เป็นอันว่าก็ได้ปิดฉากสุดท้ายไปแล้วสำหรับนิทรรศการคอมพิวเตอร์ไทย’84 ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว

นิทรรศการครั้งนี้ออกจะต่างกว่าทุกๆ ปีที่ผ่านมาหลายอย่าง อย่างเช่นสถานที่ก็ดูใหญ่โตกว้างขวางขึ้น มีจำนวนบริษัทขายคอมพิวเตอร์มาออกร้านเพิ่มขึ้น และที่น่ายินดีมากที่สุดก็คือ ผู้เข้าชมนิทรรศการก็มากเพิ่มขึ้นกว่าทุกๆ ปี

แต่ที่ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงก็คือ พร้อมๆ กับนิทรรศการก็จัดให้มีการสัมมนาครั้งที่ 32 “ผู้จัดการ” ฉบับที่ผ่านมาได้เขียนถึงไปแล้วว่า การสัมมนามีหัวข้อเรื่องอะไรบ้าง และใครมาเป็นวิทยากรในแต่ละหัวข้อ พร้อมกันนั้นในฉบับนี้เราก็ได้ถ่ายทอดการบรรยายบางหัวข้อมาให้อ่านอีกด้วย

มีหลายคนเหมือนกันที่ติงนิดหน่อยว่า นิทรรศการครั้งนี้น่าจะเปลี่ยนเป็น “ไมโครคอมพิวเตอร์’84” เพราะดูจะตรงกับข้อเท็จจริงมากกว่าคำว่า “คอมพิวเตอร์’84” เนื่องจากในจำนวน 120 กว่าบูธของบริษัทผู้ขายคอมพิวเตอร์กว่า 30 รายนั้น จะมีบริษัทที่ขายเครื่องใหม่หรือมินิคอมพิวเตอร์ก็เพียง 2-3 ราย อย่างเช่นไอบีเอ็มซึ่งเอามินิคอมพิวเตอร์ซีสเต็ม 36 มาตั้งแสดงและบริษัทเคี่ยนหงวน วิสาหกิจตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของเอ็นซีอาร์ เป็นต้น เท่านั้น

บริษัทที่เหลือก็เป็นตัวแทนจำหน่ายไมโครคอมพิวเตอร์ทั้งสิ้น

แต่ก็น่าเห็นใจอยู่หรอกเป้าหมายของนิทรรศการนั้นโดยทั่วๆ ไปก็จะเป็นเรื่องของการตลาดควบคู่ไปกับการประชาสัมพันธ์สินค้า (มีบางนิทรรศการในบ้านเราถือเป็นการเลหลังสินค้าถอนทุนค่าเช่าบูธ จัดว่าเพี้ยนไปอีกแบบ)

สำหรับตลาดเครื่องใหญ่ก็คงไม่ได้ประโยชน์เท่าไหร่ เพราะตลาดก็มีจำกัดอยู่แล้ว อีกทั้งคนขายเองก็พอทราบว่าลูกค้าของตนอยู่ตรงไหน ต่างกับเครื่องจิ๋วหรือไมโครคอมพิวเตอร์ราคาแค่หมื่นหรืออย่างมากก็แค่เงินแสน ซึ่งตลาดกว้างขวางกว่ากันมาก เพราะฉะนั้นนิทรรศการจึงสามารถอำนวยประโยชน์ให้ได้ในแง่ที่คนขายจะได้มีโอกาสประชาสัมพันธ์สินค้าของตนต่อสาธารณชนในขณะเดียวกันก็ทำให้มีโอกาสพบกับลูกค้าเพิ่มขึ้นด้วย

แต่ถึงจะมีเพียงเครื่องไมโครฯ เป็นส่วนใหญ่ นิทรรศการครั้งนี้ก็ยังต้องนับว่าน่าสนใจและเด่นกว่าทุกครั้งและทุกงานที่บังเอิญมีคอมพิวเตอร์เป็นสินค้าตัวหนึ่งประดับอยู่ นอกจากนี้ใครที่กำลังหาซื้อไมโครฯ อยู่ไปงานนี้กลับมาก็คงรู้สึกว่า ไม่เสียเที่ยวและไม่ผิดหวัง เพราะมีข้อมูลประกอบการตัดสินอีกพะเรอ นอกจากชมการสาธิตด้วยตาตัวเองแล้ว เอกสารที่แต่ละบริษัทแจกก็นำมาทบทวนเป็นข้อมูลพื้นฐานเพื่อตอกย้ำความแน่นอนก่อนตัดสินใจได้อีกด้วย

เรื่องเอกสารที่แจกนี่ ก็เห็นได้ชัดว่าคนขายเขาลงทุนกันแข็งขัน และคงไม่เกินจริงแน่ถ้าจะเอาเอกสารจากทุกบูธแล้วก็คงต้องหอบลงมา กลุ่มสหวิริยาซึ่งเช่าไว้ถึง 9 บูธตรงมุมที่เด่นที่สุดของงาน ดูเหมือนจะรู้ปัญหานี้ล่วงหน้า (เพราะแจกไม่อั้นที่สุด) จึงลงทุนทำช้อปปิ้งแบ็กอย่างดีสำหรับให้ผู้ชมเพื่อบรรจุเอกสารที่ได้รับแจกในงาน

ก็ถือเป็นน้ำจิตน้ำใจแบบคนไทยจริงๆ

สหวิริยากรุ๊ป ก็อย่างที่คุยกับ แจ๊ค เอ็ม.ซี.ฮู กรรมการบริหารไปเมื่อฉบับที่แล้วนั่นแหละ ที่ต้องเช่าไว้ถึง 9 บูธก็เพราะเขามีอยู่ด้วยกัน 3 บริษัท เป็นตัวแทนจำหน่ายไมโครฯ และเครื่องพิมพ์เอปซอนไมโครฯ ยี่ห้อโอกิ แล้วก็ยี่ห้อไซโก้ ในนิทรรศการครั้งนี้ก็เอาผลิตภัณฑ์มาแสดงครบ ไม่ว่าจะเป็นไมโครฯ เอปซอนคิเอ็กซ์-10 เครื่องพิมพ์เอปซอนและดิสก์ไดร์ฟเอปซอน เอพี-200 เป็นต้น

บูธใกล้ๆ กับสหวิริยา มองมาทางขวามือก็เป็นไอบีเอ็ม พีซี ตั้งประกบกันทั้งค้าสากลซิเมนต์และคอมพิวเตอร์ยูเนียน 2 ตัวแทนจำหน่าย

ค้าสากลซิเมนต์นั้นถือโอกาสนำฟีเจอร์ภาษาไทยที่เพิ่งพัฒนาเสร็จมาแสดง ส่วนคอมพิวเตอร์ยูเนียนก็ลงทุนเปิดห้องรังสิตที่โรงแรมไฮแอทเซ็นทรัลติดๆ กันไว้อีกที่หนึ่ง สำหรับลูกค้าที่ต้องการชมการสาธิตอย่างจุใจก็ไปชมกันได้ที่นั่นไม่ต้องยื้อแย่งดูในงานกับคนอื่น นับว่ารอบคอบอย่างยิ่ง

ส่วนบางกอกเดต้าเซ็นเตอร์ ก็นำดิจิตอลรุ่น พีซี 100, พีซี 100+ และพีซี 350 มอนิเตอร์กับเครื่องพิมพ์พร้อมมาแสดง

เป็นตัวอย่างสั้นๆ หวังว่าปีหน้าฟ้าใหม่จัดให้ได้คึกคักเท่านี้หรือมากกว่านี้ก็คงดีเป็นแน่