เดือนตุลาคมปีที่แล้ว บริษัทฮัทชิสัน ซีเอที ไวร์เลส มัลติมีเดีย จำกัด หรือ ฮัทช์ โอเปอเรเตอร์น้องใหม่ของเมืองไทย ตัดสินใจเปิดตัว Aircard หรือ PCMCIA Card การ์ดที่รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไร้สายในโน้ตบุ๊ก ในราคาเริ่มต่ำกว่าเจ้าอื่นๆ ในตลาดทั้งหมด แค่สองเดือนให้หลังสินค้าดังกล่าวก็หมดลงในพริบตา

ความสำเร็จดังกล่าวนี้เอง เป็นที่มาของแนวความคิดในการที่จะสร้างตัวเองให้เป็น "Wireless Broadband Provider" ของฮัทช์ในเวลาต่อมา

ฮัทช์เองเชื่อว่าตัวเลขของจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยประมาณการกันกว่าปีนี้ทั้งปีจะมีจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงอาจจะมากถึง 500,000 คน จากจำนวน 200,000 ราย ในปีที่ผ่านมา

ขณะเดียวกันจำนวนผู้ใช้โน้ตบุ๊กยังจะเพิ่มขึ้นอีกหลายแสนคน เนื่องจากยอดขายตามการคาดการณ์ปีนี้พบว่าโน้ตบุ๊กน่าจะขายได้ราว 250,000 เครื่องเลยทีเดียว ประกอบกับฮัทช์ได้เปรียบกว่าโอเปอเรเตอร์รายอื่น เนื่องจากเป็นผู้ให้บริการระบบโทรศัพท์ที่ถือว่ามีความเร็วสูงที่สุดในประเทศขณะนี้ การผันตัวเองมาเป็นผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ไร้สายจึงไม่ไกลความจริงในความคิดของฮัทช์มากนัก

ฮัทช์เริ่มต้นแนวความคิดดังกล่าวของตนเองด้วยการเปิดตัว "แอร์พลัส" โมเด็มบรอดแบนด์ไร้สายออกสู่ตลาดด้วยราคาที่ต่ำและคุณสมบัติพิเศษในตัวเพื่อกระตุ้นตลาดอินเทอร์เน็ตไร้สายให้ เพิ่มสูงขึ้น

"แอร์พลัส" เป็นอุปกรณ์ที่รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ด้วยสัญญาณโทรศัพท์ CDMA 20001X ของฮัทช์ ให้กับทั้งโน้ตบุ๊ก และพีซีโดยผ่านทางพอร์ตยูเอสบี ซึ่งถือเป็นจุดเด่นที่เหนือชั้นกว่า Aircard ที่วางขายอยู่ทั่วไป ที่ผู้ใช้พีซีจะใช้งานได้ต้องซื้ออุปกรณ์เชื่อมต่อที่มีราคาแพงต่างหาก ทำให้จำกัดเฉพาะผู้ใช้โน้ตบุ๊กเท่านั้นที่จะสามารถใช้งานได้

นิรันดร ทนงศักดิ์มนตรี ผู้อำนวยการลูกค้าองค์กรธุรกิจของฮัทช์ บอกว่าแม้ตอนนี้เครือข่ายฮัทช์จะครอบคลุมเพียง 25 จังหวัดเท่านั้น แต่ภายในสิ้นปีนี้ก็จะครบทั่วประเทศ โดยเชื่อมโยงเข้ากับโครงข่ายเดียวกันของ กสท ซึ่งได้รับสัมปทานส่วนต่ออีก 51 จังหวัดทันที

ปีที่แล้วฮัทช์มีลูกค้าที่เลือกใช้ Aircard มากถึง 6,000 ราย ซึ่งทั้งหมดกลายเป็นลูกค้าแบบจดทะเบียนของฮัทช์ไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจาก Aircard ต้องอาศัย R-UIM ที่เหมือนกับซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือเพื่อใช้สำหรับเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านสัญญาณโทรศัพท์ของฮัทช์ด้วย

ปีนี้ฮัทช์ตั้งเป้าที่จะมีคนใช้เพิ่มขึ้นถึง 30,000 ราย เหนือสิ่งอื่นใดนั่นหมายถึงรายได้ที่เพิ่มขึ้นนอกเหนือจากการให้บริการทางเสียงหรือคอนเทนต์ของตัวเองด้วย เนื่องจากนิรันดรยอมรับว่า เมื่อเทียบกันแล้ว รายจ่ายค่าบริการต่อหัวต่อเดือนของ "แอร์พลัส" สูงกว่าการให้บริการทางเสียงแบบจดทะเบียนของฮัทช์ นั่นหมายถึงแหล่งรายได้แห่งใหม่ของฮัทช์นั่นเอง