Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ พฤษภาคม 2548








 
นิตยสารผู้จัดการ พฤษภาคม 2548
ลงทุนสไตล์ NASSET             
โดย ปัณฑพ ตั้งศรีวงศ์
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนชาต, บลจ.

   
search resources

ธนชาต, บลจ.
Funds




การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ของนักลงทุนรายย่อย บ่อยครั้งจะเป็นไปตามกระแสที่เกิดขึ้น จังหวะในการลงทุนอาจไม่เหมาะสมทำให้ผลตอบแทนที่ได้รับไม่สม่ำเสมอ การศึกษาหลักการของนักลงทุนสถาบัน อาจช่วยให้เห็นโอกาสของการลงทุนได้ชัดเจนขึ้น

ในช่วงปัจจุบันที่ภาวะตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังไม่มีทิศทางที่ชัดเจน ปัจจัยต่างๆ ที่มากระทบต่อการลงทุนในช่วงนี้ก็เป็นปัจจัยลบเสียเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้นหรือแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่อาจจะปรับเพิ่มขึ้นในเร็ววันนี้ นักลงทุนอาจยังไม่แน่ใจว่า จะลงทุนอย่างไรดี การศึกษาแนวทางการลงทุนของนักลงทุนสถาบัน โดยเฉพาะกองทุนรวมอาจช่วยให้เห็นแนวทางหรือโอกาสในการลงทุนที่ชัดเจนขึ้น

บลจ.ธนชาติ หรือ NASSET หนึ่งในบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมที่ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ยุคเริ่มต้นของวงการกองทุนรวมเมื่อ 13 ปีก่อนและล่าสุดเพิ่งได้รับ 2 รางวัล การบริหารกองทุนจากโพสต์ลิปเปอร์ จากผลงานปี 2547 ที่ผ่านมา ได้แก่ Best Overall Group over Three Years และ Best Bond Group over Three Years แม้จะได้มาเพียง 2 รางวัล แต่หนึ่งในนั้นก็เป็นรางวัลใหญ่ที่สุด ซึ่งสร้างความภูมิใจให้กับ ม.ล.ผกาแก้ว บุญเลี้ยงกรรมการผู้อำนวยการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร รวมทั้งทีมงานของ บลจ.ธนชาติ เป็นอย่างมาก

แนวทางการบริหารกองทุนของธนชาติจะให้ความสำคัญกับทีมเวิร์ก โดยผู้จัดการกองทุนที่มีอยู่ 11 คนจะร่วมให้ความคิดเห็นต่อแนวโน้มการลงทุน ทั้งในภาพใหญ่ในด้านแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศ อัตราดอกเบี้ย แนวโน้มราคาน้ำมัน และในสเกลที่เล็กลงซึ่งได้แก่ข้อมูลเกี่ยวกับอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อนำมากำหนดแนวทางการลงทุน แต่สิ่งที่สำคัญคือการตัดสินใจในการลงทุนล่วงหน้าก่อนที่เหตุการณ์ต่างๆ จะเกิดขึ้น เพื่อปรับการลงทุนให้ได้รับผลประโยชน์หรือลดผลกระทบจากแนวโน้มของเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นให้มากที่สุด

"การตัดสินใจของนักลงทุนทั่วไปเป็นการตัดสินใจจากเหตุการณ์ปัจจุบัน แต่ผู้จัดการกองทุนจะตัดสินใจไปข้างหน้า เขาคิดไว้ก่อนว่าถ้าสถานการณ์อย่างนี้ดอกเบี้ยจะขึ้นหรือลง น้ำมันที่ขึ้นจะขึ้นไปถึงไหน เขาจะคิดไว้ก่อนว่าถ้าดอกเบี้ยขึ้น น้ำมันขึ้น เซกเตอร์ไหนจะกระทบ การคิดไปข้างหน้าจะทำให้เราวางแผนการลงทุนได้ก่อน" ม.ล.ผกาแก้วกล่าวกับ "ผู้จัดการ"

สำหรับปัจจัยที่มีผลต่อการลงทุนในขณะนี้ธนชาติมองว่า นอกจากราคาน้ำมันและแนวโน้มการปรับอัตราดอกเบี้ยแล้ว เงินเฟ้อก็ยังเป็นปัจจัยที่สำคัญอีกประการหนึ่งซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงได้และจะส่งผลกระทบโดยตรงกับการบริโภคของประชาชน รวมทั้งภาวะภัยแล้งที่เกิดขึ้นก็ส่งผลกระทบเช่นกันและปัจจุบันเริ่มเห็นผลบ้างแล้วจากสินค้าบางประเภทที่มีกลุ่มลูกค้าหลักเป็นเกษตรกรเริ่มมียอดขายลดลง

จากปัจจัยดังกล่าวนี้เองธนชาติให้ความสนใจในการลงทุนไปในหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภค อาทิ ไฟฟ้าและพลังงาน เนื่องจากจะได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่างๆ น้อยมาก อีกทั้งกระแสเงินสดที่ได้รับยังมีความแน่นอนสม่ำเสมอ นอกจากนี้ยังมีบริษัทในภาคการผลิต (real sector) เช่น ปูนซีเมนต์ ปิโตรเคมี ที่ธุรกิจยังมีแนวโน้มไปได้ดี ขณะที่กลุ่มที่หลีกเลี่ยงหรือต้องพิจารณาให้มากขึ้นได้แก่ บริษัทที่ผลิตสินค้าหรือบริการเพื่อการบริโภคที่ไม่มีความจำเป็น โดยเฉพาะถ้าเป็นสินค้าที่มีการแข่งขันสูงและมีมาร์จินต่ำ เมื่อต้นทุนสูงขึ้นก็อาจมีผลกระทบกับฐานะการเงินได้

ปัจจุบันธุรกิจการจัดการกองทุนรวมมีมูลค่ารวมทั้งระบบ (ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2547) 1.1 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 20% ของยอดเงินฝากทั้งระบบที่มีถึง 5.497 ล้านล้านบาท ขณะที่กองทุนรวมที่เสนอขายต่อผู้ลงทุนทั่วไปมีมูลค่า 4.85 แสนล้านบาทหรือ 8.83% ของยอดเงินฝาก ทั้งระบบ

ในจำนวนนี้มีกองทุนที่ บลจ.ธนชาติ บริหารอยู่รวมทั้งสิ้น 45 กองทุน มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (ณ วันที่ 25 มีนาคม 2548) เท่ากับ 28,617 ล้านบาท แบ่งเป็นกองทุนเปิด 30 กองทุน มูลค่าทรัพย์สินสุทธิรวม 18,838.64 ล้านบาท กองทุนปิด 6 กองทุน มูลค่า 4,394.28 ล้านบาท และกองทุนเปิดที่เสนอขายครั้งเดียว 9 กองทุน มูลค่ารวม 5,385.03 ล้านบาท

ในไตรมาสแรกที่ผ่านมา ธนชาติออกกองทุนจำนวน 5 กองทุน รวมมูลค่าการระดมทุน 3,019.47 ล้านบาท โดยทั้งหมดล้วนเป็นกองทุนตราสารหนี้ ที่เป็นเช่นนั้นเพราะทิศทางในตลาดหุ้นยังไม่ชัดเจน จังหวะของกองทุนหุ้นจึงยังไม่เหมาะสม ประกอบกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยอาจปรับสูงขึ้น ทำให้การลงทุนต้องเลือกลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น เพื่อลดความเสี่ยงจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ย

สำหรับการออกกองทุนใหม่ในช่วงที่เหลือของปีนี้ ธนชาติจะเน้นไปที่ customized fund ที่มีมูลค่าไม่สูงมากและมีกำหนดอายุกองทุนแน่นอน ลงทุนใน fixed portfolio เจาะขายตรงให้กับผู้ลงทุนรายใหญ่ที่พร้อมลงทุนระยะปานกลางและระยะยาว โดยการออกกองทุนประเภทนี้จะเลือกออกในจังหวะที่มีโอกาสการลงทุนที่เหมาะสม

ส่วนการออกกองทุนใหม่ที่นอกเหนือไปจาก customized fund จะยังไม่มีในปีนี้ เนื่องจากธนชาติเห็นว่ากองทุนที่มีอยู่ในปัจจุบันครอบคลุมนโยบายการลงทุนทั้งหมดแล้ว สามารถรองรับความต้องการของผู้ลงทุนได้อย่างครบถ้วน จึงไม่มีความจำเป็นที่จะออกกองทุนใหม่เพิ่มขึ้นอีก   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us