แผนแม่บทการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ กำหนดให้มีการจัดตั้งตลาดกลางซื้อขายไฟฟ้า
(Power Pool) ในปี 2546 และจะเปิดให้มีผู้ค้าปลีกไฟฟ้าหลายราย ซึ่งผู้ใช้ไฟจะไม่จำเป็นต้องซื้อไฟฟ้าจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
(กฟภ.) และการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) อีกต่อไป
หมายความว่าสามารถเลือกซื้อจากผู้ค้าปลีกรายใดก็ได้ โดยผู้ค้าปลีกดังกล่าวจะไปซื้อไฟฟ้าจากตลาดกลางซื้อขายไฟฟ้าหรืออาจจะไปทำสัญญากับผู้ผลิตไฟฟ้าโดยตรง และส่งไฟฟ้ามาตาม
สายของ กฟภ. หรือ กฟน. ซึ่งจะทำให้เกิดการแข่งขันในการขายไฟฟ้าให้กับผู้ใช้
ไฟทั้งในด้านราคา และคุณภาพการบริการ
ในระบบปัจจุบัน จะมีการกำหนดค่าไฟฟ้าในระดับ ที่ทำให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.)
มีฐานะทางการเงินที่ดีเพียงพอ ที่จะขยายงานต่อไปในอนาคต และมีเงินจ่ายคืนเงินต้น และดอกเบี้ย
หมายถึงถ้าการไฟฟ้าดำเนินงานขาดประสิทธิภาพ กิจการไฟฟ้าก็ยังจะได้รับความคุ้มครองตลอดอายุงานของโรงไฟฟ้าจากวิธีการกำหนดค่าไฟฟ้าในปัจจุบัน
"การซื้อขายไฟฟ้าในตลาดกลาง โรงไฟฟ้า ที่ไม่มีประสิทธิภาพจะไม่สามารถเสนอราคา ที่แข่งขันกับโรงไฟฟ้า
อื่นได้ และจะไม่ได้รับการคัดเลือกให้เดินเครื่องผลิตไฟฟ้า ซึ่งก็จะไม่มีรายได้"
ดร.ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ผู้ตรวจราชการประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และประธานคณะอนุกรรมการประสานการดำเนินงานในอนาคตของการไฟฟ้ากล่าว
ดังนั้น การมีตลาดกลางจะทำให้โรงไฟฟ้าทุกโรง ไม่ว่าจะเป็นโรงเก่าหรือโรงใหม่ต้องปรับปรุงประสิทธิภาพอยู่ตลอดเวลา
มิฉะนั้น จะไม่มีโอกาสขายไฟฟ้าได้ ซึ่งการเพิ่มการแข่งขันโดยให้มีตลาดซื้อขายไฟฟ้า และให้มีการซื้อไฟฟ้า
จากผู้ค้าปลีกหลายรายจะทำให้มีการแข่งขันมากขึ้น
"ไฟฟ้าเป็นธุรกิจ ที่ผูกขาดมาโดยตลอด เราต้องการให้ประชาชนมีทางเลือกมากขึ้นในการซื้อไฟฟ้าโดยการ
ผ่านตลาดกลางซื้อขายไฟฟ้า" ดร.ปิยสวัสดิ์บอก
ตลาดกลางการซื้อขายไฟฟ้าประกอบด้วย 3 หน่วยงานหลักคือ ศูนย์ควบคุมระบบอิสระเป็นผู้สั่งการเดินเครื่องโรงไฟฟ้า และควบคุมระบบไฟฟ้า
ศูนย์ปฏิบัติการทางการตลาด ทำหน้าที่กำหนดราคาค่าไฟฟ้าในตลาดกลาง และ ศูนย์บริหารการชำระเงิน
จะดูแลทางด้านการเงิน บัญชี และการชำระเงินค่าซื้อขายไฟฟ้า
สำหรับผู้ที่จะเข้ามาควบคุมดูแลตลาดกลางดังกล่าว ขณะนี้ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ระหว่าง ที่ปรึกษาโครงการ
คือ อาเธอร์ แอนด์เดอร์สัน กับกฟผ. โดยที่ปรึกษาต้องการให้ตลาดกลางการซื้อขาย
ไฟฟ้าเป็นอิสระแต่เป็นหน่วยงานของรัฐ ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับผู้ซื้อ และผู้ผลิตไฟฟ้า
ขณะที่กฟผ.ต้องการจะให้ตลาดกลางนี้อยู่ภายใต้กฟผ. เพราะหลังจากแปรรูปโรงไฟฟ้าเสร็จเรียบร้อย
กฟผ. จะเหลือแค่บริษัทระบบสายส่งไฟฟ้าเท่านั้น ดังนั้น การที่สายส่งจะอยู่กับศูนย์กลางนี้ก็ไม่น่าแปลกอะไร
"ถ้าเป็นเช่นนั้น จริงอาจมีการลำเอียงในการซื้อขายไฟฟ้าผ่านตลาดกลางได้ และจะทำให้ผู้ที่เข้ามาซื้อขาย
ขาดความมั่นใจ และไม่อยากเข้ามาลงทุน" ดร.ปิยสวัสดิ์กล่าว
การซื้อขายไฟฟ้าในตลาดกลางซื้อขายไฟฟ้า จะใช้หลักการของการประมูลราคาแทนการซื้อขายในรูปของสัญญาระยะยาว
โดยพิจารณาโรงไฟฟ้า ที่เสนอราคาต่ำที่สุดให้ผลิตไฟฟ้าก่อน แล้วจึงเลือกโรงไฟฟ้า ที่มีราคาสูงขึ้นเป็นอันดับต่อไปตามลำดับ
จนถึงโรงไฟฟ้าโรงสุดท้าย ที่สามารถผลิตรวมกันแล้วได้ปริมาณไฟฟ้าตามความต้องการ
สำหรับราคาซื้อขายไฟฟ้า ที่ผู้ใช้ไฟฟ้าจะรับซื้อจากโรงไฟฟ้านั้น จะเป็นราคาค่าไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าแห่งสุดท้าย ที่ได้รับเลือกเป็นผู้ผลิตไฟฟ้า