การแต่งตั้งรองผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจหลักของเครือซิเมนต์ไทยพร้อมกัน 5 คน เมื่อกลางปีก่อน ชลณัฐ ญาณารณพ เป็นคนที่มีอายุน้อยที่สุด

เขาจะมีอายุครบ 46 ปี ในเดือนธันวาคมนี้

ชลณัฐเป็นลูกชายคนโตของกฤษณา อโศกสิน นักประพันธ์ชื่อดัง ถูกส่งเข้าโรงเรียนประจำที่อัสสัมชัญ ศรีราชา จนจบมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก่อนที่จะไปใช้ชีวิตต่อที่อังกฤษ อีก 9 ปี

"บ้านผมเรียนโรงเรียนประจำกันทุกคน ตั้งแต่คุณแม่จบราชินี จนมาถึงผม พอจบ ม.ศ.3 ในปี 2518 คุณแม่ก็ส่งไปเรียนต่อโรงเรียนประจำในอังกฤษ" เขาเล่า

ชลณัฐเรียนจบระดับไฮสกูลจาก Rydal School ในแคว้นเวลส์ หลังจากนั้นเข้าศึกษาจนจบปริญญาตรี สาขา Environment Chemical Engineering จาก Salford University เมือง Manchester ในปี 2525 และกลับมาเป็นผู้ช่วยนักวิจัย ที่สถาบันสภาวะแวดล้อม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยอยู่ 1 ปี จึงไปเรียนต่อจนจบปริญญาโทสาขา Chemical Engineering จาก Imperial College กรุงลอนดอน เมื่อปี 2527

เขาเริ่มต้นชีวิตพนักงานเครือซิเมนต์ไทย ในปี 2528 ถูกจัดเข้ามาอยู่ในธุรกิจปิโตรเคมี ซึ่งขณะนั้นเพิ่งอยู่ในยุคเริ่มต้น

"ผมเข้ามาเป็นคนที่ 5 ตอนนั้นก็มีคุณอภิพร แล้วก็เลขาฯ กับรุ่นพี่อีก 2 คน โรงงานก็ยังไม่ได้สร้าง"

การเข้ามามีส่วนบุกเบิกธุรกิจปิโตรเคมีให้กับเครือซิเมนต์ไทยร่วมกับอภิพร ถือเป็นช่วงชีวิตหนึ่งที่เขาประทับใจ เพราะได้มีโอกาสเรียนรู้ทั้งแนวคิด และวิธีการทำงานของอภิพร จากการที่ต้องร่วมเดินทางไปเจรจาหาผู้ร่วมทุนในหลายประเทศทั่วโลก และในฐานะผู้ที่มีส่วนตัดสินใจว่าจะเลือกใช้เทคโนโลยีของผู้ร่วมทุนรายใดเป็นหลักในการสร้างโรงงานปิโตรเคมีแห่งแรกของเครือ

จากพนักงานคนที่ 5 ของกลุ่มปิโตรเคมี ที่ถึงวันนี้มีพนักงานรวมแล้วกว่า 1,200 คน ชลณัฐถูกคาดหมายว่ากำลังจะก้าวขึ้นเป็นเบอร์ 1 ต่อจากอภิพรที่มีแผนจะเกษียณตัวเองปลายปีนี้

อภิพรพูดถึงเหตุผลที่เลือกชลณัฐมาสืบทอดภารกิจการขยายงานปิโตรเคมีให้กับเครือซิเมนต์ไทยต่อจากเขาว่า เนื่องจากเป็นคนที่มีคุณสมบัติตามที่ต้องการ คือเรียนจบมาทางด้านวิศวกรรมเคมี และสามารถเจรจากับผู้ร่วมทุนชาวต่างประเทศได้เป็นอย่างดี "ที่สำคัญคือเราก็ดูเขามาตั้งแต่ต้น"