|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ดีแทคปรับโครงสร้าง ให้ "ธนา" รับผิดชอบการหาลูกค้าใหม่ทั้งระบบโพสต์เพดและพรีเพดแบบเบ็ดเสร็จครบวงจร ในขณะที่ "สันติ" โฟกัสการให้บริการลูกค้าเก่าพร้อมพัฒนาบริการเสริมต่อยอดจากบริการหลัก เพื่อเป้าหมายลูกค้าใหม่ 1.2 ล้านราย ตามนโยบาย "วิชัย" ที่ต้องคุม Churn Rate ให้อยู่และคุมลูกค้าใหม่ให้เข้าเป้า ด้วยแผนการรบที่หวังชนะแบบยั่งยืน
นายวิชัย เบญจรงคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วมบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือดีแทค กล่าวว่า ดีแทคได้ปรับโครงสร้างองค์กรใหม่เหลือเพียง 5 กลุ่มประกอบด้วย 1.Commercial Group 2.Customer Group 3.Technology Group 4.Organization & Development Group และ 5.Finance Group โดยที่การปรับโครงสร้างดังกล่าว เนื่องจากดีแทคต้องการชนะในสงครามการตลาดแบบยั่งยืน ไม่ใช่รบชนะแค่วันนี้หรือพรุ่งนี้ สิ่งที่ดีแทคปรับกระบวนการทำงานภายใต้ความเชื่อว่าเป็นการปรับตัวก่อนอุตสาหกรรมที่จะปรับตามมา ซึ่งเกิดขึ้นในอดีตไม่ว่าจะเป็นการปลดล็อกรหัสประจำเครื่องมือถือหรืออีมี่ การคิดค่าโทร.เป็นวินาทีหรือการรุกตลาดโพสต์เพดอย่างจริงจัง โดยที่ไม่เชื่อว่าตลาดจะอิ่มตัว
"การปรับครั้งนี้เพื่อรองรับการแข่งขัน ดูแลลูกค้าได้อย่างมีคุณภาพ เป็นการคุม Churn Rate หรือยอดเลิกใช้บริการให้อยู่ และคุมลูกค้าใหม่ให้เข้าเป้าให้ได้"
ภายใต้โครงสร้างใหม่ที่จะเริ่มใช้วันที่ 1 พ.ค. นายธนา เธียรอัจฉริยะ จะรับผิดชอบในเรื่อง Commercial Group ซึ่งจะดูแลการหาลูกค้าใหม่ทั้งระบบโพสต์เพดและพรีเพด ดูแลเรื่องช่องทางจำหน่าย การทำแบรนดิ้ง เป็นการทำตลาดแบบเบ็ดเสร็จ 360 องศา ซึ่งจะทำให้การบริหารงานกระชับ รวดเร็ว การใช้ทรัพยากรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นายวิชัยกล่าวว่า ดีแทคเชื่อว่าปัจจุบันลูกค้าไม่ได้มีซิมการ์ดหรือมีเบอร์เพียงเบอร์เดียว แต่ละคนกำลังมองหาความเหมาะสมในการใช้งานในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งซิมการ์ดแต่ละใบจะตอบสนองความต้องการลูกค้าดังกล่าว ทำให้ดีแทคเชื่อว่าตลาดยังมีโอกาสเติบโต โครงการนี้จะทำให้ดีแทคได้ยอดลูกค้าใหม่ที่ตั้งเป้าหมายไว้ 30% ของตลาดรวม หรือประมาณ 1.2 ล้านเลขหมาย โดยที่ผ่านไตรมาสแรกไปแล้วดีแทคทำยอดได้ 3.26 แสนเลขหมาย ก็ถือว่าเป็นไปตามเป้าหมาย
"ด้วยเป้าหมายที่วางไว้สิ้นปี การแข่งขันในตลาด ปัจจัยลบต่างๆ ที่เข้ามากระทบไม่ว่าจะเป็นเรื่องการถูกบล็อกสัญญาณ ปัญหาเรื่องเลขหมายโทรศัพท์กำลังจะหมด การจัดระเบียบซิมการ์ด ทำให้ดีแทคจำเป็นต้องปรับโครงสร้างเพื่อให้เดินไปถึงเป้าหมายที่วางไว้"
ส่วน Customer Group จะมีนายสันติ เมธาวิกุล เป็นคนรับผิดชอบซึ่งจะแบ่งงานออกเป็น 2 ด้าน คือด้านที่จะต้องพบปะกับลูกค้าหรือ Customer Facing จะมีงานด้านคอลเซ็นเตอร์ ดีแทคชอป ศูนย์บริการ เซอร์วิสฮอล กับงานด้านการพัฒนาลูกค้า หรือ Customer Development หรือ Customer Management ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับด้านบริการเสริม (VAS) ด้านบิสิเนส โซลูชัน อินเตอร์ เนชันแนล บิสิเนส หรือการให้บริการโรมมิ่ง โดยลักษณะจะเป็นการต่อยอดจากบริการหลักด้านเสียงที่อยู่ เป็นการพัฒนาบริการที่ลูกค้าต้องการ ต่างจากเดิมที่ตั้งเป้าหมายรายได้ไว้ก่อนแล้วลงทุนพัฒนาบริการ ซึ่งบางทีทำให้ไม่คุ้มค่ากับการลงทุน
นอกจากนี้ ยังมีเรื่อง CRM โดยที่จะมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยดีแทคจะหาโซลูชันที่จะเป็นแคมเปญกลาง หลังจากนั้นจะมีกิจกรรมที่เหมาะกับแต่ละบริการอย่างแม็กซิไมซ์ ZAD หรือแฮปปี้ โดยจะเป็นกิจกรรมที่จัดตรงไปถึงกลุ่มลูกค้า
ด้านนายสันติกล่าวว่า เป้าหมายของ Customer Group ที่ชัดเจนคือต้องให้ยอด Churn Rate ลดลงจากปัจจุบันที่ระบบพรีเพดอยู่ที่ประมาณ 5% และระบบโพสต์เพด อยู่ที่ประมาณ 2.5%
นายธนา เธียรอัจฉริยะ ผู้อำนวยการกลุ่มแฮปปี้ ดีแทคกล่าวว่า เพื่อเป็นการรับกับโครงสร้างใหม่ และเป็นการแก้ปัญหาโปรโมชันที่มีมากมายในตลาด ดีแทคได้เปิดกลยุทธ์ใหม่ โดยทำให้โปรโมชันของระบบโพสต์เพดกับพรีเพดมีอัตราเดียวกัน คือโปรโมชันไฉไลจากแฮปปี้ จะคิดค่าบริการนาทีแรก 5 บาท นาทีต่อไป 25 สตางค์ เหมือนกับแพกเกจ ZAD
"คอนเซ็ปต์ของโปรโมชันดีแทคต่อไปคือดีแทคพูดแล้ว เข้าใจง่ายไม่มีดอกจัน"
นอกจากนี้ แฮปปี้ยังเปิดเลขหมายมหัศจรรย์ *1003 ให้เป็นแหล่งรวมโปรโมชันแบบเติมเงินทุกประเภทที่กำลังได้รับความนิยมในตลาด โดยให้ลูกค้าสามารถโทร.เข้าไปเปลี่ยนแปลงได้ตามใจชอบเสียค่าบริการครั้งละ 3 บาท ซึ่งโปรโมชันดังกล่าวจะยึดหลักเท่ากับออเร้นจ์ หรือดีกว่าวัน-ทู-คอล เนื่องจากเป้าหมายของธนาชัดเจนว่าต้องการจูงใจให้ลูกค้าวัน-ทู-คอลย้ายมาใช้บริการแฮปปี้หรือ ZAD ก็ได้ตามใจชอบ
นายวิชัยกล่าวว่า ดีแทคได้ส่งหนังสือขอเลขหมายโทรศัพท์เพิ่มเติมจำนวน 2.5 ล้านเลขหมาย ไปยังคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ตั้งแต่ปลายเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา และจะเข้าพบเพื่อสอบถามความคืบหน้ารวมทั้งขอให้กทช.เป็นแกนกลางในการแก้ปัญหาเรื่องการบล็อกสัญญาณในวันอังคารที่ 3 พ.ค.ที่จะถึงนี้ เนื่องจากดีแทคมีเลขหมายจะขายได้อีกเพียง 2 เดือน หรือภายในสิ้นเดือนมิ.ย.ที่จะถึงนี้เท่านั้น
|
|
|
|
|