาดย่อมที่หันมาเอาอย่างบ้าง มีบางแห่งที่ยอมลงทุนติดตั้งไว้เลย อย่างเช่นBhin & Co. และ Infotron Systems Corp.

ในขณะเดียวกันที่ฝ่ายให้บริการแก่ลูกค้าก็เริ่มขยายบริการตั้งแต่แอตแลนต้าไปจนถึงลอสแองเจลิส ซึ่งเป็นผลให้ธุรกิจขนาดเล็กอย่างเช่น Chiacco Tube & Iron Co. สามารถใช้บริการจากเครื่องนี้ได้โดยไม่ต้องรับภาระติดตั้งตัวเครื่องซึ่งต้องลงทุนประมาณสามแสนเหรียญ ยอดตัวเลขรายรับของฝ่ายบริการของ VMX ในเมืองดัสลัสเพิ่มขึ้นจากสองหมื่นห้าพันเหรียญต่อเดือนในเดือนมกราคม ปี 1992 เป็นสามแสนห้าหมื่นเหรียญต่อเดือนในปีต่อมา Paris Burstyn นักสังเกตการณ์ซึ่งเป็นนักวิเคราะห์อาวุโสของ Yankee Group กล่าวว่าเป็นช่วงที่ตลาดกำลังเริ่มโตขึ้นแล้ว

เครื่องนี้ทำงานเหมือนกับคอมพิวเตอร์กลายๆ คือจากการหมุนหมายเลขพิเศษ ผู้พูดจะสามารถทิ้งข้อความได้ถึงสามนาทีไปยังใครก็ได้ที่อยู่ในข่ายของระบบนี้ เสียงของผู้พูดจะถูกบันทึกด้วยคอมพิวเตอร์ในระบบดิจิตอล (เป็นหนึ่งในสองระบบของคอมพิวเตอร์ ระบบนี้คล้ายกับหลักการที่ใช้ในเครื่องคิดเลขทั่วๆ ไปที่ให้คำตอบออกมาเป็นตัวเลขแบบต่อเนื่อง ส่วนอีกระบบหนึ่งคืออนาล็อกซึ่งจะให้คำตอบแบบไม่ต่อเนื่อง อย่างเช่นพวกนาฬิกาใช้เข็มเป็นต้น- ผู้เขียน) ข้อความซึ่งถูกอัดแล้วนี้จะสามารถนำมาฟังได้ทุกเมื่อที่ต้องการ โดยวิธีนี้จึงทำให้ทั้งผู้พูดและผู้รับสามารถได้รับข่าวสารในเวลาที่สั้นที่สุด คอมพิวเตอร์จะทำหน้าที่ส่งข้อความในเวลาวันและสถานที่ที่กำหนด (“...ถึงคุณจอห์นที่สำนักงานในลอสแองเจลิส ในวันพุธ เวลาบ่ายโมงตรง...”) หรือถึงแผนกทั้งแผนก (“…ถึงทุกคนในแผนกขาย...”) นอกจากนี้ข้อความยังสามารถทำการเรียบเรียง, เพิ่มเติมหรือเรียกกลับได้ (“...บ็อบ, ผมคิดว่าคุณอาจจะต้องการได้ยินสิ่งที่เบอร์นี้จะต้องพูดถึงเกี่ยวกับรายได้จากการลงทุน...”) เหมือนกับการบันทึกเทปทั่วๆ ไปคือคุณสามารถจะถอยเทป, หยุด, เก็บไว้หรือจะลบออกก็ได้

ข้อได้เปรียบของเครื่องมีอยู่มาก ซึ่งไม่เหมือนกับไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Mail) ซึ่งคุณต้องใช้คีย์บอร์ดและรหัส แต่เครื่องนี้จะสามารถทำการติดต่อได้ทุกเวลาและสิ่งที่ต้องใช้ก็มีเพียงเครื่องโทรศัพท์ ความแตกต่างของเวลาท้องถิ่นก็ไม่ต้องคำนึงถึงอีกต่อไป (มีบรรษัทระหว่างประเทศแห่งหนึ่งที่ใช้เครื่องนี้ส่งข่าวจากนิวยอร์กไปยังซานฟราสซิสโกในเวลาหลังจากห้าทุ่มไปแล้วเพื่อที่จะลดค่าใช้จ่ายในการใช้โทรศัพท์ทางไกล) นอกจากนี้ก็มีเครื่องหมายตอบคำถามเป็นตัวเลือกอีกเครื่องหนึ่งซึ่งทำให้บุคคลภายนอกอย่างเช่นลูกค้าของบริษัทสามารถทิ้งข้อความไว้ได้

นอกจากนี้ระบบทั้งระบบนี้ง่ายต่อการใช้, ไม่มีอันตรายและไม่ต้องกังวลเรื่องถูกแทรกคลื่นด้วย

สำหรับข้อเสียมีน้อยมาก เรื่องหนึ่งก็คือเครื่องนี้ไม่สามารถแยกแยะหัวข้อได้ เพราะถ้าแยกได้ก็จะทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกก่อนหลังได้ง่ายขึ้นและข้อเสียอีกอย่างหนึ่งก็คือมันไม่ได้พิมพ์ออกมา

จอห์น ฮายเนส (John Hynes) ผู้จัดการโครงการของฝ่ายพัฒนาการตลาดเครื่องมือสื่อสารของบริษัท HOFFMANN LA ROCHE ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ของวงการเภสัชกรรมและยาได้กล่าวยกย่องเครื่องนี้ไว้อย่างน่าฟัง เขาไม่ได้พูดถึงมัน เขาเชื่อว่าถ้าหากคู่แข่งของเขารู้เห็นอะไรยิ่งน้อยก็ยิ่งดี LA ROCHE ได้เริ่มแบบจำลองเมื่อ 3 ปีก่อน เซ็นสัญญากับฝ่ายบริการแต่ไม่ทันไรก็เปลี่ยนเป็นขอติดตั้งไว้ภายในบริษัทนี้ ปัจจุบันได้ใช้เครื่องนี้เป็น “ข่ายติดต่อสื่อสารหลัก” สำหรับพนักงานทั้งหมดจำนวน1,800 คนซึ่ง 80% ของจำนวนนี้อยู่ในแผนกขายกล่าวว่า “ผลผลิตทั้งหมดในส่วนของบุคลากรได้เพิ่มขึ้น” แต่ฮายเนสก็ปฏิเสธที่จะบอกตัวเลขที่แน่ชัด (ขณะเดียวกันที่แมททิวส์แห่ง VMX กล่าวว่าการใช้บันทึกข้อความและการติดต่อทางโทรศัพท์ของบริษัทได้ลดลงอย่างค่อนข้างแน่นอน)

บริษัทเล็กๆ พบว่าระบบนี้ไม่มีข้อบกพร่องแต่อย่างใดถึงแม้ว่าพวกเขาจะใช้การเช่ากับฝ่ายบริการเพราะเหตุผลทางการเงิน (VMX คิดค่าบริการในการเป็นสมาชิกห้าสิบเหรียญบวกกับยี่สิบห้าเหรียญต่อเดือนต่อบริษัท) ฝ่ายบริหารการเงินของบริษัทประชาสัมพันธ์ว่า “พวกเราเป็นธุรกิจให้บริการ แต่ว่าดิฉันสามารถออกไปจากเมืองโดยลูกค้าจะไม่รู้เลยว่าดิฉันไม่อยู่ในสำนักงาน...มันก็เป็นเรื่องดีละ” เธอกล่าวเพิ่มเติมว่าเมื่อเธอต้องมีปัญหากับการขายบ้านของเธอ เธอได้ใช้นายหน้าคือเครื่อง “ตู้ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์” สำหรับรับโทรศัพท์จากผู้สนใจซื้อ ในที่สุดก็สามารถขายบ้านได้

วันเวลาที่ผ่านไปก็ยังดูเหมือนว่าไม่มีใครค้นพบบางสิ่งใหม่ที่จะนำมาแข่งขันกับเครื่องได้เช่น อย่างเช่นในการที่คณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคที่ลอสแองเจลิสในปี 1984 ก็จะใช้เครื่องติดตั้งในหมู่บ้านนักกีฬาที่ลอสแองเจลิส หรือเมื่อบิดาของ Vladimir Salnikov ได้จัดฉลองให้แก่บุตรชายของเขาในโอกาสที่ชนะการแข่งขันว่ายน้ำประเภทแปดร้อยเมตร เขาก็อาจจะพูดกับเครื่องคอมพิวเตอร์ซึ่งสามารถพูดภาษารัสเซียหรืออีกหลายภาษาได้อย่างคล่องแคล่วและยังสามารถบอกวิธีที่เขาจะทิ้งข้อความไว้ได้อย่างถูกต้องอีกวิธี

ตอนนี้ก็เป็นโอกาสอันดียิ่งของกอร์ดอน อย่างน้อยในขณะนี้ก็มีลูกจ้างอยู่เกือบร้อยคนและยอดขายที่คะเนว่าจะได้ประมาณแปดล้านเหรียญในปีนี้และแมททิวส์ก็ไม่โง่ที่จะทำให้บริษัทของเขาเป็นที่รู้จักในมหาชนแต่สิ่งหนึ่งที่เขายังคงไม่ละทิ้งก็คือ...มองหาถังขยะ ที่น่าจะมีอะไรอีกสักใบ   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us