|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ พฤษภาคม 2548
|
|
ผลการศึกษาใหม่ระบุ ชายหญิงไม่ได้ต่างกันแค่เพศเท่านั้น แต่อาจมีพันธุกรรมที่แตกต่างกันถึงขนาดเกือบเท่ากับที่มนุษย์ต่างกับลิง
ผลการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ในช่วงไม่กี่ปีมานี้เริ่มบ่งชี้ว่า ชีววิทยามีบทบาทสำคัญในการกำหนดความฉลาดและพฤติกรรมที่แตกต่างกันของชายและหญิง หนำซ้ำความแตกต่างทางชีววิทยา ระหว่างชายหญิงยังมีมากกว่าที่เราเคยคิดไว้มากนัก
ผลการศึกษาล่าสุดที่สร้างความฮือฮาในประเด็นนี้ ซึ่งเพิ่ง ตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารวิทยาศาสตร์ Nature เมื่อไม่นานมานี้ ค้นพบว่า ความแตกต่างทางพันธุกรรมหรือยีนระหว่างชายกับหญิง นั้น มีความแตกต่างกันมากถึงประมาณ 1%
ตัวเลขนี้สำคัญมากก็เพราะว่า มนุษย์กับลิงเองมีลักษณะการเรียงตัวของยีนที่แตกต่างกันมากกว่าตัวเลขข้างต้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้นคือ 1.5%
หรือเท่ากับว่าเรามีลักษณะพันธุกรรมของมนุษย์ที่แตกต่าง กันอยู่ 2 ชุด ชุดหนึ่งเป็นของผู้หญิงและอีกชุดเป็นของผู้ชายนั่นเอง นี่คือคำอธิบายของ Huntington Willard นักพันธุวิทยาแห่งมหา วิทยาลัย Duke หนึ่งในนักวิทยาศาสตร์เจ้าของผลการศึกษาข้างต้น
อธิบายให้ง่ายขึ้นก็คือ เหมือนกับเรามีนาฬิกา 2 เรือนที่หน้าตาเกือบจะเหมือนกันอย่างกับแกะ แต่พอเปิดดูกลไกภายในกลับมีลักษณะที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
นักวิทยาศาสตร์รู้มานานแล้วว่า เพศของมนุษย์ถูกกำหนดด้วยโครโมโซม 2 ตัว กล่าวคือ มนุษย์ที่จะเป็นเพศหญิงจะต้องได้รับโครโมโซม X ตัวหนึ่งจากมารดา และโครโมโซม X อีกตัวจากบิดา
ในขณะที่เพศชายคือมนุษย์ที่ได้รับโครโมโซม X จากมารดา และได้รับโครโมโซม Y จากบิดา และตลอด 40 ปีที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์เชื่ออยู่เสมอว่า โครโมโซม X ตัวที่สองของผู้หญิงนั้นไม่ทำงาน มีเพียงตัวแรกที่ทำงานอยู่ตัวเดียว
แต่ผลการศึกษาล่าสุดในวารสาร Nature ดังกล่าวกลับพบว่า 20% ของยีนที่อยู่ในโครโมโซม X ตัวที่สองยังคงทำงานอยู่ โดยที่ในแต่ละโครโมโซม (อันหมายถึงกลุ่มของยีน) จะประกอบด้วยยีนอยู่ประมาณ 200 ยีน ดังนั้น ลักษณะยีนของผู้หญิงจึงมีความซับซ้อนและหลากหลายมากกว่ายีนของผู้ชาย
ก่อนหน้านี้ นักวิทยาศาสตร์ก็เคยคิดว่า ฮอร์โมนคือกลไกหลักที่กำหนดความแตกต่างทางเพศ แต่ตอนนี้นักวิทยาศาสตร์เริ่มค้นพบว่า ฮอร์โมนเพศมีผลในการกำหนดความแตกต่าง ทาง "กายภาพ" ของเพศชายกับเพศหญิงเท่านั้น แต่ไม่มีผลต่อพัฒนาการทางสมองที่แตกต่างกันของชายหญิงเลยแม้แต่นิดเดียว
ผลการศึกษาแฝดสามที่เป็นเพศชาย 2 คนและเพศหญิง 1 คนพบว่า แม้ทารกเพศ หญิงเพียงคนเดียวในแฝดสาม อาจจะได้รับฮอร์โมน testosterone ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศชายมากกว่าปกติไปบ้าง แต่ฮอร์โมนนั้นไม่มีผลต่อพัฒนาการของสมองของเธอแต่อย่างใด
แต่สิ่งที่มีผลต่อการพัฒนาสมองของมนุษย์แน่ๆ ก็คือ ความแตกต่างของยีนของเพศหญิงเพศชาย ดังจะเห็นได้จากเด็กชายที่เป็นโรค down syndrome แต่กำเนิด ซึ่งทำให้สมองมีความบกพร่องในการรับรู้ มีสาเหตุจากการมียีนเกินในโครโมโซมที่ 21 ซึ่งเป็นหลักฐานยืนยันว่า ยีนมีผลต่อสมอง
แล้วยีนส่งผลให้สมองของเพศหญิงกับเพศชายแตกต่างกันอย่างไรบ้าง นักวิทยาศาสตร์ยังเพิ่งอยู่ในขั้นเริ่มต้นของการพยายาม ตอบคำถามนี้ เท่าที่รู้ในตอนนี้ก็คือ เห็นได้อย่างชัดเจนว่า ผู้ชายกับผู้หญิงมีวิธีคิดที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ในเรื่องทิศทางหรือการระบุตำแหน่งที่ตั้ง ผู้ชายจะคิดในเชิงระยะทาง (เช่นเดินไปทางเหนือ 200 เมตรแล้วเลี้ยวซ้าย) แต่ผู้หญิงจะมองหาสิ่งสำคัญที่เป็นจุดสังเกตในการสแกนการทำงานของสมองของผู้ชายและผู้หญิงขณะให้คิดเรื่องคำคล้องจอง พบความ แตกต่างของการเดินวงจรของสมองในการทำงานชนิดเดียวกัน
นอกจากนี้ผู้หญิงจะมีส่วนของสมองที่เรียกว่า gray matter หรือเซลลประสาทชนิดธรรมดามากกว่าผู้ชายอยู่ประมาณ 15-20% และผู้หญิงยังมีส่วนของสมองที่เรียกว่า white matter หรือเซลลประสาทชนิด long neuron ซึ่งช่วยให้สมองสามารถกระจาย การทำงาน ยังกระจุกตัวอยู่บริเวณรอยต่อระหว่างสมองซีกซ้ายและ ซีกขวา ซึ่งลักษณะเช่นนี้อาจมีส่วนช่วยให้ผู้หญิงสามารถใช้สมองทั้งสองซีกในการทำการคิดที่เกี่ยวกับภาษา
ผลการสอบความถนัดทางวิชาการ ซึ่งเป็นข้อสอบเข้ามหา วิทยาลัยในสหรัฐฯ มักพบอยู่เสมอว่า ผู้หญิงจะทำคะแนนในวิชาคณิตศาสตร์ได้ต่ำกว่าผู้ชาย และแม้ผู้หญิงจะทำคะแนนได้ดีกว่าในวิชาภาษา แต่ก็ยังได้คะแนนต่ำกว่าผู้ชายเล็กน้อย หรือความจริงที่ว่า มีผู้หญิงเรียนในคณะวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมน้อยกว่าผู้ชาย ล้วนเป็นสิ่งที่ยืนยันถึงความแตกต่างของสมองของเพศหญิงเพศชาย ที่มีผลมาจากการมีลักษณะของยีนที่แตกต่างกัน
อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกคำถามหนึ่งที่ยังไม่ได้ตอบคือสภาพ แวดล้อมที่มนุษย์โตมา ไม่ว่าจะเป็นการศึกษา การเลี้ยงดู โภชนาการ การเผชิญความเครียด สารเคมีที่ได้รับ และอื่นๆ อีกมากมาย มีผล ให้หญิงชายมีพัฒนาการของสมองที่แตกต่างกันด้วยหรือไม่ การที่เด็กผู้ชายมักจะพูดได้ช้ากว่าเด็กผู้หญิง เป็นเพราะยีนที่แตกต่างกัน หรือเป็นเพราะเด็กผู้ชายมักใช้เวลาเล่นรถบรรทุกเด็กเล่นมากกว่าพูดกับเพื่อนกันแน่
แม้ว่าในที่สุดนักวิทยาศาสตร์อาจสามารถศึกษาค้นคว้าจนเข้าใจถึงกลไกการทำงานของยีนที่แตกต่างกันในชายหญิงได้ แต่เมื่อถึงเวลานั้นเราจะสามารถสรุปได้ง่ายๆ หรือว่า การที่หญิงชายมีสมองหรือความสามารถที่แตกต่างกันนั้นเป็นเพราะว่ายีน
และแม้ว่าเพศหญิงและเพศชายอาจจะมียีนที่แตกต่างกันอย่างมากราวกับเป็นคนละสปีชีส์ แต่มนุษย์แต่ละคนนั้นมีศักยภาพ และความสามารถที่แตกต่างกันอย่างกว้างขวาง จนแม้กระทั่งความ แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงของยีนของแต่ละเพศ ก็ไม่อาจขัดขวางไม่ให้ผู้หญิงอยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ และผู้ชายอยากเป็นนักเขียนบทละครได้
แปลและเรียบเรียงจาก Newsweek March 28, 2005
โดย เสาวนีย์ พิสิฐานุสรณ์
|
|
|
|
|